Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 04-10-23


04 ตุลาคม 2566
เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 04-10-23

04-10-23 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ   

***ในวันที่ตลาดหุ้นแดงเถือกกกกก..ทำเอาใจเราสั่นๆ เจ๊ต้องขอบคุณ JPARK  ที่ส่องแสงประกายสีเขียวออกมา จากราคาไอพีโอที่ 3.80 บาท เมื่อวานนี้เด้งขึ้นไปยืนสูงสุดที่ 5.35 บาท และปิดตลาดที่ 4.66 บาท เพิ่มขึ้น 0.86 บาทหรือ +22.63% มีมูลค่าการซื้อขายรวมมากถึง 2,282.81ล้านบาท  

***เรื่องร้อนของเมื่อวานคงต้องยกให้กับการแถลงข่าวของ EA ออกมาเปิดเผยเรื่องศาลปกครองเพชรบุรี มีคำสั่งทุเลาโครงการเสนอขายไฟฟ้าของโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี พ.ศ.2565-2573  หลัง “เทพสถิต วินด์ฟาร์ม”  ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ EA ที่ได้ยื่นเรื่องฟ้อง กกพ. โดยสาเหตุที่ศาลมีคำสั่งให้ทุเลาเพราะเบื้องต้นน่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้งมีเรื่องการคัดเลือกผู้เข้าทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า น่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายด้วย ซึ่งเป็นผลให้ผู้ฟ้องคดีตกเป็นผู้ไม่ผ่านการพิจารณาอุทธรณ์ความพร้อมทางด้านเทคนิคขั้นต่ำตามเกณฑ์ผ่านหรือไม่ผ่าน (Pass/Fail Basis) ตามประกาศ กกพ.

***นอกจากนี้  EA ได้เรียกร้องให้ กกพ.ทบทวนหลักเกณฑ์ใหม่เพื่อสร้างความชัดเจนในการกำหนดคุณสมบัติ และไม่ต้องรีบทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าตามกำหนดภายในเดือน ต.ค.นี้ หวั่นจะเป็นเหตุให้ประเทศชาติเสียประโยชน์จากการรับซื้อไฟฟ้าโดยไม่อาจแก้ไขเยียวยาได้อีกตลอดระยะเวลา 25 ปี

***เงินบาทยังอ่อนค่าต่อเนื่อง ล่าสุดทะลุระดับ 37 บาท/เหรียญฯ  กูรูหุุ้นระบุว่าภาวะดังกล่าวถือว่าน่ากังวลสำหรับทิศทาง Fund Flow โดยอาจทำให้เม็ดเงินยังไม่ไหล กลับเข้าสู่ตลาดการเงินบ้านเรา อย่างไรก็ตามยังพอมีความหวัง เนื่องจากผลการศึกษาข้อมูลย้อนหลังพบว่าไตรมาส 4 ของปี ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา พบว่าเงินบาทมักจะมีการกลับมาแข็งค่าเฉลี่ย 3.5% สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทย 

***มีรายงานว่าค่าเงินบาทอ่อนค่ากว่า 7.1% ตั้งแต่ต้นปี ส่วนหนึ่งเนื่องจาก Fund Flow ไหลออกจากตลาดการเงินรวม 3 แสนล้านบาท นับตั้งแต่ต้นปี 2566 (Ytd) โดยแบ่งเป็นตราสารทุน 1.6 แสนล้านบาท และตราสารหนี้ 1.4 แสนล้านบาท หลังผลต่างระหว่างดอกเบี้ยสหรัฐฯ และไทย ห่างกับค่อนข้างมาก (ดอกเบี้ยในเดือน ส.ค.66 ; สหรัฐฯ 5.5%, ไทย 2.25%) นอกจากนี้ยังมีแรงกดดันจากภาคการส่งออกที่หดตัวมานานนับปี ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก ทำให้ไทยขาดดุลทางการค้าในเดือน ส.ค.66

***ส่วนสัญญาณทางเทคนิคให้กรอบการเคลื่อนไหวช่วงสั้นคาดอยู่ในกรอบ 37.00 – 37.50 บาท/เหรียญฯ ขณะที่หากพิจารณาในเชิงเทคนิคในระยะถัดไปมีโอกาสชะลอ การอ่อนค่า และกลับมาแข็งค่าได้ โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวอยู่ที่ 35.00 – 35.50 บาท/เหรียญฯ 

***ระหว่างนี้เซียนหุ้นบอกว่าได้ค้นหาหุ้นที่มีค่า P/E24F ต่ำกว่าระดับ -1SD ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าราคาหุ้นปัจจุบันถือว่าถูกกว่าในช่วงอดีตที่ผ่านมามาก  น่าทยอยสะสมเพื่อหวังผลตอบแทนที่ดีขึ้นในระยะกลางถึงยาว ดังนี้  SCGP-STEC -BGRIM -RATCH-TIDLOR-HMPRO-GULF-SPALI -KBANK-SAWAD-SCC-CPALL-CPN-MTC-SCB -KTB

***ปิดท้ายวันนี้กับหุ้นเจ๋งๆ คือ SFLEX ได้ออกมาเปิดเปิดแผนบันได 3 ขั้น สำหรับการดำเนินธุรกิจในระยะยาวเพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน..งานนี้ทั่น CEO "ดร.สมโภชน์ วัลยะเสวี " บอกว่า “SFLEX เดินทางผ่านบันได 2 ขั้นเรียบร้อยแล้ว  กำลังมุ่งหน้าสู่ขั้นที่ 3 ซึ่งหากบรรลุจุดมุ่งหมายทั้ง 3 ขั้นแล้ว เชื่อว่าจะเป็นแนวทางผลักดันให้บริษัทฯ มีความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว โดยตั้งเป้ารายได้ไม่น้อยกว่า 6,000 ล้านภายในปี 2570 นำไปสู่ความยั่งยืนในอนาคตอย่างถาวร”

***สำหรับบันได 3 ขั้นของ SFLEX ประกอบด้วย บันไดขั้นที่ 1 คือการ Joint Venture กับกลุ่มผู้ผลิตอาหารทะเลรายใหญ่ที่มีการวางจำหน่ายสินค้าไปทั่วโลก ซึ่งภายหลังการ Synergy ทำให้ SFLEX สามารถรับรู้ Megatrend ของการใช้บรรจุภัณฑ์อาหารจากลูกค้าของหุ้นส่วนทั่วโลก และมองเห็นโอกาสการเติบโตในตลาดบรรจุภัณฑ์อาหารได้อีกมาก พร้อมเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และก้าวสู่การเป็นผู้นำบรรจุภัณฑ์ด้านอาหารในระยะเวลาอันสั้น

***บันไดขั้นที่ 2 คือ การจับมือกับบริษัทบรรจุภัณฑ์ขนาดใหญ่ ซึ่งก่อให้เกิดการ Synergy ในหลายมิติ ทั้งเป็นการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าบรรจุภัณฑ์ให้มากขึ้น สร้างโอกาสของผลิตภัณฑ์เดิมที่จะขยายสู่ตลาดโลก โดยผ่านฐานลูกค้าเดิม สามารถใช้ความได้เปรียบเชิงพื้นที่ (Locational Advantage) ในการจัดหาแหล่งวัตถุดิบต้นทุนต่ำ และสุดท้ายเกิดความร่วมมือในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความยั่งยืนในอนาคต

***บันไดขั้นที่ 3 คือ การหา Partner ที่เหมาะสมกับอุตสาหกรรมต้นน้ำ เพื่อสร้างนวัตกรรมในการผลิตและวัตถุดิบที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งสามารถบรรลุจุดมุ่งหมายของบริษัทฯ ในการสร้าง Common Spec ของวัตถุดิบที่สามารถใช้งานได้หลากหลายยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการวัตถุดิบ และสุดท้ายบริษัทฯ สามารถลดต้นทุนวัตถุดิบได้ในระยะยาว