Talk of The Town
                                
                                
                                
                                    
                                        
                                    
                                
                            
                        สุดอึ้ง! ทริสฯ หั่นเรทติ้ง TTCL 5 ครั้งในรอบ 3 เดือน จาก BB+ ดิ่งสู่ D หลังขาดทุนหนัก-จ่ายหนี้ไม่ไหว
                                            
                                            31 ตุลาคม 2568
                                        
                                    
                                    
                                    น่าจับตา สำหรับประเด็นบริษัท ทีทีซีแอล จำกัด (มหาชน) หรือ TTCL หลัง ทริสเรทติ้ง หั่นอันดับเครดิตไม่หยุด ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ลดไปกว่า 5 ครั้ง จาก BB+ ดิ่งสู่ D ล่าสุดให้เหตุผลว่า บริษัทไม่สามารถชำระคืนหุ้นกู้ แถมสภาพคล่องและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่จำกัด

 
รายงานจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ระบุว่า ทริสเรทติ้งลดอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ทีทีซีแอล จำกัด (มหาชน) หรือ TTCL เป็นระดับ “D” จากเดิมที่ระดับ “C” พร้อมทั้งยกเลิก “เครดิตพินิจ” แนวโน้ม “Negative” หรือ “ลบ” โดยการปรับลดอันดับเครดิตดังกล่าวสืบเนื่องมาจากการที่บริษัทไม่สามารถชำระคืนหุ้นกู้มูลค่า 389.9 ล้านบาท (TTCL25OA) ที่ครบกำหนดในวันที่ 27 ตุลาคม 2568 นี้ได้
 
ทั้งนี้ ด้วยสภาพคล่องและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่จำกัด การปฏิบัติตามภาระผูกพันที่ยังคงค้างอยู่จึงเป็นความท้าทายอย่างยิ่งของบริษัท โดยทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะไม่สามารถชำระหนี้ส่วนใหญ่ได้เมื่อถึงกำหนดชำระ ในการนี้ ทริสเรทติ้งจะประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทอีกครั้ง เมื่อบริษัทสามารถปรับโครงสร้างหนี้ที่คงค้างอยู่ได้สำเร็จหรือสามารถกลับมาชำระหนี้ได้
 
หากย้อนกับไปเมื่อวันที่ 24 ต.ค.2568 ทริสเรทติ้งลดอันดับเครดิตองค์กร TTCL เป็นระดับ “C” จากเดิมที่ระดับ “B+” พร้อมทั้งยังคง “เครดิตพินิจ” แนวโน้ม “Negative” หรือ “ลบ” สำหรับอันดับเครดิตองค์กรดังกล่าวด้วย
 
การปรับลดอันดับเครดิตในครั้งนี้สะท้อนถึงความเป็นไปได้ที่บริษัทจะผิดนัดชำระหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากที่บริษัทไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับผู้ถือหุ้นกู้เกี่ยวกับข้อเสนอขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนของหุ้นกู้ทั้ง 5 ชุด ด้วยเหตุดังกล่าวยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้บริษัทต้องรับมือกับการชำระหนี้หุ้นกู้ที่กำลังจะครบกำหนดในเร็ว ๆ นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงกระแสเงินสดที่อ่อนแอและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากตลาดสินเชื่อที่จำกัด เนื่องจากฐานะทางการเงินที่เปราะบางของบริษัท
 
แนวโน้มเครดิตพินิจเชิงลบบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่อันดับเครดิตจะถูกปรับลดลงอีก เนื่องจากบริษัทอาจไม่สามารถชำระคืนหุ้นกู้จำนวน 389.9 ล้านบาท ที่จะครบกำหนดในวันที่ 27 ตุลาคม 2568 ได้ ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งจะปรับลดอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทลงเป็น “D” หากบริษัทไม่สามารถชำระคืนหุ้นกู้นี้ได้ ในทางกลับกัน ทริสเรทติ้งจะพิจารณายกเลิก “เครดิตพินิจ” หากบริษัทสามารถปรับโครงสร้างเงื่อนไขการชำระหนี้ได้สำเร็จ หรือมีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับแหล่งเงินทุนซึ่งสามารถนำมาชำระหนี้ได้
 
ส่วนเมื่อวันที่ 8 ต.ค.2568 ทริสเรทติ้งลดอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัทมาอยู่ที่ระดับ “B+” จากเดิมที่ระดับ “BB-” พร้อมทั้งประกาศ “เครดิตพินิจ” แนวโน้ม “Negative” หรือ “ลบ” สำหรับอันดับเครดิตองค์กรด้วย โดยการดำเนินการดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่บริษัทได้เสนอขอขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนของหุ้นกู้จำนวน 5 ชุด (TTCL25OA TTCL263A TTCL269A TTCL277A และ TTCL281A) ออกไปอีก 6 ปีพร้อมด้วยทางเลือกที่ให้บริษัทสามารถขยายเวลาเพิ่มเติมได้อีกไม่เกิน 2 ครั้งและแต่ละครั้งสามารถขยายได้ไม่เกิน 1 ปี พร้อมกันนี้ บริษัทยังได้ขอปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้แต่ละชุดอีก 0.50% ต่อปี รวมทั้งยังได้ขอผ่อนผันข้อกำหนดทางการเงินของหุ้นกู้ ตลอดจนขอผ่อนผันการปฏิบัติหน้าที่บางประการภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขทางการเงินดังกล่าว อีกทั้งยังขอแก้ไขเงื่อนไขการชำระคืนเงินต้นของหุ้นกู้ด้วย
 
อีกทั้งวันที่ 3 ก.ย.2568 ทริสเรทติ้งลดอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ทีทีซีแอล จำกัด (มหาชน) ลงมาอยู่ที่ “BB-” จาก “BB+” และคงแนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ”
 
การปรับลดอันดับเครดิตสะท้อนถึงผลขาดทุนจำนวนมากของบริษัทจำนวน 1.8 พันล้านบาทในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ซึ่งเกิดจากผลขาดทุนจากการดำเนินงานในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างจำนวน 352 ล้านบาท และการตั้งผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss -- ECL) อีกจำนวน 1.33 พันล้านบาท ซึ่งเกี่ยวข้องกับโครงการที่แล้วเสร็จและยกเลิกไปหลายโครงการ ขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” บ่งชี้ถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานที่จะถดถอยลงอีก เนื่องจากความล่าช้าในการได้งานโครงการใหม่ หรือผลขาดทุนเพิ่มเติมอันเนื่องมาจากต้นทุนที่บานปลายหรือการเพิ่มขึ้นของค่าเผื่อ ECL
 
และวันที่ 11 ก.ค.2568 ทริสเรทติ้งลดอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ทีทีซีแอล จำกัด (มหาชน) เป็น “BB+” จาก “BBB-” และปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น “Negative” หรือ “ลบ” จาก “Stable” หรือ “คงที่” การลดอันดับเครดิตในครั้งนี้สะท้อนถึงผลการดำเนินงานของบริษัทที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ อันเป็นผลมาจากต้นทุนที่สูงเกินกว่าประมาณการอย่างมีนัยสำคัญในโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการ และมูลค่างานในมือที่รอส่งมอบ (Backlog) ที่ลดลง
 
แนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” สะท้อนถึงความเป็นไปได้ที่ผลการดำเนินงานของบริษัทอาจอ่อนแอลงอีก เนื่องจากบริษัทต้องเผชิญความล่าช้าในการได้รับงานก่อสร้างโครงการใหม่ อันเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และความตึงเครียดทางการค้าที่ยังคงดำเนินอยู่ นอกจากนี้ บริษัทยังเผชิญความเสี่ยงด้านต้นทุนที่เกินงบประมาณ จากกรณีการยกเลิกสัญญาก่อสร้างโครงการพัฒนาพลังงานเชื้อเพลิงยั่งยืนของ บริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด (BSGF) เนื่องจากบริษัทอยู่ระหว่างข้อพิพาทกับเจ้าของโครงการเกี่ยวกับต้นทุนเพิ่มเติมที่เกิดขึ้น
 
                                
                                
                                
                            
รายงานจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ระบุว่า ทริสเรทติ้งลดอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ทีทีซีแอล จำกัด (มหาชน) หรือ TTCL เป็นระดับ “D” จากเดิมที่ระดับ “C” พร้อมทั้งยกเลิก “เครดิตพินิจ” แนวโน้ม “Negative” หรือ “ลบ” โดยการปรับลดอันดับเครดิตดังกล่าวสืบเนื่องมาจากการที่บริษัทไม่สามารถชำระคืนหุ้นกู้มูลค่า 389.9 ล้านบาท (TTCL25OA) ที่ครบกำหนดในวันที่ 27 ตุลาคม 2568 นี้ได้
ทั้งนี้ ด้วยสภาพคล่องและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่จำกัด การปฏิบัติตามภาระผูกพันที่ยังคงค้างอยู่จึงเป็นความท้าทายอย่างยิ่งของบริษัท โดยทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะไม่สามารถชำระหนี้ส่วนใหญ่ได้เมื่อถึงกำหนดชำระ ในการนี้ ทริสเรทติ้งจะประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทอีกครั้ง เมื่อบริษัทสามารถปรับโครงสร้างหนี้ที่คงค้างอยู่ได้สำเร็จหรือสามารถกลับมาชำระหนี้ได้
หากย้อนกับไปเมื่อวันที่ 24 ต.ค.2568 ทริสเรทติ้งลดอันดับเครดิตองค์กร TTCL เป็นระดับ “C” จากเดิมที่ระดับ “B+” พร้อมทั้งยังคง “เครดิตพินิจ” แนวโน้ม “Negative” หรือ “ลบ” สำหรับอันดับเครดิตองค์กรดังกล่าวด้วย
การปรับลดอันดับเครดิตในครั้งนี้สะท้อนถึงความเป็นไปได้ที่บริษัทจะผิดนัดชำระหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากที่บริษัทไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับผู้ถือหุ้นกู้เกี่ยวกับข้อเสนอขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนของหุ้นกู้ทั้ง 5 ชุด ด้วยเหตุดังกล่าวยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้บริษัทต้องรับมือกับการชำระหนี้หุ้นกู้ที่กำลังจะครบกำหนดในเร็ว ๆ นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงกระแสเงินสดที่อ่อนแอและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากตลาดสินเชื่อที่จำกัด เนื่องจากฐานะทางการเงินที่เปราะบางของบริษัท
แนวโน้มเครดิตพินิจเชิงลบบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่อันดับเครดิตจะถูกปรับลดลงอีก เนื่องจากบริษัทอาจไม่สามารถชำระคืนหุ้นกู้จำนวน 389.9 ล้านบาท ที่จะครบกำหนดในวันที่ 27 ตุลาคม 2568 ได้ ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งจะปรับลดอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทลงเป็น “D” หากบริษัทไม่สามารถชำระคืนหุ้นกู้นี้ได้ ในทางกลับกัน ทริสเรทติ้งจะพิจารณายกเลิก “เครดิตพินิจ” หากบริษัทสามารถปรับโครงสร้างเงื่อนไขการชำระหนี้ได้สำเร็จ หรือมีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับแหล่งเงินทุนซึ่งสามารถนำมาชำระหนี้ได้
ส่วนเมื่อวันที่ 8 ต.ค.2568 ทริสเรทติ้งลดอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัทมาอยู่ที่ระดับ “B+” จากเดิมที่ระดับ “BB-” พร้อมทั้งประกาศ “เครดิตพินิจ” แนวโน้ม “Negative” หรือ “ลบ” สำหรับอันดับเครดิตองค์กรด้วย โดยการดำเนินการดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่บริษัทได้เสนอขอขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนของหุ้นกู้จำนวน 5 ชุด (TTCL25OA TTCL263A TTCL269A TTCL277A และ TTCL281A) ออกไปอีก 6 ปีพร้อมด้วยทางเลือกที่ให้บริษัทสามารถขยายเวลาเพิ่มเติมได้อีกไม่เกิน 2 ครั้งและแต่ละครั้งสามารถขยายได้ไม่เกิน 1 ปี พร้อมกันนี้ บริษัทยังได้ขอปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้แต่ละชุดอีก 0.50% ต่อปี รวมทั้งยังได้ขอผ่อนผันข้อกำหนดทางการเงินของหุ้นกู้ ตลอดจนขอผ่อนผันการปฏิบัติหน้าที่บางประการภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขทางการเงินดังกล่าว อีกทั้งยังขอแก้ไขเงื่อนไขการชำระคืนเงินต้นของหุ้นกู้ด้วย
อีกทั้งวันที่ 3 ก.ย.2568 ทริสเรทติ้งลดอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ทีทีซีแอล จำกัด (มหาชน) ลงมาอยู่ที่ “BB-” จาก “BB+” และคงแนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ”
การปรับลดอันดับเครดิตสะท้อนถึงผลขาดทุนจำนวนมากของบริษัทจำนวน 1.8 พันล้านบาทในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ซึ่งเกิดจากผลขาดทุนจากการดำเนินงานในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างจำนวน 352 ล้านบาท และการตั้งผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss -- ECL) อีกจำนวน 1.33 พันล้านบาท ซึ่งเกี่ยวข้องกับโครงการที่แล้วเสร็จและยกเลิกไปหลายโครงการ ขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” บ่งชี้ถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานที่จะถดถอยลงอีก เนื่องจากความล่าช้าในการได้งานโครงการใหม่ หรือผลขาดทุนเพิ่มเติมอันเนื่องมาจากต้นทุนที่บานปลายหรือการเพิ่มขึ้นของค่าเผื่อ ECL
และวันที่ 11 ก.ค.2568 ทริสเรทติ้งลดอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ทีทีซีแอล จำกัด (มหาชน) เป็น “BB+” จาก “BBB-” และปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น “Negative” หรือ “ลบ” จาก “Stable” หรือ “คงที่” การลดอันดับเครดิตในครั้งนี้สะท้อนถึงผลการดำเนินงานของบริษัทที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ อันเป็นผลมาจากต้นทุนที่สูงเกินกว่าประมาณการอย่างมีนัยสำคัญในโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการ และมูลค่างานในมือที่รอส่งมอบ (Backlog) ที่ลดลง
แนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” สะท้อนถึงความเป็นไปได้ที่ผลการดำเนินงานของบริษัทอาจอ่อนแอลงอีก เนื่องจากบริษัทต้องเผชิญความล่าช้าในการได้รับงานก่อสร้างโครงการใหม่ อันเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และความตึงเครียดทางการค้าที่ยังคงดำเนินอยู่ นอกจากนี้ บริษัทยังเผชิญความเสี่ยงด้านต้นทุนที่เกินงบประมาณ จากกรณีการยกเลิกสัญญาก่อสร้างโครงการพัฒนาพลังงานเชื้อเพลิงยั่งยืนของ บริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด (BSGF) เนื่องจากบริษัทอยู่ระหว่างข้อพิพาทกับเจ้าของโครงการเกี่ยวกับต้นทุนเพิ่มเติมที่เกิดขึ้น
ยอดนิยม
%20copy_0.jpg) 
                                ตลาดหลักทรัพย์ฯ จับ DELTA ต่ออายุติด “แคชบาลานซ์” เพิ่ม รอบนี้โดนถึงวันที่ 20 พ.ย.68
_0.jpg) 
                                โบรกฯหวั่น SET รับแรงกดดัน เหตุ DELTA ถูกขังแคชบาลานซ์เพิ่ม ผวา! อาจทำให้ราคาหุ้นผันผวน
_0.jpg) 
                                RATCH หยุดจ่ายไฟโรงไฟฟ้า 2 หน่วย ขนาดกำลังผลิต 1,470 MW หลังหมดสัญญาซื้อขายกับ กฟผ.
%20copy_0.jpg) 
                                BANPU “ปลดล็อกมูลค่า” โบรกฯ ชี้หุ้นอาจทะยาน 6.14 บาท แตะเบรก! BPP ราคาตอบรับข่าวดีแล้ว!
.jpg) 
                                 
                             
                             
                             
                             
                            