Talk of The Town

“เถ้าแก่น้อย” งบ 9 เดือน ดิ่งหนัก กำไรทรุดกว่า 57% เหลือแค่ 297 ลบ. เหตุยอดขายหด แต่ต้นทุนสาหร่ายเพิ่มขึ้น


14 พฤศจิกายน 2568

TKN แจงงบ 9 เดือน 68 มีกำไร 297 ล้านบาท ลดลง 57% เหตุรายได้ลดลง จากยอดขายต่างประเทศหดตัว พร้อมกับต้นทุนเพิ่มขึ้น เจอผลกระทบอัตราแลกเปลี่ยน

“เถ้าแก่น้อย” งบ 9 เดือน ดิ่งหนัก_S2T (เว็บ)_0.jpg

นายจิระพงษ์ สันติภิรมย์กุล รองกรรมการ บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯว่า บริษัทมีผลกำไรสุทธิในไตรมาส 3/68 อยู่ที่ 112.2 ล้านบาท ลดลง 16.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิงวด 9 เดือนปี 68 อยู่ที่ 297.1 ล้านบาท ลดลง 57.4% ช่วงเดียวกันปีก่อน

ขณะที่รายได้จากการขายไตรมาส 3/68 อยู่ที่ 1,291.9 ล้านบาท ลดลง 11.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อนผ่านมา ซึ่งเป็นยอดขายจากตลาดในประเทศ 587.3 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 6.6% และเป็นยอดขายจากต่างประเทศที่ 704.6 ล้านบาท ลดลง 22.5%

โดยตลาดในประเทศปีนี้มีการเติบโตของยอดขายที่แข็งแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ไตรมาสด้วยกิจกรรมการขายและการตลาดที่ส่งผลให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าตราเถ้าแก่น้อย รวมถึงการเพิ่มความหลากหลายด้วยสินค้ารสชาติใหม่ๆ ซึ่งทำให้บริษัทสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในประเทศของปีนี้ได้เป็นอย่างดี

ส่วนยอดขายต่างประเทศของไตรมาส 3/68 ประเทศจีนมีแนวโน้มยอดขายที่ขยับตัวดีขึ้น 3.8% จากไตรมาส 2/68 หลักๆ มาจากยอดขายสินค้าในช่องทางออนไลน์ที่คึกคักมากขึ้นกว่าครึ่งปีแรก แต่อย่างไรก็ดียังคงลดลง 6.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน

ส่วนยอดขายจากประเทศหลักอย่าง สหรัฐอเมริกาและอินโดนีเซียยังคงไม่ฟื้นตัว เนื่องจากสภาพตลาดโดยรวมที่ได้รับผลกระทบสภาวะเศรษฐกิจที่มีการชะลอตัวอยู่ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในการใช้จ่าย รวมถึงสภาวะการแข่งขันด้านราคาจากคู่แข่งในประเทศและสินค้าที่มีการนำเข้าจากประเทศเกาหลี

ขณะที่ บริษัทมีรายได้จากการขาย 9 เดือนแรกรวมอยู่ที่ 3,931.6 ล้านบาท ลดลง 7.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเป็นการเติบโตจากในประเทศที่เพิ่มขึ้น 12.4% และจากยอดขายต่างประเทศที่ลดลง 18.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน

ทั้งนี้ บริษัทมีกำไรขั้นต้นไตรมาส 3/68 อยู่ที่ 379.6 ล้านบาท โดยสัดส่วนกำไรขั้นต้นต่อยอดขาย ลดลง 0.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 2.2% จากไตรมาส 2/68 โดยหลักมาจากส่วนประกอบของต้นทุนสาหร่ายปี 2568 ที่มีราคาดีกว่าปี 2567 อยู่ที่ 5-10% นำมาใช้ในการผลิตเป็นสัดส่วนที่มากขึ้น

ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบคงเหลือของประเภทสาหร่ายแตกต่างกันในแต่ละกลุ่มสินค้าซึ่งมีไม่เท่ากัน นอกจากนี้ ยังได้เริ่มมีการรับรู้ราคาบรรจุภัณฑ์บางชนิดที่มีการต่อรองและได้ราคาที่ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนส่งผลให้ต้นทุนผลิตมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

ขณะที่กำไรขั้นต้น 9 เดือนอยู่ที่ 1,095.3 ล้านบาท ลดลง 26.8% จากปีก่อน เนื่องจากผลกระทบจากหลายปัจจัยคือยอดขายที่ลดลงในปีนี้ทำให้ต้นทุนคงที่ต่อหน่วยสูงขึ้น ต้นทุนสินค้าโดยเฉพาะต้นทุนสาหร่ายที่มีราคาเฉลี่ยสูงกว่าปีก่อนและยังรวมถึงความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนในหลาย ๆ ประเทศและค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากกว่าปีก่อน

TKN