Talk of The Town

KTB แจงงบไตรมาส 3/68 ฟันกำไร 1.46 หมื่นลบ. โต 25% หนุน 9เดือน โกยกำไร 3.74 หมื่นลบ.


22 ตุลาคม 2568

KTB แจงงบไตรมาส 3/68 มีกำไร 14,620 ล้านบาท โต 25% หลังรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นและบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น ดันกำไรงวด 9 เดือนปี 68 แตะ 3.74 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 6%

KTB แจงงบไตรมาส_S2T (เว็บ) copy_0.jpg

ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯว่าผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3/68 ธนาคารมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคาร อยู่ที่ 14,620 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากรายได้จากการดำเนินงานขยายตัว 3.4% ได้แรงหนุนจากการเติบโตของธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน และกำไรจากเงินลงทุน จากตราสารหนี้และอัตราแลกเปลี่ยนตามสภาวะตลาดอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงรายได้ค่าธรรมเนียมที่ขยายตัว 3.7% จากธุรกิจ Wealth Management 

ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงตามภาวะดอกเบี้ยและการปรับดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อโดยรวมลดลง 3.9% จากสิ้นปี2567 ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง การชำระคืนของสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อภาครัฐ ในด้านสินเชื่อรายย่อยเติบโตได้ดีกว่าเป้าหมายตามยุทธศาสตร์โดยเฉพาะสินเชื่อที่อยู่อาศัย 

และธนาคารสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพมี Cost to Income Ratio ที่ 37.7% ลดลงจาก 41.8% โดยคาดว่าประมาณการทั้งปี ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายเดิม ธนาคารยังคงรักษาคุณภาพสินทรัพย์ได้ดี NPL Ratio อยู่ที่ 2.88% ลดลงจาก 2.99% จากสิ้นปีที่ผ่านมา จากลูกหนี้รายใหญ่บางรายกลับมาเป็นหนี้ปกติและยังคงรักษา Coverage Ratio ในระดับสูงต่อเนื่องที่ 206.6% เพิ่มขึ้นจาก 188.6% จากสิ้นปีที่ผ่านมา รองรับความไม่แน่นอนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในระยะนี้โดยมีอัตราส่วนผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อ(Credit Cost) ที่ 1.09% ลดลงจาก 1.29% สะท้อนคุณภาพสินทรัพย์

ขณะที่เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/68 ธนาคารและบริษัทย่อยมีรายได้จากการดำเนินงานขยายตัว 5.9% แม้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง โดยได้รับแรงหนุนจากรายได้ธุรกิจตลาดเงินตลาดทุนจากตราสารหนี้และอัตราแลกเปลี่ยนที่ปรับตัวดีตามสภาวะตลาดและรายได้ค่าธรรมเนียมที่เติบโตต่อเนื่องจากบริการด้าน Wealth Management ส่งผลให้กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคารเท่ากับ 14,620 ล้านบาท 

ด้านผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนของปี 2568 เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคารเท่ากับ 37,456 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5% รายได้จากการดำเนินงานขยายตัวเล็กน้อย 0.4% ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานลดลง 4% จากการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและการบริหารสินทรัพย์รอการขายที่กลับสู่ระดับปกติ 

แม้ว่าธนาคารยังคงลงทุนใน เทคโนโลยีและดิจิทัล เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ครอบคลุมลูกค้าทุกลุ่ม รองรับการเติบโตในธนาคาร โดย Cost to Income Ratio ลดลงเป็น 40.1% จาก 41.9% ธนาคารยังคงตั้งสำรองอย่างรอบคอบและระมัดระวังและยังคงรักษา Coverage Rato ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจสะท้อนคุณภาพสินทรัพย์

ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 กันยายน 25668 ธนาคาร (งบเฉพาะธนาคาร) มีเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 19.78% ของสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยง และมีเงินกองทุนทั้งสิ้นที่ 21.78% ของสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยงซึ่งอยู่ในระดับที่แข็งแข็งแกร่งเทียบกับเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

ธนาคารขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน สร้างคุณค่าและโอกาสทางการเงินให้ทุกคนผ่าน 5 ยุทธศาสตร์หลัก ที่มุ่งเพิ่มรายได้ ลดต้นทุนทุน บริหารความเสี่ยงด้านสินเชื่อ เสริมศักยภาพพนักงาน และสร้างสมดุลให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม โดยล่าสุดธนาคารและพันธมิตรได้จัดตั้ง ธนาคารคลิกซ์ จำกัด (มหาชน) เพื่อดำเนินธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Vitual Bank) ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น ขยายการเข้าถึงบริการเงิน(Financial Incusion) ลดความเหลื่อมล้ำทางการเงิน ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว

KTB