Smart Investment

“เสี่ยปู่ – เซียนฮง" ตุนหุ้น TEAMG


29 มีนาคม 2566
by.พูเมซ่า

ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในเดือนมีนาคม 2566 ดัชนีตลาดหุ้นไทยผันผวนและยังไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1600 จุดได้อย่างแข็งแกร่ง ทิศทางส่วนใหญ่เป็นไปตามปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะประเด็นวิกฤติสถาบันการเงินในสหรัฐและยุโรป ซึ่งไม่จบลงในระยะสั้น และยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ขณะที่ประเด็นในประเทศยังคงติดตามการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
smart invest  เสี่ยปู ซื้อ 4 หุ้นกลาง-เล็ก เติมพอร์ต 290323.jpg
โดยบล.เอเซีย พลัส ระบุว่าติดตาม BOT (ธนาคารแห่งประเทศไทย) ประชุม 29 มีนาคม 2566 ซึ่งตลาดคาดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% เป็น 1.75% พร้อมกับติดตามการประกาศตัวเลขนำเช้า/ส่งออก ที่ตลาดคาดปรับตัวลงทั้งคู่ โดยการส่งออกคาด -7.0%YoY(เดือนก่อนหน้า -4.5%YoY), การนำเข้าคาด +2.0%YoY(เดือนก่อนหน้า +5.5%YoY) ประเด็นดังกล่าวคาดเป็นหนึ่งในปัจจัยกดดัน SET Index ระยะถัดไป
 
อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างของการขึ้นดอกเบี้ยแต่ละประเทศรวมถึงอัตราดอกเบี้ยไทยที่ยังอยู่ระดับต่ำ (Fed ชะลอการขึ้นดอกเบี้ย แต่ ECB BOE ขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง) อาจส่งผลให้ Dollar Index มีโอกาสอ่อนค่าต่อเนื่อง ประเด็นดังกล่าวทำให้ค่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าขึ้นได้ และอาจหนุนให้ Fund Flow ต่างชาติชะลอการไหลออกจากตลาดหุ้นไทยได้ในระยะถัดไป

สรุป อัตราดอกเบี้ยของไทยที่ยังอยู่ระดับต่ำกว่าประเทศอื่นๆ บวกกับ Upsideการขึ้นดอกเบี้ยของไทยรับจากนี้มีไม่มาก ทำให้มีโอกาสเห็นเม็ด Fund flow ต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นไทยได้มากขึ้น โดยวันนี้มองกรอบการเคลื่อนไหวของ SET Index ระดับ 1595-1610 จุด

ทั้งนี้จากการสำรวจข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในส่วนพอร์ตลงทุนของ สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล หรือ"เสี่ยปู่" ซึ่งมีการถือครองหุ้น 15 บริษัท ทั้งในส่วนที่ถือโดยตรงและผ่านพอร์ตของโบรกเกอร์ โดยล่าสุดมีมูลค่ารวม 3,706 ล้านบาท  ประกอบด้วย 

หุ้น     จำนวน(หุ้น) มูลค่าถือ(ลบ.) 
AJ 20,404,000 216
BRI 16,463,517 189
BROCK 137,796,900 252
BVG 5,000,000 35
DITTO 18,536,000 551
ICN 38,936,000 132
KCC 16,813,000 105
MFEC 3,602,800 28
ORI 95,620,000 1,118
PCC 23,037,500 73 
PEACE 14,110,000 59
PLUS 45,393,200 354
PRI 11,800,800 430
RSP 9,817,300 27
TEAMG 15,500,000 131
รวม     3,706


ขณะเดียวกัน ยังพบว่า “เสี่ยปู่”ได้มีการทยอยซื้อหุ้นขนาดกลางและเล็กเข้ามาใส่ในพอร์ตลงทุนจำนวน 4 บริษัท โดยเมื่อสำรวจรายชื่อในโครงสร้างผู้ถือหุ้นและนำมาเปรียบเทียบกับรายชื่อผู้ถือหุ้นในครั้งก่อน ไม่ปรากฏว่า”เสี่ยปู่”เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ดังนั้นมีความเป็นไปได้ที่เพิ่งเข้ามาลงทุนในหุ้นดังกล่าว ได้แก่ หุ้น PCC จำนวน 23,037,500หุ้น คิดเป็น 1.88% PEACE 14,110,000หุ้น คิดเป็น 2.80% PLUS 45,393,200หุ้น คิดเป็น 6.78% TEAMG 15,500,000 หุ้น คิดเป็น% 2.28 % โดยเมื่อสำรวจรายชื่อในโครงสร้างผู้ถือหุ้นและนำมาเปรียบเทียบกับรายชื่อผู้ถือหุ้นในครั้งก่อน ไม่ปรากฏว่า”เสี่ยปู่”เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ดังนั้นมีความเป็นไปได้ที่เพิ่งเข้ามาลงทุนในหุ้นดังกล่าว 

นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่น่าสนใจโดยเฉพาะในโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG ล่าสุดยังพบว่ามี “สถาพร งามเรืองพงศ์”หรือเซียนฮง ได้เข้ามาถือหุ้น จำนวน 44,943,900 หุ้น คิดเป็น 6.61% จากเดิมที่ไม่ปรากฏรายชื่อการถือครองหุ้น ดังนั้นสะท้อนได้ว่า เสี่ยปู่ และเซียนฮง เข้ามาลงทุนเพิ่มในหุ้นตัวเดียวกัน ซึ่งอาจเป็นเพียงความบังเอิญ หรืออาจมองเห็นเหมือนกันว่าในอนาคตหุ้นดังกล่าวสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีก็เป็นไปได้ 
สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น TEAMG ณ เดือนมีนาคม 2566

รายชื่อ จำนวน(หุ้น) % การถือหุ้น
ธีระชัย รัตนกมลพร     108,000,000 15.88
สถาพร งามเรืองพงศ์ 44,943,900 6.61
อำนาจ พรหมสูตร 25,284,000 3.72
ฐกร รัตนกมลพร 21,200,000 3.12
ศุภโชค ตันติวิท 17,950,000 2.64
ยุพดี เปรมชื่น     16,734,600 2.46
เพ็ญพิไล พรชัยพานิช 16,730,500 2.46
มณีรัตน์ งามเรืองพงศ์ 16,270,400 2.39
ไทยเอ็นวีดีอาร์ 15,669,528 2.30
สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล 15,500,000 2.28