“การบินไทย” โชว์งบ 9 เดือน มีกำไรสุทธิ 2.63 หมื่นล้านบาท รายได้ขนส่งเพิ่ม-กำไรอัตราแลกเปลี่ยน

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยว่าในไตรมาส 3/2568 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) ทั้งสิ้น 44,398 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 1,430 ล้านบาท (-3.1%) สาเหตุหลักมาจากรายได้จากกิจการขนส่งลดลง 1,707 ล้านบาท (-4.1%) โดยรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารลดลง 1,426 ล้านบาท (-3.8%) และรายได้จากค่าระวางขนส่งและไปรษณียภัณฑ์ลดลง 281 ล้านบาท (-5.9%) จากการแข่งขันด้านราคาที่เพิ่มขึ้น และผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาท
ส่วนรายได้จากกิจการอื่นเพิ่มขึ้น 116 ล้านบาท (+4.3%) โดยหลักมาจากรายได้หน่วยธุรกิจคลังสินค้า และการให้บริการของฝ่ายช่างที่เพิ่มขึ้น และมีรายได้อื่นๆ เพิ่มขึ้น 161 ล้านบาท (+12.3%) ส่วนค่าใช้จ่ายรวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2,795 ล้านบาท (-7.2%) โดยหลักมาจากค่าน้ำมันเครื่องบินที่ลดลงตามราคาน้ำมันเฉลี่ยที่ปรับลดลง ถึงแม้ว่าปริมาณการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น
รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานไม่รวมค่าน้ำมันเครื่องบินลดลงจากปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯ สามารถบริหารจัดการต้นทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ส่งผลให้บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) เท่ากับ 8,557 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1,365 ล้านบาท (+19.0%)
โดยบริษัทฯ และบริษัทย่อยรับรู้ต้นทุนทางการเงิน (ซึ่งเป็นการรับรู้ต้นทุนทางการเงินตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 : TFRS 9) จำนวน 3,137 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1,692 ล้านบาท (-35.0%) และมีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวสุทธิเป็นค่าใช้จ่าย 993 ล้านบาท สาเหตุหลักจากผลขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศสุทธิ ผลขาดทุนจากการวัดมูลค่าจากตราสารอนุพันธ์ และผลขาดทุนจากการด้อยค่าซึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน TFRS 9
ในขณะที่ปีก่อนมีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวสุทธิเป็นรายได้ 10,119ล้านบาท จากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศสุทธิ กำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ ถึงแม้จะมีปรับปรุงสินค้าคงเหลือในกลุ่มที่ไม่มีฝูงบิน ไตรมาสที่ 3 ปี 2568 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 4,421 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 8,062 ล้านบาท (-64.6%) โดยเป็นกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 4,413 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.16 บาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทฯ มีกำไรต่อหุ้น 5.72 บาท โดยมี EBITDA จำนวน 12,408 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 1,466 ล้านบาท (+13.4%)
ผลประกอบการในงวด 9 เดือน
ขณะที่ ในงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน(ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) จำนวน 33,146 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 8,953 ล้านบาท(+37.0%) รายได้รวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) จำนวน 140,850 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 5,086 ล้านบาท (+3.7%) สาเหตุหลักเกิดจากรายได้จากกิจการขนส่งเพิ่มขึ้น 3,693 ล้านบาท (+3.0%)
โดยมีรายได้จากค่าโดยสารและค่าน้ำหนักส่วนเกินเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.0 จากปริมาณการขนส่งผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.2 ถึงแม้รายได้จากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อหน่วย (รวมค่าธรรมเนียมชดเชยค่าน้ำมันและค่าเบี้ยประกันภัย ไม่รวมค่าน้ำหนักส่วนเกิน) ต่ำกว่างวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 9.3
เนื่องจากการแข่งขันด้านราคาที่เพิ่มขึ้น และผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาทรายได้จากค่าระวางขนส่งและไปรษณียภัณฑ์เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9 จากปริมาณการขนส่งพัสดุภัณฑ์ (RFTK) ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ11.8 ตามปริมาณการส่งออกสินค้าที่เพิ่มขึ้น แม้ว่ารายได้พัสดุภัณฑ์เฉลี่ยต่อหน่วย (รวมค่าธรรมเนียมชดเชยค่าน้ำมันและค่าเบี้ยประกันภัย ไม่รวมค่าไปรษณียภัณฑ์) ต่ำกว่างวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 7.6 ก็ตาม รายได้จากกิจการอื่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.9 สาเหตุหลักเกิดจากรายได้หน่วยธุรกิจคลังสินค้าที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณการส่งออกสินค้าที่เพิ่มขึ้น และการให้บริการของฝ่ายช่างเพิ่มขึ้น นอกจากนี้รายได้อื่นๆ เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.9
บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว สาเหตุหลักจากกำไรจากการยกเลิกสัญญาเช่าเครื่องบินกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศสุทธิ ผลขาดทุนจากการวัดมูลค่าจากตราสารอนุพันธ์ ผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ และขาดทุนจากการด้อยค่าซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 9
โดยในงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 มีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวสุทธิ เป็นรายได้รวม 3,266 ล้านบาท บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 26,394 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 11,173 ล้านบาท (+73.4%) โดยเป็นกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 26,369 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.93 บาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทฯ มีกำไรต่อหุ้น 6.96 บาท เนื่องจากจำนวนหุ้นสามัญของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจากการปรับโครงสร้างทุนภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการ อย่างไรก็ดีหากคำนวณจากจำนวนหุ้นในปัจจุบัน กำไรต่อหุ้นสำหรับงวด 9 เดือนปี 2567 เท่ากับ 0.54 บาท
ขณะเดียวกันบริษัทฯ และบริษัทย่อย มี EBITDA จำนวน 43,295 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 4,970 ล้านบาท (+13.0%) โดยหลักมาจากรายได้รวมของบริษัทฯ ที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นและการบริหารจัดการต้นทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
ยอดนิยม
“การบินไทย” โชว์งบ 9 เดือน มีกำไรสุทธิ 2.63 หมื่นล้านบาท รายได้ขนส่งเพิ่ม-กำไรอัตราแลกเปลี่ยน
“เถ้าแก่น้อย” งบ 9 เดือน ดิ่งหนัก กำไรทรุดกว่า 57% เหลือแค่ 297 ลบ. เหตุยอดขายหด แต่ต้นทุนสาหร่ายเพิ่มขึ้น