Talk of The Town

10 ปี ต่างชาติขายหุ้นไทย 8.4 แสนลบ. ฉุดผลตอบแทนติดลบ 2% สวนทางญี่ปุ่น-เวียดนาม บวกเกิน 100%


12 ธันวาคม 2568

นักวิเคราะห์ ระบุตลาดหุ้นไทยเกิดวิกฤตความเชื่อมั่น ทำต่างชาติเทขายหุ้นไทยต่อเนื่อง 10 ปี มูลค่าสูงถึง 8.4 แสนล้านบาท กดดันผลตอบแทนสะสมช่วง 10 ปี ติดลบ2% สวนทางประเทศเพื่อนบ้าน คาดเป็นตัวสะท้อน SET ยังขาดเสน่ห์

10 ปี ต่างชาติขายหุ้นไทย _S2T (เว็บ) copy_0.jpg

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ให้มุมมองว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (2559 – 2568) ต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยรวมกว่า 25,819 ล้านเหรียญฯ หรือราว 8.4 แสนล้านบาท โดยขายหนัก 3 ปีหลัง (ปี 2566, 2567 และ 2568) นักลงทุนต่างชาติเทขายอย่างหนักต่อเนื่อง (5,507 ล้านเหรียญฯ, 4,132 ล้านเหรียญฯ และ 3,256 ล้านเหรียญฯ ตามลำดับ)

โดยส่งผลให้ผลตอบแทนสะสม 10 ปี ของตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ -2% ซึ่งสวนทางกับประเทศอื่นอย่างสิ้นเชิง เช่น ไต้หวัน +238% เวียดนาม +195% ญี่ปุ่น +164% แม้แต่ประเทศที่ต่างชาติขายเหมือนกัน ตลาดก็ยังบวกได้ แสดงว่าเม็ดเงินในประเทศช่วยเหลือแทน

โดยปีนี้จากต้นปีถึงปัจจุบัน สถาบันขาย 32,581 ล้านบาท สาเหตุหลักที่สถาบัน (กองทุน) ขายหุ้นไทย ส่วนหนึ่งมาจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภาษีโดยในอดีตกองทุน LTF (LONG TERM EQUITY FUND) คือเม็ดเงินหลักที่ช่วยพยุงหุ้นไทย เพราะบังคับถือครองระยะยาวเพื่อลดหย่อนภาษี แต่เมื่อ LTF หมดอายุโครงการและเปลี่ยนเป็น SSF/THAIESG ซึ่งเงื่อนไขไม่จูงใจเท่าเดิม

ดังนั้น สรุปสถานการณ์ตลาดหุ้นไทย เกิดวิกฤตความเชื่อมั่น โดยต่างชาติขายต่อเนื่อง 8 ใน 10 ปี และขายหนักขึ้นเรื่อยๆสะท้อนมุมมองว่าตลาดหุ้นไทย "ขาดเสน่ห์" หรือ "ขาด GROWTH STORY" เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน และขาดแรงพยุงจากสถาบัน ผ่านการยกเลิก LTF เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เม็ดเงินระยะยาวหายไป จึงยากที่จะทำเห็นดัชนีปรับตัวขึ้นแรงๆ ได้ หากไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาดึงดูดฟันด์โฟลว์