Talk of The Town

กลุ่มแบงก์ผลงาน Q4 หืดจับ มีแค่ KBANK- KKP คาดกำไรโต ชู SCB ปันผลแรง ครึ่งหลังยีลด์สูง 7%


30 ธันวาคม 2568

จับตางบไตรมาส 4/68 หุ้นกลุ่มธนาคาร โบรกฯ คาดกำไรรวมจะอยู่ที่ 5.1 หมื่นล้านบาท ลดลง 3% ชี้มีเพียง KBANK- KKP กำไรเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เชื่อธนาคารจะ outperform ต่อได้จากแรงซื้อที่จะเข้ามามากก่อนช่วงประกาศเงินปันผลในเดือน ก.พ.69 ชู SCB จะเป็นหุ้นที่ให้ Dividend yield ช่วงครึ่งหลัง 68 สูงที่สุดในกลุ่มที่ 7%

กลุ่มแบงก์ผลงาน Q4 หืดจับ_S2T (เว็บ)_0.jpg

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คาดกำไรสุทธิรวมไตรมาส 4/68 ของกลุ่มธนาคารจะอยู่ที่ 5.1 หมื่นล้านบาท ลดลง 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 19% จากไตรมาสก่อน โดยสาเหตุหลักมีดังนี้

1. กำไรลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จาก NIM ที่ลดลงตามดอกเบี้ยขาลง ขณะที่กำไรลดลงจากไตรมาสก่อน เพราะกำไรจาก FVTPL ที่ลดลงตามสภาพตลาดทุน และกำไรจากเงินลงทุนลดลงจาก Bond yield ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยธนาคารที่เติบโตได้ดีจากช่วงเดียวกันของปีก่อน คือ KBANK เติบโต 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการตั้งสำรองฯที่ลดลงจากฐานสูงในปีก่อน รองลงมาเป็น KKP เติบโต 0.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากแนวโน้มผลขาดทุนรถยึดที่ลดลง

ขณะที่ไตรมาสนี้ทุกธนาคารมีกำไรที่ปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อน กันหมด นำโดย KTB ลดลง 26% ไตรมาสก่อน  รองลงมาเป็น BBL ลดลง 25% ไตรมาสก่อน และ KBANK ลดลง 16% ไตรมาสก่อน

2. สินเชื่อไตรมาส 4/68 จะลดลง 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน เนื่องจากสินเชื่อรายใหญ่และภาครัฐที่เพิ่มขึ้น ส่วน NPL จะเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/68 มาอยู่ที่ 3.24% จากไตรมาส 3/68 ที่ 3.14% แต่ยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้

3. ฝ่ายวิจัยคาด กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 1 ครั้งที่ 0.25% มาอยู่ที่ 1.00% ในช่วงครึ่งแรกปี 69 ซึ่งรวมผลกระทบในประมาณการกำไรของกลุ่มธนาคารไปเรียบร้อยแล้ว

4. คาดจะมีแรงซื้อในกลุ่มธนาคารก่อนล่วงหน้าเพื่อรับเงินปันผล ซึ่งจะทยอยประกาศในช่วงเดือน ก.พ. 69 โดยคาดว่า SCB จะเป็นหุ้นที่ให้ Dividend yield ช่วงครึ่งหลัง 68 สูงที่สุดในกลุ่มที่ระดับราว 7%

ทั้งนี้คงประมาณการกำไรสุทธิของกลุ่มธนาคารปี 2568 อยู่ที่ 2.28 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อน จากสำรองฯที่ลดลงเป็นหลัก นอกจากนี้คงประมาณการกำไรสุทธิของกลุ่มธนาคารปี 2569 จะอยู่ที่ 2.19 แสนล้านบาท ลดลง 3% จากปีก่อน จาก NIM ที่ลดลงเป็นหลัก ส่วนสำรองฯมีแนวโน้มลดลงได้จากการตั้งเผื่อมาเยอะแล้ว

ดังนั้นคงน้ำหนักการลงทุนเป็น “มากกว่าตลาด” เพราะอัตราเงินปันผลเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารอยู่ที่ราว 7% สูงกว่าอัตราปันผลเฉลี่ยของตลาดหุ้นที่ 3% โดยเชื่อว่ากลุ่มธนาคารจะ outperform ต่อได้จากแรงซื้อที่จะเข้ามามากก่อนช่วงประกาศเงินปันผลในเดือน ก.พ.69 ด้าน valuation ยังไม่แพง โดยซื้อขายที่ระดับเพียง 0.74 เท่า PBV  โดยเลือก SCB (แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 150.00 บาท) และ KTB (แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 30.00 บาท) เป็น Top pick