Talk of The Town

SNNP ชู “หลิง-ออม” เสริมศักยภาพให้แบรนด์ “เจเล่ บิวตี้” ขยายฐานสู่คนรุ่นใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ


28 พฤศจิกายน 2568
บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) ไฟแรง! เปิดแผนธุรกิจปี 69 ตั้งเป้ารายได้เติบโตระดับ Mid to High Single Digit ชูแบรนด์หลัก “เจเล่” และ “เบนโตะ” กระตุ้นยอดขายสินค้าทั้งตลาดไทยและเวียดนาม ฟากผู้บริหาร “วิโรจน์ วชิรเดชกุล” ระบุ ลุยพัฒนาสินค้ารสชาติใหม่ๆ ใช้กลยุทธ์การตลาดครบวงจร พร้อมเล็งจับมือแบรนด์ระดับโลกจัดบิ๊กเซอร์ไพรส์ สร้างกระแสและสีสันให้กับอุตสาหกรรมเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวคึกคักอีกครั้ง

SNNP ชู “หลิง-ออม”_S2T (เว็บ)_0.jpg

 
นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP ผู้นำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และขนมขบเคี้ยวของประเทศไทย เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจปี 2569 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตในระดับ Mid to High Single Digit หรือ 5-9% โดยคาดว่ายอดขายในประเทศจะเพิ่มขึ้น 5% และในประเทศเวียดนามจะเพิ่มขึ้น 20% 
 
โดยบริษัทฯ ใช้กลยุทธ์มุ่งเน้นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์หลักอย่าง “เจเล่” และ “เบนโตะ” โดยไม่มีแผนเปิดตัวแบรนด์ใหม่ แต่จะต่อยอดด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่และรสชาติที่หลากหลายภายใต้แบรนด์เดิม พร้อมปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ให้มีความน่าสนใจมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง และตั้งงบประมาณด้านการตลาดไว้ราว 3% ของยอดขาย พร้อมกับมีแผนปรับใช้อย่างเหมาะสม เน้นการลงทุนในกิจกรรมโฆษณาเพื่อสร้างการรับรู้และตอกย้ำความแข็งแกร่งของ Core Brand เป็นหลัก 
 
ด้านการตลาด บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาและวางแผนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง พร้อมเสริมกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดแบบครบวงจร ควบคู่กับการสร้างการรับรู้แบรนด์อย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งมุ่งขยายความแข็งแกร่งของระบบจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมทุกช่องทาง เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างทั่วถึง ขณะที่พรีเซนเตอร์ “หลิง–ออม” ยังช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์และเสริมศักยภาพให้กับแบรนด์ “เจเล่ บิวตี้” ได้เป็นอย่างดี สามารถขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
 
“SNNP เดินหน้าปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ มุ่งขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมแผนการตลาดแบบครบวงจร ผ่านการสื่อสารบนช่องทางดิจิทัลและ KOL เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาใหม่ ควบคู่กับการจัดแคมเปญ และเพิ่มความแข็งแกร่งด้านการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมทุกช่องทาง อีกทั้งยังเตรียมจัดกิจกรรมครั้งใหญ่ร่วมกับพันธมิตรแบรนด์ระดับโลก เพื่อมอบเซอร์ไพรส์เอาใจกลุ่มผู้บริโภคภายในปี 2569 ซึ่งคาดว่าจะช่วยสร้างบรรยากาศความคึกคักให้กับตลาดเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวได้เป็นอย่างดี” นายวิโรจน์ กล่าวในที่สุด
 
สำหรับในปี 2568 บริษัทฯ ต้องเผชิญแรงกดดันจากหลายปัจจัย ทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจ การลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยว ยอดขายเครื่องดื่มที่อ่อนตัวตามฤดูกาล รวมถึงปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และสภาพอากาศที่แปรปรวนจากอุทกภัย ล้วนส่งผลต่อภาพรวมการฟื้นตัวของการบริโภค แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ คาดว่าปีนี้จะเป็นช่วงผ่านพ้นจุดต่ำสุด และแนวโน้มจะปรับตัวดีขึ้นในปี 2569