News Today

บอร์ด JKN ปรับสัดส่วนเพิ่มทุนเป็น 2 :1 ลดผลกระทบด้าน Dilution -ขายหุ้นพีพีให้ "ยูนิสเตรทช์"


31 มกราคม 2566
รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) ระบุว่าคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้ยกเลิกมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่1/2566ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2566ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียน การจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนจํานวนหุ้นที่แต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering) และเพื่อรองรับการปรับสิทธิของหุ้นกู้แปลงสภาพที่ให้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญของบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จํากัด (มหาชน) ครบกําหนดปี พ.ศ. 2568 ที่ออกให้แก่ North Haven Thai Private Equity Gemini Company (Hong Kong) Limited (“หุ้นกู้แปลงสภาพทีออกให้แก่ NHTPE”) 
บอร์ด JKN ปรับสัดส่วนเพิ่มทุน.jpg


รวมถึงพิจารณาอนุมัติยกเลิกการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2566ซึ่งจะจัดขึ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียน และจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว และ ยกเลิกวันกําหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุม (Record Date) เนื่องจาก บริษัทมีความประสงค์ที่จะปรับอัตราส่วนการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ตามสัดส่วนจํานวนหุ้นที่แต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering)จากเดิมอัตราส่วนการจัดสรรหุ้น 1 หุ้นสามัญ ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน เป็น 2 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน เพื่อลดผลกระทบด้าน Dilution

 อีกทั้งภายหลังจากการจัดงานประกวด Miss Universe ปี 2022ที่นิวออลีนส์ ที่ผ่านมา บริษัท ได้รับกระแสตอบรับที่ดี ทั้งในด้านจํานวนผู้รับชมทั่วโลก และ Partner ทางธุรกิจที่ติดต่อเข้ามาเป็นจํานวนมาก โดยเฉพาะการเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพในการจัดประกวดมิสยูนิเวิร์สในปี 2023 –2025 ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้ลงนามสัญญากับประเทศเอลซัลวาดอร์ เพื่อให้สิทธิในการเป็นเจ้าภาพการจัดประกวดมิสยูนิเวิร์ส สําหรับปี 2023 แล้ว 

ส่วนเจ้าภาพการจัดประกวดสําหรับปี 2024 – 2025 อยู่ระหว่างรอลงนามสัญญา เป็นผลทําให้บริษัทได้รับการติดต่อจากนักลงทุนที่สนใจจะลงทุนในบริษัท โดยบริษัทมีความประสงค์จะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลเฉพาะเจาะจง (Private Placement) ให้แก่นักลงุทนรายดังกล่าว ซึ่งจะยิ่งส่งผลให้บริษัทมีสภาพคล่องและกระแสเงินสดคงเหลือเพียงพอสําหรับรองรับการชําระคืนเงินกู้และการต่อยอดธุรกิจ ดังนั้น คณะกรรมการบริษัทจึงเห็นว่าควรยกเลิกมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่1/2566 เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2566 และพิจารณาการออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนจํานวนหุ้นที่แต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering) ใหม่ 


ขณะที่มีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จํานวน 94,648,761.50บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจํานวน 509,831,363.00 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจํานวน 804,480,124.50 บาท
โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจํานวน 589,297,523 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อ
(1) เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนจํานวนหุ้นที่แต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering)
(2) เสนอขายแบบเฉพาะเจาะจงให้แก่บุคคลในวงจํากัด (Private Placement)
(3) รองรับการปรับสิทธิของหุ้นกู้แปลงสภาพที่ออกให้แก่ NHTPE

ขณะที่มีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จํานวน94,648,761.50บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจํานวน 509,831,363.00 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจํานวน 804,480,124.50 บาท
โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจํานวน 589,297,523 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อ
(1) เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนจํานวนหุ้นที่แต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering)
(2) เสนอขายแบบเฉพาะเจาะจงให้แก่บุคคลในวงจํากัด (Private Placement)
(3) รองรับการปรับสิทธิของหุ้นกู้แปลงสภาพที่ออกให้แก่ NHTPE

จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจํานวนไม่เกิน 66,666,666 หุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจํากัด(Private Placement) ให้แก่ บริษัท ยูนิสเตรทช์ จํากัด (“ผู้ลงทุน”) 
ทั้งนี้ การออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวเป็นการเสนอขายหุ้นที่คณะกรรมการบริษัทมีมติกําหนดราคาเสนอขายไว้อย่างชัดเจนเพื่อเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณากําหนดราคาเสนอขายเท่ากับหุ้นละ 4.50 บาท รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 300,000,000 บาท ซึ่งไม่เข้าข่ายเป็นการเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ในราคาตํ่ากว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาด ตามหลักเกณฑ์ของ ประกาศทจ. 72/2558 โดย “ราคาตลาด” คํานวณจากราคาถัวเฉลี่ยถ่วงนํ้าหนักของหุ้นสามัญของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ ย้อนหลัง 7วันทําการติดต่อกัน ก่อนวันที่ที่ประชุมคณะกรรมการได้มีมติให้เสนอวาระต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อขออนุมัติให้บริษัทเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ลงทุนคือระหว่างวันที่ 19 มกราคม 2566 ถึงวันที่27 มกราคม 2566 ซึ่งเท่ากับ 3.27 บาท (ข้อมูลจาก SETSMART ตาม www.setsmart.com)
JKN