เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 03-10-23
03-10-23 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***ฤกษ์ดี JPARK เคาะระฆังเทรดตลาด mai วันนี้ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะหลีดอันเดอร์ไรท์ เชื่อมั่นว่านักลงทุนจะให้การตอบรับที่ดี จากการกำหนดราคาเสนอขายที่ 3.80 บาทต่อหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ซึ่งนักลงทุนได้จองซื้อหุ้นครบทั้งจำนวน 110 ล้านหุ้น ด้วยราคาเสนอขายที่มีความเหมาะสม และสะท้อนพื้นฐานธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง และโอกาสในการเติบโตในอนาคต ด้วยการให้บริหารที่จอดรถด้านการบริหารที่จอดรถอย่างครบวงจร ส่วนที่ปรึกษาทางการเงิน "APM หรือ แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์" ก้อมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน โดย JPARK มีโครงสร้างรายได้ที่มีความมั่นคง และฐานะทางการเงินที่เข้มแข็ง
***ทางด้าน "สันติพล เจนวัฒนไพศาล" ผู้บริหาร JPARK บอกว่าเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้มีแผนที่นำไปใช้ลงทุนขยายโครงการอาคารจอดรถโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าจำนวน 6 ชั้น รองรับรถยนต์ได้ 532 คัน และรองรับรถจักรยานยนต์ได้ 72 คัน โดยมีพื้นที่ใช้สอย 18,242 ตารางเมตร พื้นที่พาณิชย์ 2,049 ตารางเมตร ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปี 2567 ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจต่อไป
***ปรบมือรัวๆๆๆ ให้กับ EP ภายใต้การบริหารของ "ป๋ายุทธ" ปิดจ๊อบไปเรียบร้อย!! ทั้งเรื่องการไถ่ถอนหุ้นกู้ 2 ชุด รวม 1,520 ล้านบาทครบถ้วน และขายหุ้นกู้ชุดใหม่ได้ 670 ล้านบาท สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อ EP ตอนนี้เดินหน้าลุยธุรกิจไม่ยั้ง!!!
***บัดนาว EP ทำธุรกิจพลังงานสะอาดเป็นหลัก มีโครงการ Solar Rooftop, Solar farm ในไทย มีกำลังการผลิตรวม 32.45 เมกะวัตต์ ซึ่งส่วนใหญ่ดำเนินการขายไฟฟ้าให้แก่ภาคเอกชน และมี Wind farm 4 โครงการ ขนาด 160 เมกะวัตต์ ในเวียดนาม (ใช้งบลงทุนเมื่อ 3 ปีที่แล้วราว 8,000 ล้านบาท) ประกอบด้วย โครงการในจังหวัด Gia Lai จำนวน 2 โครงการ ขนาด 100 เมกะวัตต์ และในจังหวัด Huong Linh จำนวน 2 โครงการ ขนาด 60 เมกะวัตต์ ปัจจุบัน HL3 ได้จ่ายไฟเข้าระบบครบถ้วน รอใบประกอบกิจการก็จะ COD และรับรู้รายได้ทันที ส่วน Gai Lai พร้อมจ่ายไฟเข้าระบบ 100% เพียงรออนุมัติจากการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) เท่านั้น EP คาดว่าจะมีรายได้จากการขายไฟฟ้ารวมทั้ง 4 โครงการ ประมาณเดือนละ 50 ล้านบาท ในปี 2566 และ 100 ล้านบาท ในปี 2567
***TACC ไม่มีตกเทรนด์เสิร์ฟ “ชาพีช วิตามินซีสูง” Peach Tea Hi-C ต้อนรับเทศกาลกินเจจับกลุ่มคนรักสุขภาพ ท่านที่สนใจหาซื้อดื่มได้เลยที่ร้าน 7-ELEVEN ทั่วประเทศ ความพิเศษของ Peach Tea Hi-C คือ การคัดสรรโปรไฟล์กลิ่นพีชจากสายพันธุ์ Fukushima Akatsuki Peach ของญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความหอมหวานของลูกพีช นำมาผสมผสานเข้ากับรสเข้มข้นของชาดำและชาเขียว ได้เป็นชาพีชที่มีกลิ่นหอมพีชฉ่ำๆ รสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย ให้ผู้ดื่มรู้สึกเต็มเปี่ยมไปด้วยอรรถรสของความละมุนและสดชื่นอย่างลงตัว และที่สำคัญคือมีวิตามินซีสูง
***บิ๊กบอส "ชัชชวี" บอกถึงแผนงานในช่วงครึ่งหลังปีนี้ว่า TACC จะขยายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม Health and Wellness เต็มรูปแบบ โดยกลุ่มธุรกิจ B2B (7-Eleven) ได้มุ่งมั่นพัฒนาสินค้า Core Menu และ New Menu และออกสินค้าใหม่ร่วมกันในฐานะ Key Strategic Partner ทั้งเครื่องดื่มเย็นในโถกด (Jet Spray) และเครื่องดื่ม Non-Coffee Menu ใน All Café ทั้งในประเทศไทย และ 7-Eleven ต่างประเทศ กลุ่มธุรกิจ B2C (Non 7-Eleven) พร้อมเดินหน้าขยาย Brand TRIVA (ทรีว่า) ไซรัปผลไม้เข้มข้นจากธรรมชาติทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการและสร้างความแตกต่างให้กับผู้ประกอบการร้านค้า คาเฟ่ (Total solution service offering) เพื่อขยายฐานลูกค้าในกลุ่มต่างๆ และคาดว่ารายได้รวมปี 2566 จะโต 10% ตามเป้าหมาย
***ยังไม่พ้นเรื่องของเข้าปากค่ะคุนข๋า บมจ.เจริญอุตสาหกรรม หรือชื่อย่อหุ้นคือ "CH" ส่งขนมไทยอบกรอบ แบรนด์ Bangkok Tasty (by CH) 5 รสชาติ ประกอบด้วย 1.ข้าวเหนียวมะม่วง 2.ข้าวเหนียวทุเรียน 3.ข้าวเหนียวถั่วดำ 4.กล้วยบวชชี 5.เผือกบวด เข้าจำหน่ายในห้าง BigC และ Lotus ตามสาขาหัวเมืองท่องเที่ยวหลัก ที่เป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวทั่วประเทศเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังเตรียมขยายช่องทางการวางจำหน่ายไปยังร้าน 7-Eleven ประมาณ 25-30 สาขาทั่วประเทศภายในเดือนนี้ ***กา-ดอก-จัน เอาไว้ตัวเบ้อเริ่มเลยนะ...เจ๊จิ๋มแนะนำให้ไปชิมอร่อยทุกรสจริงๆ โดยเฉพาะ "ข้าวเหนียวทุเรียน" ฟินเวอร์ร์ร์ร์ร์!!!! ไม่ลองไม่รู้นะจ๊ะ..ว่าของเค้าเริ่ดแค่ไหน
***ส่วนครึ่งปีหลังนี้ "เฮียศักดา" ทั่น CEO กระซิบว่าจะสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นของการส่งออกผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูป ทั้งคาดว่าจะได้ผลตอบรับที่ดีจากแผนการขยายตลาดอย่างต่อเนื่องและการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาด นอกจากนี้ CH มีแผนนำผลิตภัณฑ์ออกบูธในงานแสดงสินค้า และเข้าร่วมงานประกวดผลิตภัณฑ์ในต่างประเทศ พร้อมทั้งเดินสายพบปะลูกค้าในแถบสหรัฐอเมริกา เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ และกระชับความสัมพันธ์ฐานลูกค้าเดิมอย่างต่อเนื่อง และมุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงต่อไป
***สุดยอดไปเลย!!! ทริสฯ คงอันดับเครดิตองค์กร "BBB+" แนวโน้ม "Stable" สำหรับ SSP สะท้อนภาพความแข็งแกร่งของบริษัทฯ เป็นการบ่งบอกว่าโรงไฟฟ้าจะมีผลการดำเนินงานที่ดีต่อเนื่อง และจะสร้างกระแสเงินสดได้ตามที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ยังคาดว่าบริษัทฯ จะขยายกำลังการผลิต โดยมีกระแสเงินสดต่อภาระหนี้อยู่ในระดับที่ทริสเรทติ้งประมาณการไว้
***"การที่ทริสฯ จัดอันดับองค์กรให้อยู่ระดับ BBB+ นั้น ถือเป็นสิ่งที่ดี และตอกย้ำความเข้มแข็งในด้านฐานะการเงินของบริษัทฯ ซึ่งมีความพร้อมในการรองรับแผนการขยายพอร์ตโรงไฟฟ้า Renewable ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมไปถึงการใช้กลยุทธ์ในการเข้าซื้อกิจการ ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยสนับสนุนทำให้พอร์ตกำลังผลิตเติบโตเป็นเท่าตัวในอีก 3 ปีข้างหน้าแตะ 500 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตตามสัดส่วนที่บริษัทเป็นเจ้าของอยู่ที่ 241 เมกะวัตต์" บิ๊กบอส SSP กล่าวไว้
03-10-23 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***ฤกษ์ดี JPARK เคาะระฆังเทรดตลาด mai วันนี้ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะหลีดอันเดอร์ไรท์ เชื่อมั่นว่านักลงทุนจะให้การตอบรับที่ดี จากการกำหนดราคาเสนอขายที่ 3.80 บาทต่อหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ซึ่งนักลงทุนได้จองซื้อหุ้นครบทั้งจำนวน 110 ล้านหุ้น ด้วยราคาเสนอขายที่มีความเหมาะสม และสะท้อนพื้นฐานธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง และโอกาสในการเติบโตในอนาคต ด้วยการให้บริหารที่จอดรถด้านการบริหารที่จอดรถอย่างครบวงจร ส่วนที่ปรึกษาทางการเงิน "APM หรือ แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์" ก้อมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน โดย JPARK มีโครงสร้างรายได้ที่มีความมั่นคง และฐานะทางการเงินที่เข้มแข็ง
***ทางด้าน "สันติพล เจนวัฒนไพศาล" ผู้บริหาร JPARK บอกว่าเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้มีแผนที่นำไปใช้ลงทุนขยายโครงการอาคารจอดรถโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าจำนวน 6 ชั้น รองรับรถยนต์ได้ 532 คัน และรองรับรถจักรยานยนต์ได้ 72 คัน โดยมีพื้นที่ใช้สอย 18,242 ตารางเมตร พื้นที่พาณิชย์ 2,049 ตารางเมตร ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปี 2567 ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจต่อไป
***ปรบมือรัวๆๆๆ ให้กับ EP ภายใต้การบริหารของ "ป๋ายุทธ" ปิดจ๊อบไปเรียบร้อย!! ทั้งเรื่องการไถ่ถอนหุ้นกู้ 2 ชุด รวม 1,520 ล้านบาทครบถ้วน และขายหุ้นกู้ชุดใหม่ได้ 670 ล้านบาท สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อ EP ตอนนี้เดินหน้าลุยธุรกิจไม่ยั้ง!!!
***บัดนาว EP ทำธุรกิจพลังงานสะอาดเป็นหลัก มีโครงการ Solar Rooftop, Solar farm ในไทย มีกำลังการผลิตรวม 32.45 เมกะวัตต์ ซึ่งส่วนใหญ่ดำเนินการขายไฟฟ้าให้แก่ภาคเอกชน และมี Wind farm 4 โครงการ ขนาด 160 เมกะวัตต์ ในเวียดนาม (ใช้งบลงทุนเมื่อ 3 ปีที่แล้วราว 8,000 ล้านบาท) ประกอบด้วย โครงการในจังหวัด Gia Lai จำนวน 2 โครงการ ขนาด 100 เมกะวัตต์ และในจังหวัด Huong Linh จำนวน 2 โครงการ ขนาด 60 เมกะวัตต์ ปัจจุบัน HL3 ได้จ่ายไฟเข้าระบบครบถ้วน รอใบประกอบกิจการก็จะ COD และรับรู้รายได้ทันที ส่วน Gai Lai พร้อมจ่ายไฟเข้าระบบ 100% เพียงรออนุมัติจากการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) เท่านั้น EP คาดว่าจะมีรายได้จากการขายไฟฟ้ารวมทั้ง 4 โครงการ ประมาณเดือนละ 50 ล้านบาท ในปี 2566 และ 100 ล้านบาท ในปี 2567
***TACC ไม่มีตกเทรนด์เสิร์ฟ “ชาพีช วิตามินซีสูง” Peach Tea Hi-C ต้อนรับเทศกาลกินเจจับกลุ่มคนรักสุขภาพ ท่านที่สนใจหาซื้อดื่มได้เลยที่ร้าน 7-ELEVEN ทั่วประเทศ ความพิเศษของ Peach Tea Hi-C คือ การคัดสรรโปรไฟล์กลิ่นพีชจากสายพันธุ์ Fukushima Akatsuki Peach ของญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความหอมหวานของลูกพีช นำมาผสมผสานเข้ากับรสเข้มข้นของชาดำและชาเขียว ได้เป็นชาพีชที่มีกลิ่นหอมพีชฉ่ำๆ รสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย ให้ผู้ดื่มรู้สึกเต็มเปี่ยมไปด้วยอรรถรสของความละมุนและสดชื่นอย่างลงตัว และที่สำคัญคือมีวิตามินซีสูง
***บิ๊กบอส "ชัชชวี" บอกถึงแผนงานในช่วงครึ่งหลังปีนี้ว่า TACC จะขยายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม Health and Wellness เต็มรูปแบบ โดยกลุ่มธุรกิจ B2B (7-Eleven) ได้มุ่งมั่นพัฒนาสินค้า Core Menu และ New Menu และออกสินค้าใหม่ร่วมกันในฐานะ Key Strategic Partner ทั้งเครื่องดื่มเย็นในโถกด (Jet Spray) และเครื่องดื่ม Non-Coffee Menu ใน All Café ทั้งในประเทศไทย และ 7-Eleven ต่างประเทศ กลุ่มธุรกิจ B2C (Non 7-Eleven) พร้อมเดินหน้าขยาย Brand TRIVA (ทรีว่า) ไซรัปผลไม้เข้มข้นจากธรรมชาติทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการและสร้างความแตกต่างให้กับผู้ประกอบการร้านค้า คาเฟ่ (Total solution service offering) เพื่อขยายฐานลูกค้าในกลุ่มต่างๆ และคาดว่ารายได้รวมปี 2566 จะโต 10% ตามเป้าหมาย
***ยังไม่พ้นเรื่องของเข้าปากค่ะคุนข๋า บมจ.เจริญอุตสาหกรรม หรือชื่อย่อหุ้นคือ "CH" ส่งขนมไทยอบกรอบ แบรนด์ Bangkok Tasty (by CH) 5 รสชาติ ประกอบด้วย 1.ข้าวเหนียวมะม่วง 2.ข้าวเหนียวทุเรียน 3.ข้าวเหนียวถั่วดำ 4.กล้วยบวชชี 5.เผือกบวด เข้าจำหน่ายในห้าง BigC และ Lotus ตามสาขาหัวเมืองท่องเที่ยวหลัก ที่เป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวทั่วประเทศเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังเตรียมขยายช่องทางการวางจำหน่ายไปยังร้าน 7-Eleven ประมาณ 25-30 สาขาทั่วประเทศภายในเดือนนี้ ***กา-ดอก-จัน เอาไว้ตัวเบ้อเริ่มเลยนะ...เจ๊จิ๋มแนะนำให้ไปชิมอร่อยทุกรสจริงๆ โดยเฉพาะ "ข้าวเหนียวทุเรียน" ฟินเวอร์ร์ร์ร์ร์!!!! ไม่ลองไม่รู้นะจ๊ะ..ว่าของเค้าเริ่ดแค่ไหน
***ส่วนครึ่งปีหลังนี้ "เฮียศักดา" ทั่น CEO กระซิบว่าจะสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นของการส่งออกผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูป ทั้งคาดว่าจะได้ผลตอบรับที่ดีจากแผนการขยายตลาดอย่างต่อเนื่องและการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาด นอกจากนี้ CH มีแผนนำผลิตภัณฑ์ออกบูธในงานแสดงสินค้า และเข้าร่วมงานประกวดผลิตภัณฑ์ในต่างประเทศ พร้อมทั้งเดินสายพบปะลูกค้าในแถบสหรัฐอเมริกา เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ และกระชับความสัมพันธ์ฐานลูกค้าเดิมอย่างต่อเนื่อง และมุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงต่อไป
***สุดยอดไปเลย!!! ทริสฯ คงอันดับเครดิตองค์กร "BBB+" แนวโน้ม "Stable" สำหรับ SSP สะท้อนภาพความแข็งแกร่งของบริษัทฯ เป็นการบ่งบอกว่าโรงไฟฟ้าจะมีผลการดำเนินงานที่ดีต่อเนื่อง และจะสร้างกระแสเงินสดได้ตามที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ยังคาดว่าบริษัทฯ จะขยายกำลังการผลิต โดยมีกระแสเงินสดต่อภาระหนี้อยู่ในระดับที่ทริสเรทติ้งประมาณการไว้
***"การที่ทริสฯ จัดอันดับองค์กรให้อยู่ระดับ BBB+ นั้น ถือเป็นสิ่งที่ดี และตอกย้ำความเข้มแข็งในด้านฐานะการเงินของบริษัทฯ ซึ่งมีความพร้อมในการรองรับแผนการขยายพอร์ตโรงไฟฟ้า Renewable ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมไปถึงการใช้กลยุทธ์ในการเข้าซื้อกิจการ ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยสนับสนุนทำให้พอร์ตกำลังผลิตเติบโตเป็นเท่าตัวในอีก 3 ปีข้างหน้าแตะ 500 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตตามสัดส่วนที่บริษัทเป็นเจ้าของอยู่ที่ 241 เมกะวัตต์" บิ๊กบอส SSP กล่าวไว้
ที่เกี่ยวข้อง
