จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : EA รับอานิสงส์ มาตรการตั้งฐานผลิตแบตเตอรี่


07 กุมภาพันธ์ 2566
บอร์ดอีวีไฟเขียวแพ็คเกจส่งเสริมอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ จัดเงินสนับสนุน 2.4 หมื่นล้านบาท  หวังดึงดูดบริษัทยักษ์ใหญ่ตั้งฐานผลิตในประเทศ หนุน EA ใช้เงินลงทุนขยายโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลดลง  
รายงานพิเศษ EA.jpg

คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) เห็นชอบหลักการของมาตรการสนับสนุนการผลิตแบตเตอรี่ด้วยการให้เงินสนับสนุนวงเงิน 24,000 ล้านบาท สำหรับการผลิตแบตเตอรี่ระดับเซลล์ในประเทศไทย ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งสิทธิประโยชน์ด้านภาษีสรรพสามิตจาก 8% ลดเหลือ 1% 
          
สำหรับมาตรการด้านแบตเตอรี่ถือเป็นเรื่องที่ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าต่างรอความชัดเจน เพราะถือเป็นหัวใจสำคัญของยานยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากหากมีราคาถูกลงจะช่วยในการส่งเสริม Ecosystem ของยานยนต์ไฟฟ้าได้ เพื่อให้เป็น New S-Curve ที่จะกลายเป็นอนาคตที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ GDP ของประเทศไทย  และเพิ่มอัตราการจ้างแรงงานในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์อีกด้วย
          
โดยเงินสนับสนุนดังกล่าว จะขึ้นกับขนาดของโรงงานผลิตแบตเตอรี่และความจุพลังงานจำเพาะของแบตเตอรี่ 
          - หากเป็นโรงงานผลิตแบตเตอรี่ขนาดต่ำกว่า 8 GWh จะได้รับเงินสนับสนุนระหว่าง 400-600 บาท/kWh 
          - หากเป็นโรงงานผลิตแบตเตอรี่ขนาดสูงกว่า 8 GWh จะได้รับเงินสนับสนุนระหว่าง 600-800 บาท/kWh 
         
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ยอมรับว่าปัจจุบันประเทศไทยได้รับความสนใจจากผู้ผลิตแบตเตอรี่ยักษ์ใหญ่ระดับโลกในการมาลงทุนสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่อีวีในประเทศ จาก          
1.ภาครัฐได้กำหนดเป้าหมายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าตามนโยบาย 30@30 หรือ การผลิต 30 %ในปี 2030 (พ.ศ. 2573) ที่ชัดเจนและออกมาตรการส่งเสริมในด้าน Demand-Supply อย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนเกิดความมั่นใจมากขึ้น 
          
2.ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากมาตรการให้เงินสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าซึ่งบอร์ดอีวีได้อนุมัติไปเมื่อปีที่แล้ว 
3.การที่ผู้ผลิตรถยนต์จากค่ายจีน และค่ายยุโรป ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ของผู้ผลิตแบตเตอรี่ได้มีการลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยแล้ว
          
ซึ่งหากนึกถึงบริษัทที่ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ของประเทศ  คงหนีไม่พ้น บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ที่มีบริษัทในเครือทำธุรกิจพัฒนา ผลิตและจำหน่ายแบตเตอรี่ ดังนั้นการส่งเสริมอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ของรัฐบาลย่อมส่งผลดีต่อบริษัทอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

ซึ่งบล.ดาโอ  ระบุในบทวิเคราะห์ว่า มาตรการสนับสนุนการผลิตแบตเตอรี่ดีกว่าคาด  บริษัทมีมุมมองเป็นบวกต่อผลสรุปมาตรการสนับสนุนการผลิตแบตเตอรี่ โดยมาตรการสิทธิประโยชน์ด้านภาษีสรรพสามิตจาก 8% ลดเหลือ 1% เป็นไปตามที่ตลาดคาด แต่มาตรการสนับสนุนที่ 400-600 บาทต่อ kWh และ 600-800 บาทต่อ kWhออกมาสูงกว่าคาดที่ 200 บาทต่อ kWh 

EA (“ถือ” ราคาเป้าหมาย 90.00 บาท): เราประเมินประโยชน์จากมาตราการลดภาษีสรรพสามิตจาก 8% เหลือ 1% จะเป็น upside ต่อกำไรของ EA ที่ 350 ล้านบาทต่อปริมาณการขายแบตเตอรี่ที่1 GWh หรือคิดเป็นราว +4% ต่อประมาณการปี 2023E ของเรา และ EA จะได้ประโยชน์จากเงินลงทุนที่ลดลงอย่างน้อย 400 ล้านบาท (อิงเงินสนับสนุนที่ 400 บาท/kWh) จากการขยายโรงงานผลิตแบตเตอรี่อีก 1 GWh ในปี 2023E (จาก 1 GWhในปี 2022 เป็น 2 GWh ในปี 2023E) และเงินลงทุนที่ลดลงอีก 800 ล้านบาท หากบริษัทสามารถขยายกำลังการผลิตสู่ 4 GWh ในปี 2024E ตามแผนงานที่วางไว้
EA