Mr.Data
ผ่ามุมมองตลาดหุ้นไทยในวันที่ฝนซา หลัง “เศรษฐา ทวีสิน” นั่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 นักลงทุนต่างมีความคาดหวัง และมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนตลาดหุ้นไทยมากขึ้น หลังจากในช่วงที่ผ่านมา สถานการณ์ยังคงอึมครึม
สิ่งที่ต้องติดตามต่อไปคือ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ จะเดินหน้าอย่างไร
เนื่องจาก “โจทย์ใหญ่” ของรัฐบาลคือ เดินหน้าปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นปัญหาอันดับแรกที่ต้องเร่งดำเนินการเพราะประชาชนกำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ สถานการณ์หนี้สินของครัวเรือน ภาคธุรกิจขนาดเล็กขนาดกลางได้รับผลกระทบมาแล้วเป็นเวลานาน ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
ควบคู่ไปกับการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงสร้าง และกลไกเพื่อนำไปสู่การสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศให้กลับคืนมาอีกครั้ง!
สัปดาห์นี้ Mr.Data พามาคัดกรองหุ้นเด็ด ผ่านมุมมอง 3 โบรกเกอร์ แต่ละค่ายมีมุมมองอย่างไร
CGS-CIMB เปิดโพย 14 หุ้นเด่น
...เริ่มจาก บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด (CGS-CIMB) ได้คัดกรองหุ้นที่คาดว่าจะรับผลบวกจากเศรษฐกิจฟื้นตัว จากนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งเป็นหุ้น Top pick จำนวน 14 บริษัท ได้แก่ หุ้น AP, BBL, BH, CK, CPALL, CRC, ERW, ICHI, MINT, PR9, ORI, SCB, STEC และ WHA
28 หุ้นเด่น ขี่กระแสรัฐบาลใหม่
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด คัด 28 หุ้นเด่น ที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่
แบ่งเป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย หุ้นกลุ่มค้าปลีก CRC CPALL CPAXT BJC CPF HMPRO หุ้นกลุ่มเช่าซื้อ SAWAD AEONTS KTC TIDLOR MTC หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ LH SC SIRI PR9 ORI CPN และหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว CENTEL ERW MINT และอื่นๆ TASCO EA TU TRUE BAM GULF CKP STEC
จับตาหุ้นกลุ่ม Domestic Play
บล.ลิเบอเรเตอร์ มองว่า สิ่งสำคัญในตอนนี้หลังจากจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ คือ การเร่งผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ที่ทางพรรคเพื่อไทยได้หาเสียงไว้ ซึ่งมีหลายนโยบายที่น่าสนใจ เช่น Digital wallet 10,000 บาท, รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย, ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท, เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท, หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า, กระตุ้นรายได้ท่องเที่ยวปี 2570 สู่ 3 ล้านล้านบาท รวมทั้งต้องการเพิ่มรายได้เกษตรกร 3 เท่าภายในปี 2570 ซึ่งหากมาตรการเหล่านี้เกิดขึ้นจริง คาดจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มรากหญ้าที่ประสบปัญหาค่อนข้างมาก ดังนั้น ถือเป็น sentiment เชิงบวกต่อการปรับตัวขึ้นของ SET ในช่วงถัดไป
โดยคาดกลุ่ม Domestic Play (ค้าปลีก, ธนาคาร, ไฟแนนซ์, สื่อสาร) ยังเป็นแรงหนุนสำคัญ
ผ่ามุมมองตลาดหุ้นไทยในวันที่ฝนซา หลัง “เศรษฐา ทวีสิน” นั่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 นักลงทุนต่างมีความคาดหวัง และมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนตลาดหุ้นไทยมากขึ้น หลังจากในช่วงที่ผ่านมา สถานการณ์ยังคงอึมครึม
สิ่งที่ต้องติดตามต่อไปคือ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ จะเดินหน้าอย่างไร
เนื่องจาก “โจทย์ใหญ่” ของรัฐบาลคือ เดินหน้าปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นปัญหาอันดับแรกที่ต้องเร่งดำเนินการเพราะประชาชนกำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ สถานการณ์หนี้สินของครัวเรือน ภาคธุรกิจขนาดเล็กขนาดกลางได้รับผลกระทบมาแล้วเป็นเวลานาน ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
ควบคู่ไปกับการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงสร้าง และกลไกเพื่อนำไปสู่การสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศให้กลับคืนมาอีกครั้ง!
สัปดาห์นี้ Mr.Data พามาคัดกรองหุ้นเด็ด ผ่านมุมมอง 3 โบรกเกอร์ แต่ละค่ายมีมุมมองอย่างไร
CGS-CIMB เปิดโพย 14 หุ้นเด่น
...เริ่มจาก บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด (CGS-CIMB) ได้คัดกรองหุ้นที่คาดว่าจะรับผลบวกจากเศรษฐกิจฟื้นตัว จากนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งเป็นหุ้น Top pick จำนวน 14 บริษัท ได้แก่ หุ้น AP, BBL, BH, CK, CPALL, CRC, ERW, ICHI, MINT, PR9, ORI, SCB, STEC และ WHA
28 หุ้นเด่น ขี่กระแสรัฐบาลใหม่
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด คัด 28 หุ้นเด่น ที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่
แบ่งเป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย หุ้นกลุ่มค้าปลีก CRC CPALL CPAXT BJC CPF HMPRO หุ้นกลุ่มเช่าซื้อ SAWAD AEONTS KTC TIDLOR MTC หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ LH SC SIRI PR9 ORI CPN และหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว CENTEL ERW MINT และอื่นๆ TASCO EA TU TRUE BAM GULF CKP STEC
จับตาหุ้นกลุ่ม Domestic Play
บล.ลิเบอเรเตอร์ มองว่า สิ่งสำคัญในตอนนี้หลังจากจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ คือ การเร่งผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ที่ทางพรรคเพื่อไทยได้หาเสียงไว้ ซึ่งมีหลายนโยบายที่น่าสนใจ เช่น Digital wallet 10,000 บาท, รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย, ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท, เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท, หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า, กระตุ้นรายได้ท่องเที่ยวปี 2570 สู่ 3 ล้านล้านบาท รวมทั้งต้องการเพิ่มรายได้เกษตรกร 3 เท่าภายในปี 2570 ซึ่งหากมาตรการเหล่านี้เกิดขึ้นจริง คาดจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มรากหญ้าที่ประสบปัญหาค่อนข้างมาก ดังนั้น ถือเป็น sentiment เชิงบวกต่อการปรับตัวขึ้นของ SET ในช่วงถัดไป
โดยคาดกลุ่ม Domestic Play (ค้าปลีก, ธนาคาร, ไฟแนนซ์, สื่อสาร) ยังเป็นแรงหนุนสำคัญ
ที่เกี่ยวข้อง
