จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : “ยอดใช้น้ำมันพุ่ง-ตรึงดีเซลไม่กระทบ” โบรกฯแนะนำ “ซื้อ” PTG ราคา 13.20 บาท/หุ้น


02 ตุลาคม 2566
การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศปรับเพิ่มขึ้นตามเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น และการเดินทางท่องเที่ยวที่เติบโตก้าวกระโดด กระตุ้นยอดขายน้ำมันของบมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี หรือ PTG  ส่วนมาตรการตรึงราคาดีเซล ทั้งผู้บริหารและโบรเกอร์มั่นใจไม่ได้รับผลกระทบ แนะนำ “ซื้อ” 

รายงานพิเศษ PTG .jpg

กรมธุรกิจพลังงาน ระบุภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยเดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 อยู่ที่ 154.88 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.3% โดยการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้น 5.5% น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เพิ่มขึ้น  70% และการใช้ NGV เพิ่มขึ้น 1% ขณะที่ น้ำมันกลุ่มดีเซล น้ำมันเตาและ LPG มีการใช้ลดลง 3.9%  9.3%และ  0.6% ตามลำดับ

การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน เดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 31.91 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.5%  แก๊สโซฮอล์ 95 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 18.10 ล้านลิตร/วัน และแก๊สโซฮอล์ อี20 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.94 ล้านลิตร/วัน  ขณะที่การใช้แก๊สโซฮอล์ 91 แก๊สโซฮอล์ อี85 และเบนซิน ลดลงมาอยู่ที่ 6.83 ล้านลิตร/วัน 0.19 ล้านลิตร/วันและ 0.47 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ  เนื่องจากส่วนต่างราคาแก๊สโซฮอล์ 95 ใกล้เคียงกับแก๊สโซฮอล์ 91 ประกอบกับแก๊สโซฮอล์ อี20 มีราคาที่ต่ำกว่าแก๊สโซฮอล์ อี85

ส่วนการใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล เดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 70.00 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.9% โดยเป็นการลดลงทุกชนิด  ขณะที่ภาครัฐยังคงมาตรการช่วยเหลือราคาน้ำมันดีเซล โดยใช้มาตรการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลจนถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 และตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2566 ได้ใช้มาตรการตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไว้ที่ 32 บาทต่อลิตร ต่อไปอีกระยะเวลาหนึ่ง โดยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะเข้าไปชดเชย เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและภาคธุรกิจภายใต้สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลโลก

การใช้ LPG เดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 18.19 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.6% โดยภาคปิโตรเคมีมีการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 8.24 ล้าน กก./วัน ภาคครัวเรือนลดลงมาอยู่ที่ 5.70 ล้าน กก./วัน และภาคอุตสาหกรรมลดลงมาอยู่ที่ 2.00 ล้าน กก./วัน แต่การใช้ในภาคขนส่งอยู่ที่ 2.25 ล้าน กก./วัน เพิ่มขึ้น4.3% เนื่องจากราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้น

การใช้ NGV เดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 3.43 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน1.0%  เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินการตามปกติ ประกอบกับมาตรการบรรเทาผลกระทบราคาพลังงานโดย ปตท. ร่วมอุดหนุนกลุ่มรถแท็กซี่และกลุ่มรถโดยสารสาธารณะ ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2566 จนถึงสิ้นปี

สำหรับมาตรการอุ้มราคานน้ำมันดีเซลของรัฐบาล  ผู้บริหาร บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี หรือ PTG  “พิทักษ์ รัชกิจประการ” มั่นใจ ไม่ส่งผลกระทบในเชิงลบกับ PTG  เพราะเป็นการปรับลดผ่านการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต ไม่เกี่ยวข้องกับค่าการตลาดของภาคเอกชน

สอดคล้องกับมุมมอบของ บล.หยวนต้าที่วิเคราะห์ว่า รัฐบาลประกาศนโยบายเร่งด่วนเกี่ยวกับการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ประชาชน โดยจะมีการบริหารจัดการค่าน้ำมันเชื้อเพลิงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

เบื้องต้นคาดรัฐบาลจะไม่มีการแทรกแซงค่าการตลาดน้ำมันดีเซลแต่จะใช้การลดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตดีเซลในการลดค่าน้ำมันเชื้อเพลิงแทน  จึงมองว่า PTG จะได้รับผลกระทบจำกัดจากนโยบายดังกล่าว

และคาดกำไรปกติใน 3Q66 อยู่ที่ระดับ 250-300 ล้านบาท ฟื้นตัว YoY และ QoQ จากค่าการตลาดน้ำมันที่ฟื้นตัวกลับมาอยู่ในระดับ 1.70 บาท/ลิตร +/-

จึงปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้น 2Q67 ที่ 13.20 บาท/หุ้น มี Upside  +32.0%  ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวลงราว 8% ในช่วงที่ผ่านมาจากความกังวลเกี่ยวกับนโยบายลดราคาน้ำมัน ทำให้ราคาปัจจุบันเริ่มมี Downside จำกัด จึงปรับคำแนะนำจาก “TRADING” ขึ้นเป็น “ซื้อ”
PTG