January Effect อีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่จะผลักดันตลาดหุ้นในช่วงเดือนมกราคม ซึ่งสาเหตุเกิดจากแรงซื้อของนักลงทุนบางกลุ่มที่อาจจะเทขายหุ้นบางตัวออกในช่วงปลายปีที่ผ่านมา สำหรับตลาดหุ้นไทยเองก็อาจจะมีลุ้นปรากฏการณ์ดังกล่าวด้วยเช่นกัน แต่จะเป็นหุ้นตัวใดที่จะได้แรงหนุนนั้นไปดูมุมมองจากนักวิเคราะห์กัน
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ให้มุมมองว่า สถิติผลตอบแทนในเดือน ม.ค. ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ปี 2564-2568) ของตลาดหุ้นไทย พบว่ากลุ่มหุ้นขนาดเล็ก (sSET) มี January Effect และให้ตอบแทนสูงกว่าตลาด ซึ่งมักจะให้ผลตอบแทนในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกของ ม.ค. ราว 1.8-2.0% และมีโอกาสให้ผลตอบแทนเป็นบวก 80% และ Outperform ตลาดทั้งในแง่ผลตอบแทนและโอกาสที่จะให้ผลตอบแทนเป็นบวก
นอกจากนี้ ยังพบว่ากลุ่มหุ้นที่ให้ปันผลสูง (SETHD) มี January Effect เช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์แรกของ ม.ค. ที่ได้ผลตอบแทนราว 1.5% และมีโอกาสให้ผลตอบแทนเป็นบวก 100% โดยมองการปรับขึ้นดังกล่าวมีสาเหตุจากการเข้าซื้อเพื่อรอรับเงินปันผลที่จะเริ่มขึ้นเครื่องหมาย XD ในช่วง มี.ค.-พ.ค.
สำหรับ January Effect คือ ปรากฏการณ์ ทางสถิติของตลาดหุ้นที่มักจะพบราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นในเดือนมกราคม โดยคาดว่ามีแรงหนุนจากการซื้อกลับในช่วงต้นปี ในหุ้นที่นักลงทุนขายในช่วงปลายปีก่อนเพื่อบริหารจัดการด้านบัญชีหรือ Window Dressing, หุ้นที่มีแรงซื้อในช่วงต้นปีจากเม็ดเงินผลตอบแทนพิเศษของพนักงานหรือกองทุนลดหย่อนภาษี, เชิงจิตวิทยาเป็นจังหวะในการเริ่มเข้าลงทุนเนื่องจากเป็นการเริ่มต้นของปีใหม่ เป็นต้น
ดังนั้น แนะนำ 5 หุ้นเก็งกำไร January Effect คัดเลือกจากหุ้นใน SETHD และ sSET ที่สถิติผลตอบแทนช่วง 5 ปี (ปี 2564-2568) มีโอกาสให้ผลตอบแทนเป็นบวกสูงในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกและ Outperform หุ้นขนาดใหญ่และตลาด ซึ่งคัดเลือกหุ้นจาก SETHD เป็นหลัก โดยมีเกณฑ์การเลือกสอดคล้องกับ “กลยุทธ์ตลาดหุ้นไทย - หุ้นปันผลคุณภาพดีสำหรับลงทุนระยะสั้น-ยาว” แนะนำ KTB BBL AP THANI และ KBANK
โดยสถิติของ 5 หุ้นดังกล่าวที่ถูกคัดเลือก พบว่าช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ในช่วง 1 สัปดาห์แรกเดือน ม.ค. มีโอกาสให้ผลตอบแทนเป็นบวกอย่างน้อย 80% และคาดจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 2.9% ซึ่ง Outperform SET ที่คาดจะให้ผลตอบแทนราว 1.3% และมีโอกาสให้ผลตอบแทนเป็นบวกเพียง 60%