จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : DMT ลุยร่วมประมูลโครงการ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 5 ต่อยอดการบริหารจัดการเส้นทาง


12 พฤศจิกายน 2568

บมจ.ทางยกระดับดอนเมือง (DMT)  พร้อมเข้าร่วมประมูลโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 5 ช่วงรังสิต-บางปะอิน ซึ่งเป็นเส้นทางต่อเนื่องกับทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์  หวังให้เกิดการบริหารจัดการที่ต่อเนื่องไร้รอยต่อ

DMT ลุยร่วมประมูลโครงการ_รายงานพิเศษ (เว็บ)_0.jpg

กรมทางหลวงเดินหน้าจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นภาคเอกชน (Market Sounding) ในโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 5 สายทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงรังสิต-บางปะอิน เพื่อประเมินความสนใจและเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานและภาคเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญ เข้ารับฟังข้อมูลโครงการอย่างครบถ้วนและร่วมแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ อย่างรอบด้าน เพื่อให้การจัดเตรียมเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน (RFP) มีความเหมาะสม รอบคอบ และโปร่งใส

นายพงศกร จุลละโพธิ รองอธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) คาดว่าจะจัดทำ RFP เสร็จและสามารถออกประกาศเชิญชวนร่วมลงทุนโครงการอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2569 และลงนามสัญญาผู้รับงานภายในไตรมาส 4 ปี 2569 ตามแผนจะใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี เปิดให้บริการในปี 2574 โครงการนี้มีรูปแบบการร่วมลงทุนแบบ PPP Gross Cost โดยภาครัฐเป็นเจ้าของทรัพย์สินและรายได้ทั้งหมดจากค่าธรรมเนียมผ่านทาง

ส่วนเอกชนจะได้รับค่าตอบแทนจากการให้บริการ (Availability Payment) ตามผลการดำเนินงานจริง โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการรวมไม่เกิน 34 ปี แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การออกแบบและก่อสร้างงานโยธา พร้อมติดตั้งงานระบบและองค์ประกอบที่เกี่ยวข้อง ระยะเวลาไม่เกิน 4 ปี,

ระยะที่ 2 การดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) ระยะเวลาไม่เกิน 30 ปี นับจากวันเปิดให้บริการ โดยประมาณการต้นทุนค่าใช้จ่ายโครงการทั้งหมดที่ 42,055.80 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าลงทุนก่อสร้าง 30,080.80 ล้านบาท ค่างานระบบ (O&M) 11,955.60 ล้านบาท ค่า Start-up 19.40 ล้านบาท นอกจากนี้ จะมีค่าใช้จ่ายจุดพักรถ (Rest Stop) 1 แห่ง วงเงิน 209.30 ล้านบาท (ค่าก่อสร้าง 7.60 ล้านบาท ค่า O&M 201.7 ล้านบาท

โครงการมอเตอร์เวย์ M 5 ช่วงรังสิต-บางปะอิน มีระยะทางรวมประมาณ 29 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร (ทิศทางละ 3 ช่องจราจร) แบ่งเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงอนุสรณ์สถาน-รังสิต ระยะทาง 7 กม. ปัจจุบันเปิดบริการอยู่แล้ว โดยกรมทางหลวงดำเนินการ และช่วงรังสิต-บางปะอิน ระยะทาง 22 กม. เป็นเส้นทางที่ต้องก่อสร้างใหม่

โดยเอกชนจะเป็นผู้ดำเนินก่อสร้างงานโยธาพร้อมติดตั้งระบบ O&M โดยเส้นทาง ไปสิ้นสุดที่ทางแยกต่างระดับบางปะอิน ตลอดเส้นทางมีจุดขึ้น-ลงและตำแหน่งเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางรวม 7 แห่ง ประกอบด้วย รังสิต 1, รังสิต 2, คลองหลวง, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, นวนคร, วไลยอลงกรณ์ และประตูน้ำพระอินทร์ พร้อมจุดพักรถ (Rest Stop) บริเวณตำแหน่งเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางรังสิต 1 ขาเข้าขนาด 5 ไร ซึ่งออกแบบให้มีพื้นที่จอดรถ ห้องน้ำ สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการแก่ผู้ใช้ทาง

โครงการนี้รัฐเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินและรายได้ค่าจากค่าธรรมเนียมผ่านทาง โดยให้เอกชนเป็นผู้ออกแบบและลงทุนก่อสร้างงานโยธาและระบบ O&M รวมถึงจุดพักรถ ตลอดจนการบริหารจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง นำส่งรัฐทั้งหมด โดยกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมผ่านทาง จากรังสิต-วไลยอลงกรณ์ รถยนต์ 4 ล้อ เก็บ 20 บาท มากกว่า 4 ล้อ เก็บ 30 บาท กรณีวิ่งจากรังสิต-บางปะอิน รถยนต์ 4 ล้อ เก็บ 40 บาท มากกว่า 4 ล้อเก็บ 65 บาท โดยจะมีการปรับค่าผ่านทางทุก 5 ปี ซึ่งมีกำหนดตารางอัตราไว้ตลอด 30 ปีแล้ว โดยคำนวนตามดัชนีผู้บริโภค (CPI) หรือเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2.5% ต่อปี เพื่อปิดความเสี่ยงของกองทุนรายได้ค่าธรรมเนียมมอเตอร์เวย์ที่จะนำมาใช้ในการจ่ายคืนค่าก่อสร้าง

ขณะที่คาดการณ์ปริมาณจราจรปีแรกที่เปิดให้บริการ ที่ 14.2 ล้านคัน มีรายได้ 503 ล้านบาท ปีที่ 5 เพิ่มเป็น 18.2 ล้านคัน คาดมีรายได้ 644 ล้านบาท ปีที่ 10 เพิ่มเป็น 23.9 ล้านคัน คาดมีรายได้ 939 ล้านบาท ปีที่ 20 เพิ่มเป็น 32 ล้านคัน คาดมีรายได้ 1,624 ล้านบาท และปีที่ 30 เพิ่มเป็น 40.9 ล้านคัน คาดมีรายได้ 2,890 ล้านบาท ขณะที่กำหนดค่าลงทุนรวมที่จะใช้เป็นราคาเริ่มประมูล หรือเกณฑ์ให้เอกชนยื่นเสนอรับผลตอบแทนไม่เกินกรอบวงเงิน 47,881 ล้านบาท โดยผู้ที่เสนอขอรับผลตอบแทนจากรัฐต่ำที่สุด จะได้รับคัดเลือก โดยรัฐแบ่งจ่ายคืนค่าก่อสร้าง ไม่น้อยกว่า 15 ปี และจ่ายค่าตอบแทน O&M ระยะเวลา 30 ปี ดังนั้น ในช่วง 15 ปีแรก กรมทางหลวงจะมีภาระจ่ายคืนค่าก่อสร้างและค่าตอบแทน O&M

ด้าน บมจ.ทางยกระดับดอนเมือง (DMT) ในฐานะผู้บริหารทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ ก็ให้ความสนใจที่จะเข้าร่วมประมูล  โดย นายศักดิ์ดา พรรณไวย DMT ย้ำว่า บริษัทฯ สนใจร่วมประมูลโครงการนี้ เนื่องจากเป็นเส้นทางต่อเนื่องกับทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ ซึ่งจะมีผลดีในด้านของการบริหารจัดการที่ต่อเนื่องไร้รอยต่อ อย่างไรก็ตาม บริษัทถือเป็นผู้ให้บริการ ดังนั้นจะต้องหาพาร์ทเนอร์เข้ามาร่วมงานในด้านการก่อสร้างและอื่น ๆ ซึ่งคงต้องรอดูรายละเอียดเงื่อนไขและการกำหนดคุณสมบัติของผู้ยื่นประมูลที่จะประกาศออกมาด้วย

DMT