Talk of The Town

ย้อนรอย “ยิม เลียก” เครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ เคยถือหุ้นใหญ่ BCPG มูลค่า 484 ลบ.


03 ธันวาคม 2568

จากประเด็น วันที่ 2 ธ.ค.68 คณะกรรมการธุรกรรม ปปง. มีมติยึดและอายัดทรัพย์ เครือข่าย "เบน สมิธ" รวมกว่าหมื่นล้านบาท โดยให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเครือข่ายผู้กระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในขบวนการสแกมเมอร์ (Scammer) ที่มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ในคดีสำคัญ 4 รายคดี ยึดและอายัดทรัพย์สินรวม 289 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 10,165 ล้านบาท

ย้อนรอย “ยิม เลียก”_S2T (เว็บ)_0.jpg

อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวได้ตรวจสอบข้อมูลผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ พบว่า นายยิม เลียก หรือ MR. LEAK YIM เคยถือหุ้น บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG (บริษัทในกลุ่มบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP) ซึ่งข้อมูลพบว่า ติดอันดับผู้ถือหุ้นใหญ่ BCPG ในช่วงปี 2565 จำนวน 45,500,000 หุ้น และปี 2566 เพิ่มเป็น 50,500,000 หุ้น (ข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 5 ก.ย.2566) ก่อนที่ปัจจุบันจะไม่พบการถือครองหุ้นแล้ว

ทั้งนี้หากประเมินมูลค่าการถือครองหุ้นในช่วงเวลาดังกล่าว คำนวณจากราคาปิด ณ ก.ย.2566 ที่ระดับ 9.60 บาทพบว่า มีมูลค่าสูงถึง 484 ล้านบาท

สำหรับ นายยิม เลียก เป็น รายคดี นางสาวแตงไทย บ้านมะหิงษ์ กับพวก ได้หลอกลวงผู้เสียหายว่าพบข้อมูลการส่งสินค้าซึ่งมีสิ่งของผิดกฎหมายจากจังหวัดเชียงรายไปที่ประเทศจีน และผู้เสียหายมียอดเงินในบัญชีธนาคารซึ่งเกี่ยวพันกับการฟอกเงินผิดกฎหมายต้องถูกตรวจสอบบัญชีธนาคาร

จากการสืบสวนเส้นทางการเงิน พบข้อมูลว่า นางสาวแตงไทยฯ ได้รับมอบอำนาจให้ทำธุรกรรมเกี่ยวกับบัญชีธนาคารของ นายยิม เลียก หรือ MR. LEAK YIM ซึ่งเป็นบุคคลใกล้ชิดทายาทเครือข่ายผู้มีอิทธิพลในกัมพูชา เป็นเครือข่ายสแกมเมอร์ ที่หลอกลวงผู้เสียหายเชื่อมโยงกับเส้นทางการเงินของผู้กระทำความผิดมูลฐาน พบข้อมูลการทำธุรกรรมนางสาวแตงไทยฯ เชื่อมโยงไปยังบุคคลและนิติบุคลจำนวนมาก

รวมทั้งมีข้อมูลการโอนเงินไปยัง นายเบน สมิธ หรือ MR. SMITH BEN ซึ่งมี พฤติการณ์กระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน มีการโอนเงินไปมาระหว่างบริษัทต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เสมือนว่ามีการดำเนินธุรกิจ และใช้บริษัทในการถือครองทรัพย์สินแทนตนเอง และบุคคลใกล้ชิด ซึ่งเป็นการทำธุรกรรมทางการเงินและการถือครองทรัพย์สินในลักษณะที่มีความซับซ้อนสูง

ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 66 รายการ (เช่น ที่ดิน ห้องชุด หลักทรัพย์ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 9,279 ล้านบาท