จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : ธุรกิจ PTG “Oil-Non Oil” โต หนุน ไตรมาส2 ดีต่อเนื่อง


09 มิถุนายน 2566
การเดินทาง และค่าการตลาดที่อยู่ระดับสูง ปัจจัยสนับสนุนยอดขายน้ำมัน และผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่น้ำมันของบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) ให้ไตรมาส 2 เติบโตสูงกว่าไตรมาสแรก  


รายงานพิเศษ PTG.jpg

บล.ทรีนีตี้  ระบุภายหลังงาน Analyst Meeting ของบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG โดย
1. บริษัทยังคงตั้งเป้าการเติบโตของ sale volume ที่ 8-12% ซึ่ง YTD มีการเติบโตกว่า 12% แล้ว โดยปริมาณนักท่องเที่ยวที่เริ่มกลับมามากขึ้นเป็นส่วนช่วยให้การใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น
2. ยังคงเป้าการขยายร้านกาแฟพันธุ์ไทยเพิ่มอีก 1 พันสาขารวมเป็น 1.5 พันสาขา ถึงแม้ว่าใน 1Q23 จะมีการเพิ่มขึ้นมาเพียง60 สาขาแต่จะมีการเร่งตัวเพิ่มขึ้น ในไตรมาสที่เหลือ โดยใน 2Q23 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นได้อีกราว 200 สาขา
3. ปัจจัยการขึ้นค่าแรงนั้น ผู้บริหารยังมองว่าถ้าเป็นไปตามกลไกลราคาตลาด บริษัทสามารถผลักค่าใช้จ่ายพนักงานที่เพิ่มขึ้นได้ทั้งหมด โดยการเพิ่มราคาขายเฉลี่ยนขึ้นราว 10 สตางค์ต่อลิตร 
4. ธุรกิจ palm complex อาจจะต้องรอความชัดเจนของรัฐบาลใหม่ว่าจะมีนโยบายการใช้น้ำมันไบโอดีเซลอย่างไรแต่อย่างไรก็ตามบริษัทจะหันไปเน้นน้ำมันปาล์มเพื่อการบริโภคมากขึ้น เพราะตลาด b100 ค่อนข้างอิ่มตัวแล้ว 
5. ผู้บริหารยังมองค่าการตลาดยังอยู่ในระดับที่บริษัทคาดหวังคือ 1.8 บาทต่อลิตร ได้ไปจนถึงช่วง 3Q23 ซึ่งน่าจะเห็นนโยบายที่ชัดเจนจากรัฐบาลชุดใหม่ 


ทั้งนี้บริษัทมีมองเป็นบวกเล็กน้อยกับการประชุม 
1. เรายังประเมินแนวโน้มค่าการตลาดใน 2Q23 จะดีกว่า 1Q23 เพราะรับรู้การปรับค่าการตลาดได้เต็มไตรมาส 
2. ประเด็นเรื่องค่าแรงเราประเมินว่าถ้าค่าแรงปรับขึ้น 10% จะมีผลกระทบราว 350-400 ล้านบาทต่อปี หรือกระทบต่อประมาณการของเราประมาณ 25% อย่างไรก็ดีเราประเมินแล้วว่าใน 2Q23-3Q23 จะยังไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าว เพราะกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลยังคงต้องใช้เวลา และบริษัทสามารถผลักภาระดังกล่าวไปยังราคาขายที่เพิ่มขึ้นได้ 


ดังนั้นบริษัทยังคงราคาเป้าหมาย 15.20 บาท อิง Avg PER 17 เท่า และคงคำแนะนํา Trading Buy คาดแนวโน้ม 2Q23 น่าจะยังดีต่อจากค่าการตลาดที่ยังอยู่ในระดับสูง
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 2/2566  “นายรังสรรค์ พวงปราง” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTG มั่นใจว่า ยังมีแนวโน้มการเติบโตอย่างโดดเด่น  เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการเปิดประเทศท่องเที่ยว เห็นได้จากช่วงเดือนเมษายน 2566 ที่ผ่านมา มีประชาชนเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นจำนวนมาก และยังมีวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวันในช่วงเดือนพฤษภาคม  ส่งผลให้ PTG มียอดขาย Oil และ Non-Oil เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มเติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ดังนั้น จึงมองว่ารายได้จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้
ส่วนงบลงทุนในปี 2566 บริษัทฯ วางไว้ที่ จำนวน 5,000-6,000 ล้านบาท  แบ่งออกเป็นการลงทุนขยายและปรับปรุงสถานีบริการน้ำมัน จำนวน 1,000-1,500 ล้านบาท และการเพิ่มจุดให้บริการธุรกิจ Non-Oil จำนวน 2,000-2,500 ล้านบาท  รวมทั้งเพื่อรองรับธุรกิจใหม่ (New Businesses) จำนวน 1,500-2,000 ล้านบาท
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTG  ยืนยันว่า  PTG มุ่งเน้นการให้บริการลูกค้าเป็นหลัก ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับภาคการเมืองใด ๆ ยึดหลักธรรมาภิบาลที่ดีในการบริหารบริษัทและบริการลูกค้าให้ดีที่สุด จนลูกค้ามีความเชื่อมั่นในองค์กร PTG ดังนั้น ตรงนี้จึงเป็นจุดแข็งทำให้ PTG เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง จึงอยากให้นักลงทุนและผู้ถือหุ้นเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจของ PTG ที่มีความมุ่งมั่นจะนำพาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน
PTG