ย้อนไทม์ไลน์ชวนสงสัย! BCP ประกาศแจ้งซื้อหุ้นคืน จังหวะสุดบังเอิญ? ก่อนผถห.เอี่ยวแก๊งสแกมเมอร์เทขาย แถมก่อนหน้า ปปง.สั่งอายัดทรัพย์แค่เพียง 3 วัน
เกาะติดสถานการณ์บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP หากนักลงทุนจำได้บริษัทประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน 3 ปี วงเงินกว่า 3,800 ล้านบาท ประเดิมปี 68 วงเงินไม่เกิน 1,100 ล้านบาท ไม่เกิน 29.50 ล้านหุ้น เริ่มวันที่ 16 ธันวาคม 2568 ถึงวันที่ 15 มิถุนายน 2569 หวังช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนในศักยภาพของธุรกิจ เพิ่มอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น และกำไรสุทธิต่อหุ้น
ทั้งนี้บริษัทได้ประกาศโครงการซื้อหุ้นในช่วงเย็นของวันที่ 26 พ.ย.2568 ดังนั้นหากเข้าไปสำรวจราคาหุ้นวันที่ 27 พ.ย.2568 พบว่า ปิดการซื้อขายของวันที่ระดับ 28.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.68% จากวันก่อนหน้า โดยระหว่างวันราคาหุ้นเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดที่ระดับ 29.75 บาท
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา BCP เป็นหนึ่งในบริษัทที่ถูกตั้งคำถามบ่อยครั้งว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่เกี่ยวข้องแก๊งสแกมเมอร์ จนมีกระแสข่าว สำนักงาน ก.ล.ต. มีการตรวจสอบบริษัทจดทะเบียนจำนวน 7 บริษัท หนึ่งในนั้นมี BCP ด้วย แต่บริษัทออกมาชี้แจงว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อจากสำนักงาน ก.ล.ต. หรือสำนักงาน ป.ป.ง. เพื่อดำเนินการตรวจสอบตามที่ปรากฏเป็น
จนกระทั่งล่าสุดวันที่ 3 ธ.ค. 68 ทาง ปปง.ยึด-อายัดทรัพย์สินในคดีสำคัญที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ มูลค่ารวมกว่า 1 หมื่นล้านบาทหนึ่งในหุ้นที่ถูกอายัด เลขา ปปง. กล่าวว่ารายการใหญ่ที่สุดคือหุ้นของ BCP มูลค่าราว 6 พันล้านบาท (28 พ.ย. 2568) โดยหุ้นที่อายัดไว้ มีกรอบกำหนด 90 วัน มีสิทธิพิสูจน์ภายใน 30 วัน หากไม่ใช่การกระทำผิด เป็นอำนาจเพิกถอนต่อไป
ทำให้บริษัทฯ ชี้แจงว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นมาตรการของทางราชการที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นรายนั้น และเป็นกระบวนการตามกฎหมายที่แยกจากการดำเนินธุรกิจและการบริหาร งานของบริษัทฯ ซึ่งยังคงเป็นไปตามปกติและมีเสถียรภาพอย่างเต็มที่
แต่ที่น่าสนใจ คือ ผู้ถือหุ้นใหญ่ที่เป็นประเด็น และสังคมตั้งคำถามว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับ แก๊งสแกมเมอร์ หรือไม่นั้น อย่าง บริษัท อัลฟ่า ชาร์เตอร์ด เอนเนอร์จี จำกัด ที่ได้ดำเนินการจำหน่ายหุ้น BCP วันที่ 28 พ.ย.2568 จำนวน 27,149,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 1.97% ส่งผลให้เหลือสัดส่วนการถือครองอยู่ที่ 249,151,000 หุ้นหรือ 18.09%
ทั้งนี้จากการตั้งข้อสังเกตจะพบว่าการทำรายการดังกล่าวของ บริษัท อัลฟ่า ชาร์เตอร์ด เอนเนอร์จี เป็นการทำรายการก่อนหน้าที่ ปปง.จะมีคำสั่งอายุหุ้น BCP มูลค่าประมาณ 6 พันล้าน เชื่อมโยงเครือข่ายแค่เพียงไม่กี่วันนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ประเด็นอายัดหุ้น BCP ครั้งนี้เห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด มองว่า ไม่กระทบต่อปัจจัยพื้นฐาน BCP เนื่องจากกลุ่มที่ถูกอายัดหุ้น ไม่มีส่วนในการบริหารจัดการแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นหุ้นดังกล่าว อาจจะถูกอายัดไว้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งไม่เกี่ยวกับหุ้นที่นักลงทุนถือครองไว้ จึงมองว่าไม่กระทบต่อหุ้นที่นักลงทุนถือครอง
ส่วนความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) มอง ว่าแม้การทำธุรกิจของ BCP จะไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากการทำธุรกิจเป็นไปตามกลยุทธ์ระยะยาวตั้งแต่ก่อนที่จะมีผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่เข้ามา
แต่แต่อาจทำให้ตลาดกังวล กรณี worst case ที่หาก ปปง. ตัดสินว่าการได้มาของหุ้นมูลค่า 6 พันล้านบาท มาจากเงินที่มีความผิด สุดท้ายอาจมีการขายผ่านตลาดหลักทรัพย์ออกมาเป็นแรงกดดันต่อราคาหุ้น (ราว 200-240 ล้านหุ้น หรือราว 15-17% ของหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมดของ BCP หากใช้ราคาอ้างอิง 25-30 บาท/หุ้น)
โดยฝ่ายวิจัยคาดนโยบายซื้อหุ้นคืนของ BCP ส่วนแรกที่ราว 29.5 ล้านหุ้น จะไม่พอรองรับหากไม่ใช่การทยอยขาย อย่างไรก็ตามคาด ปปง. มีแนวโน้มจะทยอยขายผ่านตลาดหลักทรัพย์มากกว่าเทขายทีเดียวเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดผลกระทบวงกว้าง (ผู้ถือหุ้นอีกราว 39.7% ได้แก่ กองทุนรวมวายุฯ 19.8% สำนักงานประกันสังคม 15.1%กระทรวงการคลัง 4.8%) ทั้งนี้ทุกๆ WACC ที่เพิ่มขึ้น 1% (ปัจจุบัน WACC 7.8%) จากความเสี่ยงที่สูงขึ้น จะกระทบราคาเป้าหมาย 6 บาท/หุ้น
สุดท้ายแล้ว นักลงทุนยังต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด เพราะไม่ว่าผลจะออกมาเป็นแบบไหน เชื่อว่านักลงทุนทุกฝ่ายต้องการความชัดเจน เพื่อที่จะปลดล็อก overhang ได้ในอนาคต
ยอดนิยม
เปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น BCP ล่าสุด! พบ “อัลฟ่า ชาร์เตอร์ด” โผล่ถืออันดับ 1 ฟาก BTS – “วายุภักษ์หนึ่ง” ลดสัดส่วน
โบรกฯ มองหุ้นไทยเสี่ยงปรับตัวลง เจอแรงกดดันจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ เคราะห์ซ้ำโดนการสู้รบไทยกัมพูชา
ทองยังนิ่ง! จับตาเฟดส่งซิกดอกเบี้ย “เควิน เฮสเส็ท” ชี้เฟดไม่ควรล็อกกรอบล่วงหน้า ทองไทยเปิดร่วง 150 บาท ตามต่างประเทศ
ย้อนไทม์ไลน์ชวนสงสัย! BCP ประกาศแจ้งซื้อหุ้นคืน จังหวะสุดบังเอิญ? ก่อนผถห.เอี่ยวแก๊งสแกมเมอร์เทขาย แถมก่อนหน้า ปปง.สั่งอายัดทรัพย์แค่เพียง 3 วัน