Talk of The Town

ยอดขอ BOI พุ่งทำสถิติสูงสุด กว่า 1.4 ล้านล้านบาท ทะยานแรง 94% โบรกฯ ชู AMATA เด่นสุด


04 ธันวาคม 2568

ยอดยื่นขอ BOI 9 เดือนปี 2568 พุ่งทำสถิติสูงสุดที่ 1.4 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 94% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แซงหน้ายอดยื่นขอส่งเสริมการลงทุนทั้งปีในปี 2567 ไปแล้ว ให้น้ำหนักลงทุนนิคมอุตสาหกรรมเป็น “OVERWEIGHT” ชู AMATA เป็น Top Pick โดยมูลค่าปัจจุบันบ่งชี้ยอด presales เพียง 225 ไร่ต่อปี เทียบกับที่คาดไว้ที่ 1,400-1,600 ไร่ต่อปี

ยอดขอ BOI พุ่งทำสถิติสูงสุด_S2T (เว็บ) copy_0.jpg

นักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การเข้ามาจำนวนมากของศูนย์ข้อมูลเริ่มก่อให้เกิดปัญหาความแออัดในการส่งไฟฟ้าในพื้นที่ EEC รัฐบาลกำลังดำเนินการจัดทำแผนพลังงานไฟฟ้าเพื่อรองรับศูนย์ข้อมูลเพิ่มเติมในพื้นที่นอก EEC นอกจากนี้ ยังคาดว่าการยื่นขอ BOI โดยรวมจะเริ่มกลายเป็นการลงทุนจริง

โดยยอดยื่นขอส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) 9 เดือนปี 2568 พุ่งทำสถิติสูงสุดที่ 1.4 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 94% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แซงหน้ายอดยื่นขอส่งเสริมการลงทุนทั้งปีในปี 2567 ที่ 1.1 ล้านล้านบาท อุตสาหกรรมหลักส่วนใหญ่มีการเติบโต และศูนย์ข้อมูล (data centers) มีสัดส่วนสูงถึง 45% ของมูลค่าการยื่นขอทั้งหมด หรือเติบโต 551% ใน9 เดือนปี 2568 เทียบกับอุตสาหกรรมอื่นที่เติบโต 24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ข้อมูลจาก BOI ระบุว่า ยอดยื่นขอส่งเสริมการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมสำคัญส่วนใหญ่ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้ศูนย์ข้อมูลมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงจากฐานที่สูงอย่างไม่ยั่งยืนใน 9 เดือนปี 2568 ฝ่ายวิจัยคาดว่ามูลค่าการยื่นขอส่งเสริมการลงทุนจาก BOI จะยังคงสูงต่อเนื่องในอีกหลายปีข้างหน้า โดยได้แรงหนุนจากการย้ายฐานการผลิต

หลังจากมีการยื่นขอจัดตั้งศูนย์ข้อมูลจำนวนมากในช่วงสองปีที่ผ่านมา พื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เริ่มเห็นความเสี่ยงของคอขวดด้านการส่งไฟฟ้า สำหรับโครงการใหม่ในอนาคต รัฐบาลจึงกำลังจัดทำแผนพลังงานไฟฟ้า (power map) เพื่อระบุพื้นที่ที่มีสถานีไฟฟ้าและความสามารถในการส่งกำลังไฟฟ้าเพียงพอ สำหรับรองรับการตั้งศูนย์ข้อมูลเพิ่มเติม นอกจากนี้ BOI ยังมีแผนที่จะลดสิทธิประโยชน์ในพื้นที่ EEC และเพิ่มสิทธิประโยชน์ในพื้นที่ใหม่ที่ถูกระบุไว้ในแผนพลังงาน เพื่อจูงใจให้ศูนย์ข้อมูลขยายตัวไปยังพื้นที่ที่มีระบบไฟฟ้ารองรับมากกว่า

ทั้งนี้ ประเทศไทยมีกำลังการผลิตไฟฟ้าสำรองค่อนข้างสูงอยู่ที่ประมาณ 30% ทำให้ปัญหาคอขวดด้านการส่งไฟฟ้ามีแนวโน้มใช้เวลาไม่นานในการแก้ไข

การยื่นขอ BOI เป็นตัวชี้วัดสำคัญ และใช้เวลาประมาณสองปีจึงจะกลายเป็นการลงทุนจริง โดยรอบการเติบโตที่เริ่มในปี 2022 การลงทุนจริงเพิ่งเริ่มต้นขึ้นจริง ด้วยมูลค่าการยื่นขอ BOI สูงกว่า 1 ล้านล้านบาทต่อปี ในปี 2567-68กิจกรรมการลงทุนจึงน่าจะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในอีกสองปีข้างหน้า เนื่องจากกระแสการลงทุนใหม่ที่หลั่งไหลเข้ามาในหลายอุตสาหกรรม เช่น อิเล็กทรอนิกส์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, ศูนย์ข้อมูล, ยานยนต์ไฟฟ้า และเครื่องจักร เราจึงคาดว่าการลงทุนเหล่านี้จะก่อให้เกิดโครงการต่อเนื่องซึ่งจะขยายรอบการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของไทย

ดังนั้นคงน้ำหนักลงทุนนิคมอุตสาหกรรมเป็น “OVERWEIGHT” โดยยอด presales ที่ดินของผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมชั้นนำ 4 รายที่ทำบทวิเคราะห์เพิ่มขึ้นจาก 2,057 ไร่ ในปี 2562 เป็น 7,001 ไร่ ในปี 2567 และคาดว่าจะอยู่ที่ 5,090 ไร่ ในปี 2568

เหตุผลที่แนะนำ “ซื้อ” หุ้นเหล่านี้ไม่ใช่เพราะยอดขายที่ดินทำสถติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง แต่เป็นเพราะระยะเวลาคืนทุนที่สั้นลงจากการลงทุนในที่ดินเปล่า AMATA เป็น Top Pick ในกลุ่ม โดยมูลค่าปัจจุบันบ่งชี้ยอด presales เพียง 225 ไร่ต่อปี เทียบกับที่คาดไว้ที่ 1,400-1,600 ไร่ต่อปี

โดย ยอด BOI 9 เดือนสูง 1.4 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 94% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ Data Center เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการขอ BOI สูงถึง 45% ใน 1.4 ล้านล้านบาท เติบโต 551% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งแม้เห็นความเสี่ยงเรื่องการจัดส่งไฟฟ้าบ้างระยะสั้น แต่ภาครัฐฯ มีแผนรองรับแล้ว แนะนำ “ซื้อ” AMATA (Top Pick) WHA ROJNA และ “ถือ” PIN