จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : SNNP กำไรไตรมาส2 โตต่อเนื่อง ยอดขาย “ในประเทศ-ตปท.”พุ่ง


03 สิงหาคม 2566
บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP)  ยังทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง  บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย)คาดกำไรไตรมาส2 ยังเติบโตดี ยอดขายในประเทศมีแนวโน้มสูงสุดเป็นประวัติการณ์  ขณะที่โรงงานในเวียดนามผู้บริหารมั่นใจเดินเครื่องผลิตสินค้าได้ตามแผน

รายงานพิเศษ SNNP.jpg

บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้น  บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP)  โดยคาดการณ์ว่า  กำไร2Q66 (ประกาศงบ 9 ส.ค.) จะเพิ่มขึ้น 4% QoQ และ39% YoY เป็น 161 ล้านบาท ยอดขายในประเทศไทยมีแนวโน้มสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากยอดขายเจเล่ที่โตแข็งแกร่งจากสภาพอากาศร้อนและสินค้าใหม่ที่ออกตั้งแต่ 4Q64 และ 3Q65 ได้รับการตอบรับดี แม้ยอดขายใน 2Q66 ของเวียดนามจะพลาดเป้าของผู้บริหาร  เนื่องจากการบริโภคที่ลดลงและการผลิตเบนโตะที่ล่าช้าไป 1 เดือน แต่เรายังคงคาดว่ายอดขายในต่างประเทศจะเพิ่มขึ้น 8% QoQ  และทรงตัว YoY  เราประเมินว่าอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 186 bps YoY เป็น 28% เนื่องจากประสิทธิภาพการผลิตสูงขึ้นตามปริมาณการผลิตและต้นทุนวัตถุดิบลดลง สัดส่วนค่าใช้จ่ายต่อยอดขาย มีแนวโน้มลดลงเป็น 14.9% จาก 15.8% ใน 2Q65 จากผลประโยชน์เพิ่มขึ้นจาก  Economies of scale

คาดกำไร 2H66 แข็งแกร่งยิ่งขึ้นจากยอดขายที่เร่งตัวขึ้น
โมเมนตัมยอดขายในประเทศยังคงเป็นบวกในเดือน ก.ค. ขณะที่ยอดขายในเวียดนามมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นใน 2H66 เนื่องจากโรงงานเบนโตะเริ่มผลิตในช่วงปลายเดือน ก.ค. และโรงงานผลิตเจเล่ เริ่มในเดือน ต.ค.-พ.ย. อีกทั้งการบริโภคในเวียดนามคาดว่า จะค่อยๆฟื้นตัวจากการที่รัฐบาลลดภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งช่วยกระตุ้นการบริโภค เราปรับเพิ่มประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นปี 66-67 ขึ้น แต่ปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายเพื่อสะท้อนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สูงขึ้น  ส่งผลให้ประมาณการกำไรของเรายังคงไม่เปลี่ยนแปลงที่ 671 ล้านบาท (+30% YoY) และ813 ล้านบาท (+21% YoY) ในปี66 และ67 ตามลำดับ

ดาวน์ไซด์จำกัดหากยอดขายในเวียดนามต่ำกว่าคาด
เรายังคงประมาณการยอดขายในเวียดนามปีนี้ที่ 734 ล้านบาท เทียบกับเป้าหมายของผู้บริหารที่ 1 พันล้านบาท จากการทำ Sensitivity (Fig 17) เราพบว่าการเปลี่ยนแปลงยอดขายในเวียดนาม 100 ล้านบาทจะส่งผลกระทบต่อกำไรของเรา 2.2% หากยอดขายปีนี้แตะ 1 พันล้านบาท จะเป็นอัพไซด์ 6% ต่อประมาณการกำไรปี 66 ส่วนกรณีที่แย่ที่สุด หากยอดขายในเวียดนามอยู่ที่ 600 ล้านบาท จะเป็นดาวน์ไซด์ต่อกำไรของเรา 3% อย่างไรก็ดีราคาเหมาะสมจะอยู่ที่  26.6 บาท ซึ่งยังคงมีอัพไซด์  23% เมื่อเทียบกับราคาหุ้นปัจจุบัน

ขณะที่นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ SNNP  กล่าวถึงโรงงานในประเทศเวียดนามย้ำว่า ยังคงเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ 3 เฟส  คือ 

เฟสแรก  ในปี 65 ไลน์ผลิตโลตัสขาไก่เดินเครื่องผลิตสินค้าออกจำหน่ายในตลาดเวียดนาม ซึ่งดำเนินการเรียบร้อยแล้ว  ส่วนเฟสสองในเดือน ก.ค.66 จะเป็นการทดสอบครั้งสุดท้ายในไลน์การผลิตของเบนโตะ ถ้าไม่ติดปัญหาก็จะสามารถผลิตสินค้าได้  ส่วนปลายไตรมาส 3/66 จะเริ่มไลน์ผลิตของเจเล่ตามแผนที่วางไว้ โดยประเมินไว้ว่า  ถ้าเดินเครื่องทั้ง 3 ไลน์ผลิตแบบเต็มกำลังการผลิต (Full Capacity) จะสามารถสร้างยอดขายได้ปีละ  2 พันล้านบาท 

ซึ่งเบื้องต้นโรงงานที่เวียดนามจะผลิตขายในตลาดเวียดนามเป็นหลัก แต่ในอนาคตเนื่องจากภาคเหนือของเวียดนามติดกับประเทศจีนทางตอนใต้  บริษัทก็อาจส่งสินค้าเข้าประเทศจีน  โดยตอนนี้อยู่ระหว่างพูดคุยกับพันธมิตรในจีน คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้