TMI ประกาศงบ Q1/2566 โกยรายได้กว่า 161 ล้านบาท กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 81.5% ลุยขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวภาพเพิ่มต่อเนื่อง หวังดันเป้าเติบโต 20% มั่นใจแนวโน้มผลงานแรงต่อเนื่องตลอดปี
นายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMI เปิดเผยผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1 ปี 2566 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566 ว่า มีรายได้จากการขายรวม 161.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.80 ล้านบาท หรือ 12.40 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 15.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.76 ล้านบาท หรือ 81.50%
ทั้งนี้ รายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น เป็นผลจากการขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าชีวภาพทั้ง 3 แห่ง กำลังการผลิตรวม 5.4 เมกะวัตต์ ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มากกว่า 20.92 ล้านบาท หรือ 249.05 % จากปี 2565 ประกอบกับบริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการบริหารที่ลดลง รวมถึงมีรายได้อื่นเพิ่มขึ้น 0.45 ล้านบาท หรือ 155.17% จากกำไรการทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า นับเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้รายได้ไตรมาสแรกของปีเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2566 บริษัทยังคงเดินหน้ารุกธุรกิจส่องสว่างที่กลับมาฟื้นตัวเต็มที่ รับปัจจัยหนุนจากภาคธุรกิจโรงแรมที่ฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีปริมาณสูงขึ้น รวมถึงการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ตลอดจนภาครัฐมีนโยบายปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคเพิ่มมากขึ้น และจะขยายกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพเพิ่มอีก 3-5 เมกะวัตต์ ตลอดจนการมองหาโอกาสเข้าลงทุนโครงการใหม่ ๆ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจอย่างยั่งยืน
“ ในปี 2566 บริษัทยังคงมุ่งรักษาความมั่นคงทางการเงิน สภาพคล่อง และเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจตามกลยุทธ์ ควบคู่กับการเร่งเดินหน้าธุรกิจขยายกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ พร้อมเชื่อมั่นสามารถสร้างรายได้โตไม่น้อยกว่า 20% จากธุรกิจกลุ่มผลิตภัณฑ์ส่องสว่างและการรับรู้รายได้เต็มปีของธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวภาพ ทั้ง 3 แห่ง ” นายธีระชัย กล่าว
นายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMI เปิดเผยผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1 ปี 2566 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566 ว่า มีรายได้จากการขายรวม 161.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.80 ล้านบาท หรือ 12.40 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 15.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.76 ล้านบาท หรือ 81.50%
ทั้งนี้ รายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น เป็นผลจากการขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าชีวภาพทั้ง 3 แห่ง กำลังการผลิตรวม 5.4 เมกะวัตต์ ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มากกว่า 20.92 ล้านบาท หรือ 249.05 % จากปี 2565 ประกอบกับบริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการบริหารที่ลดลง รวมถึงมีรายได้อื่นเพิ่มขึ้น 0.45 ล้านบาท หรือ 155.17% จากกำไรการทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า นับเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้รายได้ไตรมาสแรกของปีเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2566 บริษัทยังคงเดินหน้ารุกธุรกิจส่องสว่างที่กลับมาฟื้นตัวเต็มที่ รับปัจจัยหนุนจากภาคธุรกิจโรงแรมที่ฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีปริมาณสูงขึ้น รวมถึงการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ตลอดจนภาครัฐมีนโยบายปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคเพิ่มมากขึ้น และจะขยายกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพเพิ่มอีก 3-5 เมกะวัตต์ ตลอดจนการมองหาโอกาสเข้าลงทุนโครงการใหม่ ๆ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจอย่างยั่งยืน
“ ในปี 2566 บริษัทยังคงมุ่งรักษาความมั่นคงทางการเงิน สภาพคล่อง และเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจตามกลยุทธ์ ควบคู่กับการเร่งเดินหน้าธุรกิจขยายกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ พร้อมเชื่อมั่นสามารถสร้างรายได้โตไม่น้อยกว่า 20% จากธุรกิจกลุ่มผลิตภัณฑ์ส่องสว่างและการรับรู้รายได้เต็มปีของธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวภาพ ทั้ง 3 แห่ง ” นายธีระชัย กล่าว
