จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : SA รับมือความท้าทาย ปรับกลยุทธ์ธุรกิจปี 69 “Investment Program”


12 ธันวาคม 2568

ขณะที่ปี 69 ภาพรวมธุรกิจอสังหาฯ ยังมีความท้าทาย แต่ผู้บริหาร บมจ.ไซมิส แอสเสท (SA) เชื่อรายได้ยังคงเติบโตต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปี 68 โดยกลยุทธ์การลงทุนของบริษัทจะมุ่งเน้นการลดหนี้ พัฒนาโปรเจ็คต์เดิมที่มีอยู่ ระบาย Inventory และออกหุ้นกู้น้อยลง และเปิดตัว Investment Program คือการนำสินทรัพย์ที่มีอยู่ของมาขายพร้อมผู้เช่า

SA รายงานพิเศษ_S2T (เว็บ)_0.jpg

ปี 69 ภาพรวมธุรกิจอสังหาฯ ยังมีความท้าทาย แต่ SA มั่นใจรายได้ยังเติบโตต่อเนื่อง จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการคอนโดมีเนียม 2 โครงการที่จะเริ่มทยอยรับรู้ฯ ตั้งแต่ไตรมาส 1/69 ได้แก่ "แลนด์มาร์ค แอท แกรนด์ สเตชั่น" และ "แลนด์มาร์ค แอท เกษตรศาสตร์ ทุ่งสองห้อง สเตชั่น" ซึ่งปัจจุบันทั้ง 2 โครงการมียอดขายรอโอน (Backlog) แล้วมูลค่ารวมเกือบ 3,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 69 ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาและเจรจาซื้อที่ดินใน จ.ภูเก็ต 2 แปลงในทำเลหาดบางเทาและหาดกมลา โดยจะพัฒนาโครงการร่วมกับพันธมิตร มูลค่าโครงการคาดอยู่ที่ราว 9,000 ล้านบาท และคาดว่า ปี 69 ธุรกิจ Serviced Apartment จะสร้าง EBITDA ให้กับบริษัทราว 600 ล้านบาท จากราว 500 ล้านบาทในปีนี้

ซึ่งนายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SA ยอมรับ ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี2569 ยังคงเผชิญความท้าทายจากความเข้มงวดในการพิจารณาปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน แม้ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง แต่หากธนาคารพาณิชย์ยังคงไม่ผ่อนคลายมาตรการการปล่อยสินเชื่อ การลดดอกเบี้ยดังกล่าวก็คงจะไม่ช่วยกระตุ้นกำลังซื้ออย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งความเข้มงวดของธนาคารส่งผลให้ยอดการปฏิเสธสินเชื่อ (Rejection Rate) อยู่ในระดับที่สูงมาก สร้างผลกระทบให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ต้องแบกรับต้นทุนด้านการตลาดและค่าใช้จ่ายในการขายที่สูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และจะนำไปสู่การลดลงของกำไรของบริษัทอสังหาริมทรัพย์

โดยกลยุทธ์การลงทุนของบริษัทในปี 69 มุ่งเน้นการลดหนี้ พัฒนาโปรเจ็คต์เดิมที่มีอยู่ ระบาย Inventory และออกหุ้นกู้น้อยลง รวมทั้งไม่เน้นขยายโครงการใหม่ เนื่องจากสภาวะตลาดยังไม่ดี อย่างไรก็ตาม ตลาดของการซื้อเพื่อการลงทุนยังคงเติบโต บริษัทจึงได้เปิดตัว Investment Program คือการนำสินทรัพย์ที่มีอยู่ของบริษัทมาขายพร้อมผู้เช่าโดยเปิดขายให้กับบุคคลทั่วไป ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นการขายให้กับนักลงทุนที่เคยลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัท

ซึ่ง นายขจรศิษฐ์ เปิดเผยว่า Investment Program สำหรับลูกค้าที่ต้องการสร้างรายได้แบบ Passive Income โดยมี Yield Guarantee รับประกันผลตอบแทน 5% ต่อปีตลอด 5 ปี ได้รับการตอบรับดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะทำเล สุขุมวิทและพระราม 9  ซึ่งมีดีมานด์ปล่อยเช่าจากต่างชาติสูง และเป็นทำเลที่มียอดการปล่อยเช่าคงที่ตลอดปีขณะเดียวกันโมเดลบริหารแบบโรงแรมและ Serviced Apartment ของบริษัทฯ ยังช่วยตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการรายได้สม่ำเสมอ ทำให้ผู้ลงทุนมีสภาพคล่องจากค่าเช่าอย่างต่อเนื่อง

โครงการที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษภายใต้โปรแกรมดังกล่าว ได้แก่ Wyndham Garden Bangkok Sukhumvit 42, Ramada Plaza Residence Sukhumvit 48, Wyndham Bangkok Queen Convention Centre, Blossom Condo @Sathorn-Charoenrat, Ramada By Wyndham Bangkok Sukhumvit 87 ba และ Landmark At MRTA Station เป็นต้น โดยทั้งหมดอยู่บนทำเลเดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้า และมีความ ต้องการเช่าสูงจากผู้เช่าต่างชาติ      

ทั้งนี้ปัจจุบันตลาดเช่าคอนโดแบบมี Service มีความต้องการเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Expat ซึ่งรวมถึงชาวญี่ปุ่นที่นิยมเลือกเช่าคอนโดที่มีบริการเทียบเท่าโรงแรม ทำให้โมเดล Serviced Apartment ของ SA สามารถตอบโจทย์ตลาดได้อย่างแม่นยำ และเป็นเหตุผลสำคัญของการทำแคมเปญ Investment Program ในครั้งนี้

“แม้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในช่วงที่ผ่านมาอยู่ในภาวะฟื้นตัวช้า แต่ปัจจัยสนับสนุนจากภาครัฐ เช่น มาตรการลดค่าธรรมเนียมโอน-จำนอง และการผ่อนเกณฑ์ LTV ไปจนถึงกลางปี 2569 รวมถึงแนวโน้มดอกเบี้ยในประเทศที่อาจปรับลดลง ล้วนส่งผลดีต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านเฉลี่ยปัจจุบันไม่ถึง 3% ขณะที่ผลตอบแทนค่าเช่าของโปรแกรมอยู่ราว 5%ทำให้ผู้ลงทุนจึงมีกระแสเงินสดสุทธิเป็นบวกตั้งแต่ปีแรกที่ลงทุน”

SA