หุ้นอสังหาริมทรัพย์ของไทย ผลงานไตรมาส 3/2568 เจ็บหนัก! โดยเฉพาะหุ้นชื่อดัง ที่รายงานกำไรออกมาลดลงอย่างมาก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามรายละเอียดอินโฟกราฟิกด้านล่าง
และที่น่าสนใจนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) มองว่า สถานการณ์ใน 9 เดือนปี 2568 ที่กลุ่มฯ เผชิญปัจจัยลบทั้งจาก 1. low-rise presale ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 11 ไตรมาสต่อกัน
2. condo presale ได้รับผลกระทบหลังแผ่นดินไหว และกำลังซื้อต่างชาติที่ลดลงไป และ 3. การแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง กดดันอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) และอัตรากำไรสุทธิ (NPM) ต่ำกว่าปกติ ทำให้กำไรสุทธิปี 2568 ของกลุ่มฯ มีโอกาสทำ new low
สำหรับแนวโน้มไตรมาส 4/2568-ปี 2569 คาดกลยุทธ์ปี 2569 กลุ่มฯ จะ conservative กว่าปี 2568 โดยเฉพาะชะลอการเปิดโครงการใหม่มาก และยังไม่เห็นปัจจัยบวกใหม่ ที่ทำให้กลุ่มฯ turnaround ได้อย่างมีนัยสำคัญ ข้อดี คือ valuation ปี 2569 กลุ่มฯ ซื้อขายที่ PER ราว 7.8 เท่า ต่ำกว่า mean–2.0SD ของกลุ่มฯ ย้อนหลัง ทำให้ downside ด้าน valuation เริ่มจำกัด
ขณะที่คาดกำไรสุทธิกลุ่มฯ ปี 2568 ที่ 2.11 หมื่นล้านบาท ลดลง 24%จากปีก่อน และทำ new low โดย core operation แย่ลงทั้งด้านการโอนและNPM ที่ลดลง โดย negative surprise มาจากแนวโน้มGPM ที่ลดลง มาที่ 29.5 % จากการทำ price promotion ที่มากกว่าปกติ
ส่วนปี 2569 ถึงแม้คาดกำไรสุทธิกลุ่มฯ โต 15% มาที่ 2.42 หมื่นล้านบาท แต่เป็นการโตจากฐานต่ำ แต่เทียบช่วง COVID-19 ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่ามาก โดยรวมตลาดผิดหวังกับผลตอบรับของมาตรการ ผ่อนคลาย LTV ให้กู้ได้ 100% ที่ไม่ได้มีส่วนช่วย incremental demand อย่างมีนัยสำคัญ ส่วนUpside คือ มาตรการรัฐสนับสนุนภาคอสังหาฯเพิ่ม และ Downside คือ การแข่งขันรุนแรงกว่าที่คาด
ดังนั้น คง Neutral rating จากแนวโน้มกำไรสุทธิกลุ่มฯ ในปี 2568-69 ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปกติ แนะนำ selective buy โดยให้น้ำหนัก AP เด่นสุดในครึ่งหลังปี 2568 จากการเพิ่มmarket share ได้ต่อเนื่อง และ รักษาอัตรากำไรได้ดี ทำให้กำไรสุทธิปี 2568 ลดลงน้อยกว่ากลุ่มฯ ในขณะที่ SC เด่นในปี 2569 จากการเติบโตของกำไรที่สูง ซึ่งมาจากการ turnaround ทั้ง residential และ non-residential โดย new S-curve กลุ่ม non residential ช่วยสนับสนุนกำไรให้มีความสม่ำเสมอมากขึ้นในระยะยาว
%20copy.jpg)
และที่น่าสนใจนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) มองว่า สถานการณ์ใน 9 เดือนปี 2568 ที่กลุ่มฯ เผชิญปัจจัยลบทั้งจาก 1. low-rise presale ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 11 ไตรมาสต่อกัน
2. condo presale ได้รับผลกระทบหลังแผ่นดินไหว และกำลังซื้อต่างชาติที่ลดลงไป และ 3. การแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง กดดันอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) และอัตรากำไรสุทธิ (NPM) ต่ำกว่าปกติ ทำให้กำไรสุทธิปี 2568 ของกลุ่มฯ มีโอกาสทำ new low
สำหรับแนวโน้มไตรมาส 4/2568-ปี 2569 คาดกลยุทธ์ปี 2569 กลุ่มฯ จะ conservative กว่าปี 2568 โดยเฉพาะชะลอการเปิดโครงการใหม่มาก และยังไม่เห็นปัจจัยบวกใหม่ ที่ทำให้กลุ่มฯ turnaround ได้อย่างมีนัยสำคัญ ข้อดี คือ valuation ปี 2569 กลุ่มฯ ซื้อขายที่ PER ราว 7.8 เท่า ต่ำกว่า mean–2.0SD ของกลุ่มฯ ย้อนหลัง ทำให้ downside ด้าน valuation เริ่มจำกัด
ขณะที่คาดกำไรสุทธิกลุ่มฯ ปี 2568 ที่ 2.11 หมื่นล้านบาท ลดลง 24%จากปีก่อน และทำ new low โดย core operation แย่ลงทั้งด้านการโอนและNPM ที่ลดลง โดย negative surprise มาจากแนวโน้มGPM ที่ลดลง มาที่ 29.5 % จากการทำ price promotion ที่มากกว่าปกติ
ส่วนปี 2569 ถึงแม้คาดกำไรสุทธิกลุ่มฯ โต 15% มาที่ 2.42 หมื่นล้านบาท แต่เป็นการโตจากฐานต่ำ แต่เทียบช่วง COVID-19 ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่ามาก โดยรวมตลาดผิดหวังกับผลตอบรับของมาตรการ ผ่อนคลาย LTV ให้กู้ได้ 100% ที่ไม่ได้มีส่วนช่วย incremental demand อย่างมีนัยสำคัญ ส่วนUpside คือ มาตรการรัฐสนับสนุนภาคอสังหาฯเพิ่ม และ Downside คือ การแข่งขันรุนแรงกว่าที่คาด
ดังนั้น คง Neutral rating จากแนวโน้มกำไรสุทธิกลุ่มฯ ในปี 2568-69 ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปกติ แนะนำ selective buy โดยให้น้ำหนัก AP เด่นสุดในครึ่งหลังปี 2568 จากการเพิ่มmarket share ได้ต่อเนื่อง และ รักษาอัตรากำไรได้ดี ทำให้กำไรสุทธิปี 2568 ลดลงน้อยกว่ากลุ่มฯ ในขณะที่ SC เด่นในปี 2569 จากการเติบโตของกำไรที่สูง ซึ่งมาจากการ turnaround ทั้ง residential และ non-residential โดย new S-curve กลุ่ม non residential ช่วยสนับสนุนกำไรให้มีความสม่ำเสมอมากขึ้นในระยะยาว
%20copy.jpg)
ที่เกี่ยวข้อง
%20co.jpg)
