Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 23-12-25 (AOT เงิบ!รอไปก่อนนะ! )


23 ธันวาคม 2568

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 23-12-25 (AOT เงิบ!รอไปก่อนนะ! )

 

23-12-25 สวัสดีค่ะพี่น้องชาวไทยที่รัก "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม  www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ 

***ตอนแรกนึกว่าจะได้เลย..ที่ไหนได้!!!  มีรายงานว่า รมว. คมนาคม พูดถึงการปรับขึ้นค่า Passenger Service Charge (PSC) ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 730 บาท เป็น 1,120 บาทต่อคนสำหรับท่าอากาศยาน 6 แห่ง ของ บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT โดยเรื่องนี้คณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) มีมติเห็นชอบไปแล้ว ตามขั้นตอนจะต้องเสนอให้รมว.คมนาคมลงนามในประกาศ

***อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เรื่องยังไม่เสนอเข้ามาแต่เนื่องจากมีการยุบสภา สถานะเป็นรัฐบาลรักษาการ การจะลงนามที่มีผลผูกพันอาจจะต้องรอรัฐบาลใหม่หรือไม่ เรื่องนี้หากมีการเสนอเข้ามาก็จะเสนอไปที่ ครม.เพื่อให้สอบถามคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าจะสามารถลงนามประกาศปรับค่า PSC ได้หรือไม่..พวกเราคิดว่าไงคะ!!! ได้มั้ย?? แต่สำหรับเจ๊ที่คิดคือ..จะได้เร้ออออออ ..แต่ที่แน่ๆ ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นเป็นผลลบต่อ AOT เพราะที่ผ่านมาราคาหุ้นสะท้อนความคาดหวังเชิงบวกโอกาสปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมไปแล้ว

***ส่วนเรื่องราวทางการเมืองตอนนี้เตรียมเข้าสู่ช่วงการแถลงนโยบายหาเสียงและการเปิดตัว สส. สำหรับการเลือกตั้ง วันที่ 8 ก.พ. ปีหน้า..นักลงทุนกำลังจับตาดูนโยบายหาเสียงรอบใหม่ และความเป็นไปได้ของผลการเลือกตั้ง หากการตอบรับจากนักลงทุนออกมาในทางที่ดี Election rally ก็สามารถเกิดขึ้นได้

***แต่ที่มาแล้ว..และเป็นข่าวดีสำหรับตลาดหุ้นคือเรื่องที่  คปภ. เปิดเผยว่า ธุรกิจประกันมีมูลค่าสินทรัพย์ลงทุนรวม 4.88 ล้านล้านบาท หรือ 1 ใน 4 ของ GDP ไทย ทำให้สามารถใช้เป็นตัวช่วยประตุ้นเศรษฐกิจได้

1.) ในปี 2569 บริษัทประกันสามารถลงทุนใน Private Credit และ Private Fund ได้ โดยมีการขยายลงทุนเดิมเพิ่มขึ้น ในตราสานทุนทั้งในและนอกประเทศ รวมถึง Risk Assets เพื่อให้ บ.ประกันเข้าถึงการลงทุนได้แบบไม่จำกัดประเภท เสริมความมั่นคงของเงินออมประชาชน และเพิ่มเม็ดเงินใหม่เข้าสู่ตลาดหุ้นไทย

2.) คปภ. ได้ทำการลดความเสี่ยง (Risk Charge) จาก 25% เหลือ 18% การที่ค่าความเสี่ยงลดลง 7% หมายความว่า เดิมลงทุน 100 บาท ต้องตั้งสำรอง 25 บาท เกณฑ์ใหม่จะเหลือ 18 บาท

คปภ.คาดว่าจะทำให้บริษัทประกันมีเงินลงทุนในตลาดทุน เพิ่มขึ้นถึง 1 เท่าตัวคือไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาท จากปัจจุบัน (ณ 30 ก.ย.) มีมูลค่าลงทุนในตราสารทุน 2 แสนล้านบาท หรือ 4% ของสินทรัพย์ที่ลงทุน

***กูรูหุ้นชี้ว่าหากเป็นไปตามี่ คปภ. คาด จะเป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทย โดยเงินใหม่ทุกๆ 1 หมื่นล้านบาท จะบวกราว 25-30 จุด ส่วนหุ้นที่คาดได้จิตวิทยาบวกกรณีดังกล่าว แนะนำหุ้นธีม Dividend Play ที่คาดเป็นเป้าหมายลำดับต้น อาทิ SCB, KBANK, KTC, AP, SC

***มีความเห็นว่าช่วงรอยต่อในเดือน ธ.ค.- ช่วงต้นปีของทุกปีเป็นจังหวะที่ดีและสำคัญในการลงทุนหุ้นปันผล(Dividend Stocks) โดยช่วงปลายเดือน ก.พ.- พ.ค. ของทุกปี จะเข้าสู่เทศกาลประกาศจ่ายปันผลประจำปีของบริษัทจดทะเบียน ทำให้นักลงทุนมักจะเข้าซื้อหุ้นปันผลก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD โดยคาดหวังเงินปันผล(Dividend) และคาดหวังส่วนต่างราคาหุ้นที่ปรับขึ้น(Capital Gain) อิงจากสถิติในอดีตการลงทุนหุ้นปันผลมักจะให้ผลตอบแทนที่ดี ดังนี้

-ผลตอบแทนหุ้นปันผล อิง ดัชนี (SETHD) ย้อนหลัง 10 ปี พบว่า SETHD ในช่วงเดือน ม.ค. ของทุกปี ผลตอบแทนมักเป็นบวกคือ เดือน ม.ค.ด้วยความน่าจะเป็น 60% ขณะที่ให้ผลตอบแทนบวกเฉลี่ย +0.7%

-SETHD ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของทุกปี (งวด 1Q) ด้วยความน่าจะเป็น 60% ขณะที่ให้ผลตอบแทนบวกเฉลี่ย +0.33%

***ปิดท้ายวันนี้..แถมให้!! ข้อมูลจาก Goldman Sachs ได้คาดการณ์ราคาทองคำคาดว่าจะพุ่งแตะ 4,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปีหน้า (2569) จากแรงซื้อของธนาคารกลางและการลดดอกเบี้ยของ Fed ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบBrent มีแนวโน้มปรับลดลงเหลือเฉลี่ย 56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปีหน้าเช่นกัน เนื่องจากปัญหาอุปทานส่วนเกินล้นตลาด