Smart Investment

จัดทัพ 14 หุ้นเด่น เป้าหมาย Window Dressing


23 ธันวาคม 2565

นับถอยหลังสัปดาห์สุดท้ายตลาดหุ้นไทยปี 2565 แม้มูลค่าการซื้อขายจะเริ่มเบาบาง แต่ความหวังสัปดาห์หน้า SET Index มีโอกาสพลิกกลับมาเป็นบวก จากความหวังการทำ Window Dressing ของนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ ที่พร้อมโยกเม็ดเงินเข้าลงทุนพื้นฐานแกร่งเข้าพอร์ต

สัปดาห์นี้ Mr.Data มีมุมมองจาก 3 บริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำ ที่ประเมินสอดคล้องในทิศทางเดียวกันว่า ในช่วงปลายเดือนธันวาคม 2565 นี้ ยังมีโอกาสที่จะได้เห็น Window Dressing พร้อมกับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงปลายปีนี้

และที่สำคัญยังมีมุมมองแนวโน้มการลงทุนในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 ที่ว่ากันว่า SET Index มีโอกาสทะลุ 1,700 จุด

ส่วนใครที่กำลังมองหาหุ้นที่มี Upside และน่าสะสมเข้าพอร์ตทำกำไรในปี 2566 ห้ามพลาด!

เริ่มจาก บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ มองว่า ในช่วงปลายเดือนธันวาคม มีโอกาสเห็นการทำ Window Dressing ซึ่งจะช่วยสนับสนุนตลาดหุ้นไทยเป็นบวกเล็กน้อย แถวระดับ 1,650 จุด ซึ่งเป็นกรอบ Upside ด้านบนที่มองไว้ตั้งแต่ต้นเดือน ส่วนแนวรับสำคัญอยู่ที่ 1,610 จุด

สำหรับพอร์ตลงทุน แนะนำหาจังหวะตั้งรับช่วงอ่อนตัว และถือลงทุนข้ามปี โดยประเมินว่า ในช่วงครึ่งแรกปีหน้าขึ้นทดสอบเป้าหมายกรณีฐานที่ 1,700-1,720 จุด และเป้าหมายกรณีที่ดี 1,750-1,780 จุด

ส่วนหุ้นที่เข้าข่าย Window Dressing ในรอบนี้ประกอบด้วย ADVANC,BBMS,INTUCH,TU,WHA

ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย มองว่า ในช่วงปลายปีนี้มีโอกาสที่จะเกิด Window Dressing โดยคาดว่าจะเกิดในหุ้นใหญ่ เป็นกลุ่มที่ปีนี้ Laggard หรือหุ้นที่ตอบสนองต่อการปรับตัวของราคาช้ากว่าดัชนี หรือช้ากว่ากลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน รวมถึงหุ้นที่ในช่วงที่ผ่านมาต่างชาติถือค่อนข้างน้อย หรือหุ้นที่ราคาลงมามากพร้อมที่จะปรับตัวดีขึ้นในปีหน้า

หุ้นที่น่าจะเกิด Window Dressing เช่น BAM บริหารหนี้เสีย เพราะที่ราคา 15-16 บาท มองว่า Valuation น่าสนใจ การที่จะลงไปมากกว่านี้มีจำกัด และการจัดเก็บเงินสด (Cash Collection) ในไตรมาส 3/65 ดีขึ้น และตั้งแต่เกิดโควิด-19 จะมีมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มาตรการนี้จะค่อยๆ หมด และหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จะเข้ามาในระบบมากขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้คิดว่าน่าจะมีแรงกลับเข้าไปซื้อ BAM

นอกจากนี้ ยังมีหุ้นกลุ่มก่อสร้าง เช่น CK และ STEC แต่ชอบ STEC เพราะ Laggard โดย Valuation downside จำกัด ประกอบกับปีหน้างานจะมากขึ้น และ Backlog ของ STEC ที่ผ่านมามีแค่การสร้างรัฐสภาใหม่ ซึ่งมาร์จิ้นไม่มาก และมองว่ารอบของการลงทุนตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไปจะมากขึ้นด้วย

และ HENG เป็นไฟแนนซ์ที่ทำจำนำทะเบียนและเช่าซื้อรถยนต์ เพราะไฟแนนซ์ทุกตัวโดนขายมาหมดจากกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาอย่างต่อเนื่อง แต่ในระยะต่อไปมีทิศทางชะลอตัว

ส่วนบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน คาดว่าตลาดหุ้นจะเกิด Window Dressing ในปลายปีนี้ ด้วยเช่นกัน โดยส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นกลุ่ม Domestic Play ทั้งกลุ่มค้าปลีก กลุ่มธนาคาร กลุ่มสื่อสาร เพื่อปิดงวดงบการเงินไตรมาส 4/65 โดยหุ้นที่มีโอกาสถูกทำ Window Dressing ช่วงปลายปี เช่น MAKRO, BJC, CPALL, BBL, KKP

แล้วพบกันใหม่หน้า Mr.Data พร้อมนำเสนอข้อมูลการลงทุนแบบเจาะลึก เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนผ่าน www.share2trade.com ที่เตรียมปรับโฉมใหม่ในปี 2566 พร้อมเสิร์ฟข้อมูลการลงทุนแบบครบเครื่อง เจาะลึก ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อนักลงทุนจะได้ไม่พลาดโอกาสในการลงทุน!