Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 25-10-23


25 ตุลาคม 2566
เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 25-10-23

25-10-23 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ   

***วันนี้ว่ากันด้วยเรื่องหุ้นไอพีโอล้วนๆ  เริ่มจาก TRP เมื่อวานเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นวันแรก..จัดว่าอยู่ในระดับน่าประทับใจเพราะจากราคาจองที่ 14 บาท ตอนเช้าเด้งขึ้นไปเปิดที่ 16.50 บาท +17.86 % และสุดท้ายลงมาปิดตลาดที่ราคา 15.80 บาท เพิ่มขึ้น 1.80 บาท หรือ 12.86% มีมูลค่าการซื้อขายรวม 1,347.60 ล้านบาท

***"หมอชลธิศ" ในฐานะ CEO ของ TRP บอกว่าเงินที่ได้จากการระดมทุนราว 1,215.28 ล้านบาท (ภายหลังหักค่าใช้จ่ายการเสนอขาย) จะเอาไปก่อสร้างโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้าแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย จำนวน 450 ล้านบาท, จัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ 80 ล้านบาท, ชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน 95.44 ล้านบาท และส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ การลงทุนอื่นๆ และการขยายธุรกิจของบริษัทในอนาคต

***ส่วนวันนี้ (25 ต.ค.66) มารอลุ้น  WINDOW ลงสนามเทรดว่าจะเป็นอย่างไร..เรื่องนี้ผู้บริหารหนุ่มหล่อ "ธนินทร์ รัตนศิริวิไล" มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากบริษัทฯ มีศักยภาพในการเติบโต และฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดยทีมผู้บริหารมีความตั้งใจในการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน

***จุดเด่นของหุ้น WINDOW คือ การเป็นบริษัทผู้นำด้านการผลิตและผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประตูและหน้าต่างที่ทำจากอลูมิเนียมและยูพีวีซี โดยมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่เป็นแบบสำเร็จรูปและแบบสั่งผลิต ภายใต้ตราสินค้าที่เป็นของทางบริษัทฯ และของคู่ค้า โดยมีผลการดำเนินงานรายได้เติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนผลงานการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกปี 2566  มีรายได้รวม 526.88 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 42.05 ล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้รวม 536.02 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 64.56 ล้านบาท 

***ส่วน MCA จะเข้าซื้อขายในตลาด mai ในหมวดธุรกิจบริการ  26 ต.ค.นี้ แต่ผู้บริหารมีเรื่องที่ต้องแจ้งให้ทราบคือ ในวันแรกที่เข้าเทรด "ภักดี เหล่างาม" จะนำหุ้นร้อยละ 5 ของทุนจดทะเบียนหลัง IPO ขายให้นักลงทุน 2 ราย คือ  นายรัฐนันท์ วิไลลักษณ์ และนางสาวนลินี แจ่มวุฒิปรีชา ในสัดส่วน ร้อยละ 3.91 และ ร้อยละ 1.09 ผ่านกระดาน Big Lot  โดยราคาซื้อขายดังกล่าวจะไม่ต่ำกว่าราคาที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปที่ระดับ 3.30 บาท 

***"ภักดี เหล่างาม" คือ CEO ของ MCA หรือ บมจ.มาร์เก็ต คอนเน็กชั่นส์ เอเชีย บอกว่าการทำ Big Lot ครั้งนี้กับผู้ลงทุนทั้ง 2 ราย ไม่มีความเกี่ยวข้องระหว่างกัน และไม่มีความเกี่ยวข้องกับกรรมการ ผู้บริหาร ผู้มีอำนาจควบคุม และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ อีกทั้ง ไม่มีการทำสัญญาผู้ถือหุ้น (Shareholder Agreement) ระหว่างนักลงทุนหรือระหว่างนักลงทุนกับผู้ขาย โดยการซื้อขายหุ้นครั้งนี้ ไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างคณะกรรมการ และโครงสร้างผู้บริหารของบริษัทฯ แต่อย่างใด 

***ที่จริงก้อไม่ได้ตั้งใจจะว่าใครนะ แต่มันตะหงิด-ตะหงิด เลยอยากสะกิดให้รายย่อยลองไตร่ตรองซักนิด ในกรณีของ MCA ที่ถูกดำเนินการขายบิ๊กล็อตต่อให้นักลงทุน 2 ราย ตั้งแต่วันแรกที่เข้าเทรด..แปลว่าอะไร??? ดูนามสกุลคนที่ซื้อหุ้นเอาเถอะ!!! จะบอกว่าอะไรๆ จะไม่เปลี่ยนแปลง แต่เข้าตลาดหุ้นปุ๊บ-ก้อ-ขายออกปั๊บ!!  อนาคตจะเป็นยังไงต่อไปเนอะ หึ-หึ!!! มันไม่ได้ผิดกฎหมายนะ เพราะเรื่องนี้แจ้งอยู่ในไฟลิ่งและก.ล.ต.เห็นแล้ว ..แต่ในใจมันอดคิดไม่ได้อ่ะ!!!

***มาถึงหุ้น SAFE บ้าง..เคาะราคาไอพีโอแล้วจ้าาาาา  กำหนดไว้ที่ 21 บาท/หุ้น เตรียมเปิดจองซื้อ 25-27 ต.ค.นี้ มีบล.บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นหลีดอันเดอร์ไรท์ฯ และมีโควฯร่วมคือ บล.กรุงศรี บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) และ บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด 

*** SAFE ให้บริการคลินิกการแพทย์เฉพาะทางเพื่อการมีบุตร ให้บริการด้านการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ทางการแพทย์แบบครบวงจรในไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการให้บริการด้านการเจริญพันธุ์ในระดับสากล และได้รับการรับรองมาตรฐานคลินิกเด็กหลอดแก้วจากสถาบัน RTAC จากประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เป็นแห่งแรกของประเทศไทย ให้บริการตั้งแต่ให้คำแนะนำ คำปรึกษา ตลอดจนให้การรักษาแก่ผู้มีบุตรยากและการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนแบบพิเศษ การแช่แข็งไข่ ฝากไข่ อสุจิ และตัวอ่อน เพื่อโอกาสในการเติมเต็มความฝันของการมีบุตรในอนาคต 

*** "พิเชษฐ สิทธิอำนวย" ในฐานะหลีกอันเดอร์ไรท์ คาดว่าจะสามารถนำหุ้น SAFE เข้าซื้อขายใน SET ภายในเดือนพฤศจิกายน 2566 ส่วนราคา IPO มีความเหมาะสม สะท้อนความแข็งแกร่งในการเป็นผู้นำรักษาผู้มีบุตรยากและด้านวินิจฉัยพันธุกรรมตัวอ่อนและเวลเนสในภูมิภาคเอเชีย ทั้งนี้ SAFE มีแผนนำเงินที่ได้จากการระดมทุนนั้น ใช้เป็นเงินลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจในอนาคต รวมถึงเพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในโครงการขยายสาขา และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ