SCC คงเป้า EBITDA ปีนี้ 5.4 หมื่นลบ. คาดยอดขายใกล้เคียงปีก่อน แม้ในช่วง 9 เดือน จะถูกกดดันหนัก
SCC คาดยอดขายนี้ใกล้เคียงปีก่อน 5.11 แสนล้านบาท แม้ 9 เดือนแรกจะลดลง 3% คงเป้า EBITDA ปีนี้ที่ 5.4 หมื่นล้านบาท เร่งเดิน 4 กลยุทธ์เสริมแกร่งผลหารดำเนินงานและ EBITDA

นาย ธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC เปิดเผยว่า ยอดขายในปี 2568 ให้ใกล้เคียงปีก่อนที่ 5.11 แสนล้านบาท แม้ช่วง 9 เดือนแรกปี 2568 ของบริษัท จะมีปริมาณการขายที่เติบโตขึ้น เเต่กลับกดดันส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่มีสัดส่วนหรือเป็นพอร์ตหลักของบริษัท ขณะที่เป้าหมาย EBITDA ในปีนี้คาดว่าจะทำได้ที่ 5.4 หมื่นล้านบาท ตามที่วางไว้
โดยแม้เศรษฐกิจโลกยังเปราะบางและคาดการณ์ยาก เอสซีจีเชื่อมั่นว่ากลยุทธ์การปรับตัวอย่างทันท่วงทีที่ผ่านมา คือ “ภูมิคุ้มกันที่ถูกทาง” เห็นได้ผลการดำเนินงานและ EBITDA ที่แข็งแกร่ง พร้อมเดินหน้า 4 กลยุทธ์หลัก เสริมแกร่งธุรกิจ รับมือเศรษฐกิจโลกยืดเยื้อ ดังนี้
กลยุทธ์ที่ 1 รักษาวินัยทางการเงินต่อเนื่อง บริหารกระแสเงินสดที่มั่นคง ใช้เงินทุนหมุนเวียนอย่างระมัดระวัง เดินหน้าปรับโครงสร้างการดำเนินงานธุรกิจ ลดต้นทุนด้วย AI & Robotics เช่น เอสซีจี เดคคอร์ นำเทคโนโลยีหุ่นยนต์และ AI เข้ามาช่วยตรวจคุณภาพผลิตภัณฑ์ ควบคุมกระบวนการผลิต และบริหารคลังสินค้า ลดต้นทุนได้ถึงกว่า 20% ต่อปี เอสซีจี สมาร์ทลีฟวิง ใช้ AI และระบบอัตโนมัติจัดการวัตถุดิบ
กลยุทธ์ที่ 2 รวมศูนย์การผลิตเพื่อลดความซ้ำซ้อน เน้นเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารสินทรัพย์ในธุรกิจของเอสซีจีที่ดำเนินงานในอาเซียน บริหารต้นทุนการผลิตและส่งออก เช่น เอสซีจี สมาร์ท ลีฟวิง ควบรวบไลน์ผลิตกระเบื้องหลังคาคอนกรีตที่จังหวัดลำพูน ลดต้นทุนได้ 10 ล้านบาท/ปี
กลยุทธ์ที่ 3 รุกตลาดเวียดนาม ฐานการผลิตใหม่เพื่อส่งออกตลาดโลกเวียดนามเติบโตโดดเด่น GDP ขยายตัวกว่า 7% จากมาตรการรัฐและการลงทุนต่อเนื่อง เอื้อต่อธุรกิจอสังหาฯ–ก่อสร้าง–บริโภค และมีต้นทุนการผลิตแข่งขันได้ทั้งพลังงาน แรงงาน และโลจิสติกส์ เอสซีจีจึงเร่งขยายฐานในเวียดนาม โดยเพิ่มกำลังการผลิตปูนคาร์บอนต่ำ 8,000 ตันต่อวัน เพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปยังอเมริกา ออสเตรเลีย และยุโรป พร้อมขยายการผลิตและส่งออกเซรามิกจากเวียดนามสู่ตลาดโลก
ขณะที่โรงงานลองเซิน ปิโตรเคมิคอลส์ ประเทศเวียดนาม (LSP) ปรับแผนการผลิตเพิ่มสัดส่วนการใช้วัตถุดิบก๊าซโพรเพน ซึ่งมีความสามารถในการแข่งขันในช่วงที่สภาวะราคาวัตถุดิบผันผวน ส่วนโครงการเพิ่มวัตถุดิบก๊าซอีเทนที่โรงงาน LSP ประเทศเวียดนาม (โครงการ LSPE) ยังคงเดินหน้าต่อเนื่องตามแผน คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จ ปลายปี 2570 ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในระยะยาว
กลยุทธ์ที่ 4 ขยายพอร์ตสินค้า บริการ ราคาคุ้มค่า Smart Value “คุณภาพดี–ราคาคุ้มค่า” ทั้งกลุ่มสินค้างานโครงสร้างและวัสดุตกแต่ง นอกจากนี้ยังมีงานบริการปรับปรุงบ้าน (Home Improvement) จากคิวช่าง อาทิ บริการติดตั้งพื้นไม้ SPC บริการทาสีภายนอก เป็นต้น คาดว่าสินค้ากลุ่มนี้จะได้รับความนิยมสูงในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวต่อเนื่อง รวมไปถึงบริษัทเร่งเพิ่มกำลังผลิตสินค้ากรีนและสินค้ามูลค่าเพิ่มสูง (High Value Added Products-HVA)
ยอดนิยม
KTB จ่ายปันผล 0.43 บาท หลังผลการดำเนินงานแกร่ง ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 11 พ.ย. นี้
BANPU ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ควบรวม BPP ตั้งเป็นบริษัทใหม่ คาดธุรกรรมเสร็จในไตรมาส 3/69
AOT เจรจา “คิงเพาเวอร์” แก้สัญญาดิวตึ้ฟรีแทนการยกเลิก โบรกฯ มองบวกถึงแนวทางที่ชัดขึ้น
วันนี้รู้กัน! ชี้ชะตาหุ้น DELTA ตลท.ต่ออายุ “แคชบาลานซ์” หรือไม่?