Talk of The Town

บล.บียอนด์ คาด SET Index ปี 69 อาจฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี เหตุรับแรงกดดันการเมือง-ศก.โลกชะลอ


15 ธันวาคม 2568

บล.บียอนด์ คาด SET ปี 2569 ครึ่งปีหลังอาจฟื้นตัวได้ดี จากครึ่งปีแรก ที่โดนแรงกดดันจากการเมืองในประเทศ-เศรษฐกิจโลกชะลอ ซ้ำเหตุความขัดแย้งไทย-กัมพูชายืดเยื้อ อาจทำการเลือกตั้งล่าช้ากว่ากำหนด

บล.บียอนด์ คาด SET Index ปี 69_S2T (เว็บ)_0.jpg  

นาย อดิศักดิ์ พรหมบุญ หัวหน้าฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีหลังปี 69 จะเริ่มฟื้นตัวได้ดี จากครึ่งปีแรกปี 69 ที่ได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนทางการเมือง รวมถึงโอกาสที่เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวจากผลกระทบต่อเนื่องจากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ต่อการส่งออกของไทย

แต่อย่างไรก็ดี ปัจจัยการเมืองที่จะเกิดการเลือกตั้งในปีหน้า มีโอกาสที่จะล่าช้ากว่ากำหนดได้ เนื่องจากเหตุการณ์ความขัดแย้งบนพื้นที่ชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา จะส่งผลให้คนในพื้นที่ไม่สามารถออกมาเลืองตั้งได้ โดยตามกฎหมายประชาชนทั่วประเทศจะต้องออกมาใช้สิทธิพร้อมกัน ซึ่งหากสถานการณ์ยืดเยื้อต่อไปก็จะทำให้ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้

ทั้งนี้ จากข้อมูลสถิติของ Bloomberg คาดการณ์กำไรต่อหุ้น (EPS) ของ SET ในปี 2568 จะอยู่ที่ประมาณ 95.55 - 97.24 บาทต่อหุ้น (เทียบกับประมาณการปี 2568 ที่ 85.49 บาทต่อหุ้น) และระดับ P/E คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับประมาณ 13 เท่า ซึ่งถือเป็นระดับที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะยาว

สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ได้รับอานิสงส์โดยตรงจากการฟื้นตัวของมูลค่าที่ดินและการย้ายฐานการผลิตมายังเขต EEC กลุ่มท่องเที่ยวและบริการ ที่ได้รับแรงส่งจากปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์จากกรณีจีนขัดแย้งกับญี่ปุ่น และกลุ่มการแพทย์เป็นกลุ่ม Defensive Growth ที่ได้รับปัจจัยบวกจากสังคมผู้สูงอายุและเทรนด์ Medical Tourism

ทั้งนี้ ธีมการลงทุนเมกะเทรนด์หุ้นไทย แม้ว่าประเทศไทยไม่ได้ถูกวางตำแหน่งเป็น "ผู้สร้างเทคโนโลยี" (Tech Creator) แต่เป็น "ผู้สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน" (Infrastructure Enabler) ที่สำคัญของภูมิภาค โดยเฉพาะเทรนด์ AI และ Data Center ที่จะส่งผลบวกต่อกลุ่มธุรกิจ ดังนี้

โดยกลุ่มคือ กลุ่มโรงไฟฟ้า ที่จะเป็นผู้ได้รับประโยชน์สูงสุด เพราะ Al และ Data Center ต้องการพลังงานไฟฟ้าที่เสถียรและสะอาดตลอด 24 ชั่วโมง (Baseload) ซึ่งหุ้นที่มีโรงไฟฟ้าก๊าซธรรรมชาติและมีสัญญาขายไฟ (PPA) ที่มั่นคงจะเป็นเป้าหมายหลัก แนะนำหุ้นเด่น GPSC, BGRIM, WHAUP

ถัดมาเป็น กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม (Industrial Estates) โดยเฉพาะในโชน EEC (ชลบุรี, ระยอง, ฉะเชิงเทรา) ซึ่งเปรียบเสมือน Silicon Valley แห่งใหม่ รองรับการสร้าง Campus ของ Hyperscalers (เช่น Google, Microsoft) ที่ต้องการที่ดินแปลงใหญ่และสาธารณูปโภคคครบครัน แนะนำหุ้นเด่น WHA, AMATA

และกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Digital Infra) เช่น กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (IFF/REITs) ที่เป็นเสาสัญญาณและสายใยแก้วนำแสง ซึ่งสร้างกระแสเงินสดสม่ำเสมอ