Mr.Data
ขึ้นจนต้องร้องขอชีวิตสำหรับหุ้น “ตระกูล JMART” หลังจากราคาร่วงระนาว! มาร์เก็ตแคปวูบเกือบ 1 แสนล้านบาท จากมรสุมข่าวลือถาโถม ตามห้องค้าว่า หุ้นตระกูล JMART จะถูกตรวจสอบการซื้อขายอย่างเข้มงวด
แม้กลุ่ม JMART ได้แจงข้อมูลผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า การตรวจสอบซื้อขายของบริษัทไม่เป็นความจริง แต่ก็ไม่ได้ทำให้นักลงทุนคลายความกังวล และมีแรงเทขายออกมาอย่างต่อเนื่อง
แต่อีกหนึ่งเหตุผลประการสำคัญคงหนีไม่พ้นเรื่องของแนวโน้มผลประกอบการในครึ่งแรกของปี 2566 ที่น่าจะออกมาอย่างน่าผิดหวังในปีนี้ น่าจะเป็นหนึ่งในตัวจุดชนวนทำให้เกิดแรงขายหุ้นกลุ่มตระกูล JMART
ล่าสุด “กลุ่มตระกูล JMART” แจ้งผลการดำเนินงานในงวดครึ่งแรกของปี 2566 ออกมาอย่างน่าผิดหวัง ตามคาด!
เริ่มจาก
1.บมจ. เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) ครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิ 1,004 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 800 ล้านบาท
2. บมจ. เจ มาร์ท (JMART) ครึ่งปีแรกขาดทุนสุทธิ 905.94 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 714.52 ล้านบาท
3. บมจ. ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) ครึ่งปีแรกขาดทุนสุทธิ 3,239.34 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 480.83 ล้านบาท
4. บมจ. เจเอเอส แอสเซ็ท (J) ครึ่งปีแรกกำไรสุทธิ 5.36 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 58.93 ล้านบาท
5. บมจ. เอสจี แคปปิตอล ( SGC) ครึ่งปีแรกขาดทุนสุทธิ 2,286.87 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 306 ล้านบาท
เห็นได้ชัดว่า “กลุ่มตระกูล JMART” มีเพียง JMT ที่กำไรเพิ่มขึ้นในครึ่งปีแรก ส่วน JMART เอง กำไรหายวูบไปเกือบ 200 ล้านบาท
แต่ที่หนักมาก! คือ SINGER ครึ่งปีแรกขาดทุนสุทธิ 3,239.34 ล้านบาท ตามมาด้วย SGC ที่ครึ่งปีแรกขาดทุนสุทธิ 2,286.87 ล้านบาท
ปรากฎการณ์การ “ลากหุ้น” กลับคืนมาของ “กลุ่มตระกูล JMART” ในวันที่ 17 สิงหาคม 2566 จะเป็นปรากฏการณ์ Buy on Fact หรือไม่...ต้องติดตามกันต่อไป เพราะที่ผ่านมา ราคาปรับฐานลงมามากแล้ว
แต่สำหรับมุมมองของ “อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (JMART) ยังคงมั่นใจว่าหลังจากที่วิกฤตใหญ่ครั้งนี้ ผ่านไปเราจะกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิมได้
พร้อมตั้งเป้าปี 2567 JMART จะกลับมาทำ All Time High ได้อีกครั้ง
เป็นเรื่องที่ต้องตามต่อไป!!!
ส่วน IAA Consensus
ให้ราคาเป้าหมาย JMT ที่ 46-66 บาท
ให้ราคาเป้าหมาย JMART ที่ 22-24 บาท
ให้ราคาเป้าหมาย SINGER ที่ 6 บาท
ส่วน J และ SGC ยังไม่มีราคาเป้าหมายใน IAA Consensus
ขึ้นจนต้องร้องขอชีวิตสำหรับหุ้น “ตระกูล JMART” หลังจากราคาร่วงระนาว! มาร์เก็ตแคปวูบเกือบ 1 แสนล้านบาท จากมรสุมข่าวลือถาโถม ตามห้องค้าว่า หุ้นตระกูล JMART จะถูกตรวจสอบการซื้อขายอย่างเข้มงวด
แม้กลุ่ม JMART ได้แจงข้อมูลผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า การตรวจสอบซื้อขายของบริษัทไม่เป็นความจริง แต่ก็ไม่ได้ทำให้นักลงทุนคลายความกังวล และมีแรงเทขายออกมาอย่างต่อเนื่อง
แต่อีกหนึ่งเหตุผลประการสำคัญคงหนีไม่พ้นเรื่องของแนวโน้มผลประกอบการในครึ่งแรกของปี 2566 ที่น่าจะออกมาอย่างน่าผิดหวังในปีนี้ น่าจะเป็นหนึ่งในตัวจุดชนวนทำให้เกิดแรงขายหุ้นกลุ่มตระกูล JMART
ล่าสุด “กลุ่มตระกูล JMART” แจ้งผลการดำเนินงานในงวดครึ่งแรกของปี 2566 ออกมาอย่างน่าผิดหวัง ตามคาด!
เริ่มจาก
1.บมจ. เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) ครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิ 1,004 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 800 ล้านบาท
2. บมจ. เจ มาร์ท (JMART) ครึ่งปีแรกขาดทุนสุทธิ 905.94 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 714.52 ล้านบาท
3. บมจ. ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) ครึ่งปีแรกขาดทุนสุทธิ 3,239.34 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 480.83 ล้านบาท
4. บมจ. เจเอเอส แอสเซ็ท (J) ครึ่งปีแรกกำไรสุทธิ 5.36 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 58.93 ล้านบาท
5. บมจ. เอสจี แคปปิตอล ( SGC) ครึ่งปีแรกขาดทุนสุทธิ 2,286.87 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 306 ล้านบาท
เห็นได้ชัดว่า “กลุ่มตระกูล JMART” มีเพียง JMT ที่กำไรเพิ่มขึ้นในครึ่งปีแรก ส่วน JMART เอง กำไรหายวูบไปเกือบ 200 ล้านบาท
แต่ที่หนักมาก! คือ SINGER ครึ่งปีแรกขาดทุนสุทธิ 3,239.34 ล้านบาท ตามมาด้วย SGC ที่ครึ่งปีแรกขาดทุนสุทธิ 2,286.87 ล้านบาท
ปรากฎการณ์การ “ลากหุ้น” กลับคืนมาของ “กลุ่มตระกูล JMART” ในวันที่ 17 สิงหาคม 2566 จะเป็นปรากฏการณ์ Buy on Fact หรือไม่...ต้องติดตามกันต่อไป เพราะที่ผ่านมา ราคาปรับฐานลงมามากแล้ว
แต่สำหรับมุมมองของ “อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (JMART) ยังคงมั่นใจว่าหลังจากที่วิกฤตใหญ่ครั้งนี้ ผ่านไปเราจะกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิมได้
พร้อมตั้งเป้าปี 2567 JMART จะกลับมาทำ All Time High ได้อีกครั้ง
เป็นเรื่องที่ต้องตามต่อไป!!!
ส่วน IAA Consensus
ให้ราคาเป้าหมาย JMT ที่ 46-66 บาท
ให้ราคาเป้าหมาย JMART ที่ 22-24 บาท
ให้ราคาเป้าหมาย SINGER ที่ 6 บาท
ส่วน J และ SGC ยังไม่มีราคาเป้าหมายใน IAA Consensus
ที่เกี่ยวข้อง
