Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 16-12-25 (6 เรื่องสำคัญที่ต้องรู้ในเดือนนี้มีผลต่อหุ้น)


16 ธันวาคม 2568

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 16-12-25 (6 เรื่องสำคัญที่ต้องรู้ในเดือนนี้มีผลต่อหุ้น )

 

16-12-25 สวัสดี “ปีงูไฟ" ค่ะพี่น้องชาวไทยที่รัก "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ 

***ในเดือนธันวาคมนี้มีหลายเรื่องสำคัญที่ต้องติดตามดู..เพราะว่ามีผลต่อตลาดหุ้นไทยแน่ๆ  เริ่มจาก การเมือง, ตลท.ประกาศหุ้นเข้า SET50 -SET100, การประชุม กนง.,การปรับน้ำหนักลงทุนของกลุ่ม Passive Funds, การขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ และสถานการณ์ท่องเที่ยวของไทย

***เริ่มกันที่เรื่องการเมือง รัฐบาลเข้าหารือ กกต. ว่ามาตรการใดบ้างที่น่าจะพิจารณาต่อได้ ในช่วงเวลาที่ทำหน้าที่เป็นรัฐบาลรักษาการ   และมีรายงานว่าที่ประชุม กกต.มีมติเห็นชอบ ร่างแผนการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามที่สำนักงาน กกต. ได้เสนอ โดยให้วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และวันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2569 เป็นวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเลือกตั้ง/นอกเขตเลือกตั้ง วันลงคะแนน ณ ที่เลือกตั้งสำหรับการพิการทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุ

***มีคำแนะนำจากกูรูถึงหุ้นได้ประโยชน์ยุบสภา เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง

1) ธีมดอกเบี้ยขาลง เน้น กลุ่มเช่าซื้อ MTC, SAWAD กลุ่มโรงไฟฟ้า GULF, BGRIM(Deep Value) กลุ่มHigh Yield เน้น SC, AP

2) หุ้น SET50 รองรับ Fund Flows เน้น ภาคบริการ สื่อสาร ADVANC พลังงาน PTT, GULF, PTTGC(Deep Value), TOP การแพทย์ BDMS ท่องเที่ยว CENTEL

3) หุ้นอิงภายในที่มักให้ผลตอบแทนเด่นช่วง Election Rally อาทิ กลุ่มค้า ปลีก CPALL(Deep Value) , ธนาคาร KBANK, KTB

***เรื่องต่อมาคือ กลาง ธ.ค.นี้ SET ประกาศผลการคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ใช้สำหรับการคำนวณดัชนี SET50 SET50FF* SET100 SET100FF* sSET SETCLMV SETESG SETHD และ SETWB ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2569 (1 มกราคม - 30 มิถุนายน 2569) 

-ดัชนี SET50/ SET50FF มีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 2 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย บมจ. โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) บมจ. ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) 

-ดัชนี SET100/ SET100FF มีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 3 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย บมจ. จีเอฟพีที (GFPT) บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) บมจ. สเตคอน กรุ๊ป (STECON) 

***ดัชนี sSET มีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 8 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย บมจ. บลูบิค กรุ๊ป (BBIK) บมจ. หลักทรัพย์ บียอนด์ (BYD) บมจ. เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม (KLINIQ) บมจ. เน็กซ์ พอยท์ (NEX) บมจ. เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป (PLAT) บมจ. ศรีราชาคอนสตรัคชั่น (SRICHA) บมจ. เอสวีไอ (SVI) บมจ. ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ (TFM)

***ดัชนี SETCLMV ไม่มีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 

***ดัชนี SETESG มีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 20 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) บมจ. อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) (AEONTS) บมจ. เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง (ASK) บมจ. ออโรร่า ดีไซน์ (AURA) บมจ. โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) บมจ. บ้านปู เพาเวอร์ (BPP) บมจ. โรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG) บมจ. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) บมจ. จีเอฟพีที (GFPT) บมจ. ฮิวแมนิก้า (HUMAN) บมจ. เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป (M) บมจ. นีโอ คอร์ปอเรท (NEO) บมจ. พริมา มารีน (PRM) บมจ. พี.เอส.พี.สเปเชียลตี้ส์ (PSP) บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) บมจ. สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี (SAT) บมจ. ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 (SCAP) บมจ. สกาย ไอซีที (SKY) บมจ. สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) บมจ. ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TIPH) 

***ดัชนี SETHD มีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 3 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย บมจ. อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) (AEONTS) บมจ. อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) บมจ. ไทยประกันชีวิต (TLI) 

***ดัชนี SETWB มีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 2 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย บมจ. อิชิตัน กรุ๊ป (ICHI) บมจ. เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป (M) 

***การทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ที่ใช้สำหรับคำนวณดัชนีดังกล่าวของตลาดหลักทรัพย์ฯ จะดำเนินการทุกครึ่งปี และเป็นไปตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ได้กำหนดไว้ ทั้งนี้ การทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ในครั้งนี้ใช้ข้อมูลระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2567 ถึง 30 พฤศจิกายน 2568

***กรณีหุ้น DELTA รอบ 1H26 จะยังผ่านเกณฑ์ SET50/SET100 เพราะติด Cash Balance ยังไม่เกินเกณฑ์ 3เดือน ทำให้รอบนี้ DELTA คงอยู่ใน SET50 ต่อไปใน 1H26 แต่วันที่ 30 ธ.ค.2568  จะถูกลดน้ำหนักจาก Passive Funds ตามเกณฑ์ที่จำกัดน้ำหนักไม่กิน 10% ของ Market Cap. รวม ทำให้หุ้น DELTA จะมีแรงขายประมาณ -1.2พันล้านบาท จากการ Rebalance

***วันนี้ (16 ธ.ค.) ในการประชุม ครม. ติดตามการพิจารณามาตรการเศรษฐกิจ อาทิ คนละครึ่งพลัส, หลักการ “ตั๋วร่วม” เปิดทางการซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้า และมาตรการสนับสนุนการออมในประเทศ บัญชีลงทุนส่วนบุคคล (TISA) แต่มีการคาดการณ์ว่า โอกาสอนุมัติมาตรการที่สร้างภาระผูกพันจำกัด 

***วันนี้จะมีรายงานนักท่องเที่ยวต่างชาติประจำสัปดาห์ คาดเร่งขึ้นต่อเนื่องจากแรงส่งนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม จีนจากความขัดแย้งกับญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวระยะไกลเข้าฤดูกาล นักท่องเที่ยวที่เหลือฟื้นจากฐานที่รับชะลอเดินทางจากน้ำท่วม

***วันที่ 17 ธ.ค. ติดตามการประชุม กนง. มีการประเมินว่ามีโอกาสเห็นการปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย -25 bps ลงเหลือ 1.25% จาก Downside เศรษฐกิจที่เข้ามาช่วงหลัง อาทิ น้ำท่วมใหญ่ภาคใต้ การฟื้นตัวล่าช้าของการค้าชายแดนจากสถานการณ์ไทย – กัมพูชาในปัจจุบัน รวมถึงรอยต่อที่การขับเคลื่อนนโยบายการคลังจำกัดในช่วงก่อน - หลังเลือกตั้งใหญ่ที่ใกล้เข้ามา

***วันนี้จะมีไอพีโอน้องใหม่ NTF หาญกล้า!!! เข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai  ทั้งนี้ NTF หรือ บมจ.เอ็นทีเอฟ อินเตอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) ทำธุรกิจจำหน่ายผลไม้สดและแช่แข็งทั้งในและต่างประเทศ มีทุนจดทะเบียน 200ล้านบาท พาร์ 0.50 บาท/หุ้น เสนอขายไอพีโอ จำนวน 60 ล้านหุ้น ที่ราคา 6 บาท/หุ้น (คิดเป็นร้อยละ 30 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด) มีมูลค่าตามราคาบัญชี (Book Value) อยู่ที่ 0.80 บาทต่อหุ้น

***สำหรับราคาไอพีโอที่ 6 บาท นคิดเป็น P/E ที่ประมาณ 4 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากกำไรสุทธิในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2568) ซึ่งเท่ากับ 209.4 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดของ NTF ก่อนการเสนอขาย ซึ่งเท่ากับ 140.0 ล้านหุ้น จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้น(EPS) เท่ากับ 1.50 บาท

***ภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ ราคาหุ้นสามัญที่เสนอขายหุ้นละ 6 บาทคิดเป็น P/E ที่ประมาณ 5.7 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากกำไรสุทธิในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ถึงวันที่ 30กันยายน 2568) ซึ่งเท่ากับ 209.4 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดของ NTFG ภายหลังการเสนอขายในครั้งนี้ (Fully Diluted) ซึ่งเท่ากับ 200 ล้านหุ้น จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เท่ากับ 1.05 บาท

***บริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหลักทรัพย์ในครั้งนี้ประมาณ 341.6 ล้านบาท ไปใช้ดัง

-ลงทุนในเครืองมือและอุปกรณ์การผลิต 120 ล้านบาท ภายในไตรมาส 4 ปี 2570

-เงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ 171.6 ล้านบาท ภายในไตรมาส 4 ปี 2569

-ชำระคืนเงินกู้ยืมจากธนาคารบางส่วน 50 ล้านบาท ภายในไตรมาส 1 ปี 2570

1. การลงในเครื่องมือและอุปกรณ์การผลิต : ลงทุนในเครื่องจักรคัดแยกเกรดและคุณภาพ, เครื่องจักรกระบวนการเป่าแห้งทุเรียน และกระบวนการคัดแยกน้ำหนักและบรรจุสินค้า ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิต ช่วยร่นระยะเวลาทำงานได้มากกว่า 50% อันจะส่งผลให้สามารถคัดบรรจุสินค้าได้เพิ่ม
2. การชำระคืนเงินกู้จากธนาคารบางส่วน : ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทฯ มีเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน จำนวน 263.4 ล้านบาท โดยเป็นเงินกู้ยืมระยะสั้น

***เจ๊เอาใจช่วย NTF เต็มที่นะคะ..ไปค่ะ ลุ้นๆๆๆๆ พร้อมกัน

PTG