รายงานพิเศษ : DTCENT ปั้นศูนย์ฝึกอบรมความปลอดภัยบนถนน พัฒนาทักษะหนุนอุตสาหกรรมขนส่ง ดันรายได้เติบโตอย่างมั่นคง

บมจ.ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ (DTCENT) เปิดศูนย์ฝึกอบรมด้านความปลอดภัยบนถนนครบวงจร ยกระดับมาตรฐานการขับขี่ และการบริหารจัดการในอุตสาหกรรมขนส่ง  มีลูกค้าตอบรับแล้วหลายราย มั่นใจสร้างแหล่งรายได้เติบโตอย่างยั่งยืน

ข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบก ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 ระบุว่า มีผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งรวมกว่า 406,281 ราย ครอบคลุมทั้งรถโดยสารและรถบรรทุก ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ และมีผู้ที่ยังไม่ผ่านการอบรมอีกกว่า 350,000 ราย สะท้อนถึงช่องว่างขนาดใหญ่ในการพัฒนาศักยภาพบุคลากร โดยเฉพาะด้านการบริหารจัดการความปลอดภัยในการขนส่ง   

บริษัท ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) (DTCENT) ผู้นำในการให้บริการระบบ GPS Tracking อันดับ 1 ในประเทศไทย (อ้างอิงจากข้อมูลกรมการขนส่งทางบกในเดือนมิถุนายน 2568) เชื่อมั่นว่า หลักสูตรบุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่งทางถนน หรือ Transport Safety Management (TSM) เป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับบุคลากรให้เข้าใจการบริหารงานอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การจัดการต้นทุน การวางแผนเส้นทาง ไปจนถึงการบริหารความเสี่ยง ล้วนเป็นทักษะที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ ภายใต้แกนนำของ “ทศพล คุณะเพิ่มศิริ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ได้เล็งเห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจนี้ ท่ามกลางความต้องการที่เพิ่มขึ้น ในภาคการขนส่งและโลจิสติกส์ 

เปิดศูนย์ฝึกอบรมด้านความปลอดภัยบนถนนครบวงจร

DTCENT จึงต่อยอดธุรกิจด้วยการเปิดศูนย์ฝึกอบรมด้านความปลอดภัยบนท้องถนน เพื่อยกระดับมาตรฐานการขับขี่ และการบริหารจัดการในอุตสาหกรรมขนส่ง โดยเปิดให้บริการฝึกอบรม 3 หลักสูตร ประกอบด้วย 1.หลักสูตรการขับขี่เชิงป้องกันอุบัติเหตุ การขับขี่เชิงป้องกันเป็นแนวทางที่ช่วยให้การเดินทางบนถนนปลอดภัยยิ่งขึ้น Defensive Driving Course (DDC) 2.หลักสูตรบุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่งทางถนน Transport Safety Management (TSM) และ 3.ประเมินความพร้อมทางร่างกายของผู้ขับขี่ Psychophysical Driving Test โดยได้รับความสนใจจากลูกค้า องค์กร หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้าใช้บริการอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความตระหนักในความปลอดภัยและความเชื่อมั่นในมาตรฐานของ DTCENT

“การเปิดศูนย์ฝึกอบรมด้านความปลอดภัยบนท้องถนน เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ และพัฒนาทักษะให้กับพนักงานขับรถ ด้วย 3 หลักสูตร หลังจบหลักสูตรจะได้ Certificate รับรองมาตรฐานอีกด้วย เพื่อสนับสนุนความปลอดภัยบนท้องถนนและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมขนส่งของประเทศไทยให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน โดยมีหลายบริษัทที่สนใจเข้ารับการฝึกอบรมแล้ว และสามารถรับรู้รายได้ทันที” ทศพล คุณะเพิ่มศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าว

ปลื้ม! ยอดขาย GPS Tracking DTRACK Series โตเด่น

เมื่อเข้าสู่ช่วง High Season ที่ภาคโลจิสติกส์และการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักอีกครั้ง ส่งผลให้ยอดขาย GPS Tracking DTRACK Series ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง และมีการเร่งสั่งผลิตล็อตใหม่ เพื่อให้ทันต่อความต้องการของลูกค้า หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผลักดันยอดขาย คือ การพัฒนาระบบซอฟต์แวร์เป็นของตนเอง สามารถติดตามตำแหน่งแบบเรียลไทม์ได้แม่นยำ พร้อมระบบแจ้งเตือนเหตุการณ์สำคัญ และฟีเจอร์บันทึกข้อมูลการเดินทางอย่างละเอียด ช่วยให้ผู้ใช้งานบริหารจัดการฟลีทรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นผ่านการรับรองมาตรฐานจากกรมการขนส่งทางบก ยิ่งตอกย้ำ ถึงความน่าเชื่อถือและคุณภาพที่ตอบโจทย์การใช้งานในภาคธุรกิจอย่างแท้จริง

ศูนย์ DTC SHOP เปิดให้บริการแล้ว 15 สาขา

ปัจจุบันศูนย์ DTC SHOP พร้อมให้บริการแล้ว 15 แห่ง ประกอบด้วย สาขาถนนบางนา-ตราด กม.6, สาขาเชียงใหม่, สาขาอุดรธานี, สาขาขอนแก่น, สาขาอยุธยา, สาขานครสวรรค์, สาขาพระราม 2, สาขาแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี, สาขามาบข่า จังหวัดระยอง, สาขาท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี, สาขานครราชสีมา, สาขาภูเก็ต, สาขาอุบลราชธานี, สาขาจังหวัดสงขลา และสาขาจังหวัดนนทบุรี เพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็ว ให้กับลูกค้าที่ต้องการใช้บริการ และได้รับการตอบรับที่ดี 

ความร่วมมือกับ 2 พันธมิตรทางธุรกิจ

ในส่วนของความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ 2 ราย ประกอบด้วย บริษัท บุญรอด ซัพพลายเชน จำกัด (BRS) ปัจจุบันมีการรับงานโครงการร่วมกันอย่างต่อเนื่อง พร้อมขยายการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการในรูปแบบใหม่ ในด้าน Supply Chain Solutions ที่มุ่งเน้นการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานให้แก่ ลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการโลจิสติกส์

ขณะที่ บริษัท ยาซากิ เอ็นเนอร์จี ซิสเท็ม คอร์ปอเรชั่น (YES) ได้ร่วมมือในการศึกษาความเป็นไปได้ทางการตลาดสำหรับอุปกรณ์ GPS Tracking และ Telematics ในรูปแบบ OEM เพื่อขยายสู่กลุ่มประเทศในอาเซียน และ บริษัทฯ ได้รับใบรับรองมาตรฐาน Certificate  IATF 16949 ซึ่งเป็นระบบบริหารจัดการคุณภาพการจัดการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับผู้ผลิตยานยนต์ในระดับสากล ส่งผลให้สามารถเริ่มงาน OEM สำหรับอุปกรณ์ GPS Tracking และ Telematics ได้อย่างเต็มรูปแบบทั้งในประเทศและต่างประเทศ

พัฒนาระบบซอฟต์แวร์

ขณะเดียวกัน ระบบ BAMS (Business Activity Management System) ได้เปิดให้บริการบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนเรียบร้อยแล้ว มีจำนวนลูกค้าที่ใช้บริการ 42 บริษัท มีการออกแบบพัฒนาสินค้าฮาร์ดแวร์ ระบบซอฟต์แวร์ ตลอดจนให้บริการซ่อมบำรุงหลังการขาย ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนการเปิดศูนย์บริหารจัดการและบริการข้อมูลยานพาหนะ Vehicle Monitoring and Support Center ได้เปิดให้บริการงานมอนิเตอร์ให้กับลูกค้าแล้ว

ครึ่งปีหลังนำ AI มาพัฒนาผลิตภัณฑ์-โซลูชันใหม่ๆ

แผนธุรกิจครึ่งปีหลังของปีนี้ DTCENT เดินหน้านำ AI มายกระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และงานบริการโซลูชันต่างๆ พร้อมเตรียมเปิดตัวโปรดักส์ใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะในกลุ่มโลจิสติกส์ ขนส่ง และยานยนต์ไฟฟ้า ที่กำลังให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยในการขับขี่มากขึ้น ประกอบกับประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน กำลังเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและ Smart Logistics ซึ่งเป็นโอกาสให้กับธุรกิจของบริษัทฯ และด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี ในธุรกิจ GPS Tracking และ ขยายไปสู่ IoT Solution พร้อมศักยภาพของทีมงาน จึงมั่นใจว่า รายได้ในปี 2568 จะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต

อนึ่ง ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2568 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568) มีรายได้รวม 177.74 ล้านบาท และ มีกำไรสุทธิ 25.25 ล้านบาท ส่วนผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2568 มีรายได้รวม 355.04 ล้านบาท และ มีกำไรสุทธิ 51.55 ล้านบาท