รายงานพิเศษ : SA รับมือความท้าทาย ปรับกลยุทธ์ธุรกิจปี 69 “Investment Program”
ขณะที่ปี 69 ภาพรวมธุรกิจอสังหาฯ ยังมีความท้าทาย แต่ผู้บริหาร บมจ.ไซมิส แอสเสท (SA) เชื่อรายได้ยังคงเติบโตต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปี 68 โดยกลยุทธ์การลงทุนของบริษัทจะมุ่งเน้นการลดหนี้ พัฒนาโปรเจ็คต์เดิมที่มีอยู่ ระบาย Inventory และออกหุ้นกู้น้อยลง และเปิดตัว Investment Program คือการนำสินทรัพย์ที่มีอยู่ของมาขายพร้อมผู้เช่า
ปี 69 ภาพรวมธุรกิจอสังหาฯ ยังมีความท้าทาย แต่ SA มั่นใจรายได้ยังเติบโตต่อเนื่อง จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการคอนโดมีเนียม 2 โครงการที่จะเริ่มทยอยรับรู้ฯ ตั้งแต่ไตรมาส 1/69 ได้แก่ "แลนด์มาร์ค แอท แกรนด์ สเตชั่น" และ "แลนด์มาร์ค แอท เกษตรศาสตร์ ทุ่งสองห้อง สเตชั่น" ซึ่งปัจจุบันทั้ง 2 โครงการมียอดขายรอโอน (Backlog) แล้วมูลค่ารวมเกือบ 3,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 69 ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาและเจรจาซื้อที่ดินใน จ.ภูเก็ต 2 แปลงในทำเลหาดบางเทาและหาดกมลา โดยจะพัฒนาโครงการร่วมกับพันธมิตร มูลค่าโครงการคาดอยู่ที่ราว 9,000 ล้านบาท และคาดว่า ปี 69 ธุรกิจ Serviced Apartment จะสร้าง EBITDA ให้กับบริษัทราว 600 ล้านบาท จากราว 500 ล้านบาทในปีนี้
ซึ่งนายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SA ยอมรับ ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี2569 ยังคงเผชิญความท้าทายจากความเข้มงวดในการพิจารณาปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน แม้ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง แต่หากธนาคารพาณิชย์ยังคงไม่ผ่อนคลายมาตรการการปล่อยสินเชื่อ การลดดอกเบี้ยดังกล่าวก็คงจะไม่ช่วยกระตุ้นกำลังซื้ออย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งความเข้มงวดของธนาคารส่งผลให้ยอดการปฏิเสธสินเชื่อ (Rejection Rate) อยู่ในระดับที่สูงมาก สร้างผลกระทบให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ต้องแบกรับต้นทุนด้านการตลาดและค่าใช้จ่ายในการขายที่สูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และจะนำไปสู่การลดลงของกำไรของบริษัทอสังหาริมทรัพย์
โดยกลยุทธ์การลงทุนของบริษัทในปี 69 มุ่งเน้นการลดหนี้ พัฒนาโปรเจ็คต์เดิมที่มีอยู่ ระบาย Inventory และออกหุ้นกู้น้อยลง รวมทั้งไม่เน้นขยายโครงการใหม่ เนื่องจากสภาวะตลาดยังไม่ดี อย่างไรก็ตาม ตลาดของการซื้อเพื่อการลงทุนยังคงเติบโต บริษัทจึงได้เปิดตัว Investment Program คือการนำสินทรัพย์ที่มีอยู่ของบริษัทมาขายพร้อมผู้เช่าโดยเปิดขายให้กับบุคคลทั่วไป ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นการขายให้กับนักลงทุนที่เคยลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัท
ซึ่ง นายขจรศิษฐ์ เปิดเผยว่า Investment Program สำหรับลูกค้าที่ต้องการสร้างรายได้แบบ Passive Income โดยมี Yield Guarantee รับประกันผลตอบแทน 5% ต่อปีตลอด 5 ปี ได้รับการตอบรับดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะทำเล สุขุมวิทและพระราม 9 ซึ่งมีดีมานด์ปล่อยเช่าจากต่างชาติสูง และเป็นทำเลที่มียอดการปล่อยเช่าคงที่ตลอดปีขณะเดียวกันโมเดลบริหารแบบโรงแรมและ Serviced Apartment ของบริษัทฯ ยังช่วยตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการรายได้สม่ำเสมอ ทำให้ผู้ลงทุนมีสภาพคล่องจากค่าเช่าอย่างต่อเนื่อง
โครงการที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษภายใต้โปรแกรมดังกล่าว ได้แก่ Wyndham Garden Bangkok Sukhumvit 42, Ramada Plaza Residence Sukhumvit 48, Wyndham Bangkok Queen Convention Centre, Blossom Condo @Sathorn-Charoenrat, Ramada By Wyndham Bangkok Sukhumvit 87 ba และ Landmark At MRTA Station เป็นต้น โดยทั้งหมดอยู่บนทำเลเดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้า และมีความ ต้องการเช่าสูงจากผู้เช่าต่างชาติ
ทั้งนี้ปัจจุบันตลาดเช่าคอนโดแบบมี Service มีความต้องการเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Expat ซึ่งรวมถึงชาวญี่ปุ่นที่นิยมเลือกเช่าคอนโดที่มีบริการเทียบเท่าโรงแรม ทำให้โมเดล Serviced Apartment ของ SA สามารถตอบโจทย์ตลาดได้อย่างแม่นยำ และเป็นเหตุผลสำคัญของการทำแคมเปญ Investment Program ในครั้งนี้
“แม้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในช่วงที่ผ่านมาอยู่ในภาวะฟื้นตัวช้า แต่ปัจจัยสนับสนุนจากภาครัฐ เช่น มาตรการลดค่าธรรมเนียมโอน-จำนอง และการผ่อนเกณฑ์ LTV ไปจนถึงกลางปี 2569 รวมถึงแนวโน้มดอกเบี้ยในประเทศที่อาจปรับลดลง ล้วนส่งผลดีต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านเฉลี่ยปัจจุบันไม่ถึง 3% ขณะที่ผลตอบแทนค่าเช่าของโปรแกรมอยู่ราว 5%ทำให้ผู้ลงทุนจึงมีกระแสเงินสดสุทธิเป็นบวกตั้งแต่ปีแรกที่ลงทุน”