TISCO 9 เดือนกำไรดิ่ง กำไรเหลือ 5.01 พันลบ. วูบ 3.5% เหตุตั้งสำรองเพิ่ม-รายได้ดอกเบี้ยหด
TISCO แจงงบ 9 เดือน กำไรวูบ 3.5% เหลือ 5,017 ล้านบาท เหตุตั้งสำรองเพิ่มขึ้นและรายได้ดอกเบี้ยหด ด้านงวดไตรมาส 3/68 มีกำไร 1,730 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% โตตามรายได้ดอกเบี้ย
บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯว่า บริษัทมีกำไรสุทธิงวด 9 ปี 2568 อยู่ที่ 5,017 ล้านบาท ลดลง 3.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน สาเหตุมาจากการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1% ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย
โดยเป็นไปตามแผนการตั้งสำรองกลับสู่ระดับปกติและรองรับความเสี่ยงจากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ยังเปราะบาง และรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง 0.8% จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยรวม 4 ครั้ง และการลดภาระดอกเบี้ยให้แก่ลูกหนี้กลุ่มเปราะบางในโครงการ “คุณสู้ เราช่วย”
ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยขยายตัว 9.4% จากรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจธนาคารพาณิชย์ที่เพิ่มขึ้น 8.8% ตามการฟื้นตัวของธุรกิจนายหน้าประกันภัยและรายได้อื่นที่เกี่ยวกับสินเชื่อ รวมไปถึงรายได้ค่าธรรมเนียมพื้นฐานของธุรกิจจัดการกองทุนเพิ่มขึ้น 7.1% ตามสินทรัพย์ภายใต้การบริหารที่เติบโต อีกทั้ง ผลกำไรจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน (FVTPL) เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า
แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทมีรายได้ค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ชะลอตัวลง ตามมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ที่หดตัว ทั้งนี้ ในภาวะที่เศรษฐกิจยังคงเปราะบาง บริษัทยังคงควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง 2.8%
สำหรับกำไรสุทธิงวดไตรมาส 3/68 ของบริษัทอยู่ที่ 1,730 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยรายได้รวมเติบโต 10.1% จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 1.3% จากต้นทุนเงินทุนที่ปรับลดลง สอดคล้องกับภาวะดอกเบี้ยขาลง รายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้น 16.9% จากการฟื้นตัวของธุรกิจนายหน้าประกันภัย เป็นไปตามปริมาณการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ปรับตัวดีขึ้น
รวมถึงรายได้ที่เกี่ยวกับสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น รายได้ค่าธรรมเนียมพื้นฐานธุรกิจจัดการกองทุนขยายตัว 11.4% จากการออกกองทุนรวมใหม่ที่เพิ่มขึ้นในระหว่างไตรมาส นอกจากนี้ บริษัทมีกำไรจากเงินลงทุนที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน (FVTPL) เพิ่มขึ้นตามมูลค่าพอร์ตเงินลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม รายได้ค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ชะลอตัวลงตามปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ลดลง ในงวดนี้ บริษัทตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.4% ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย เพื่อรองรับความเสี่ยงจากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ยังเปราะบางในขณะที่ยังคงควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง 0.3%
ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/68 กำไรสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้น 5.3% จากรายได้รวมที่เติบโต 10% จากทุกธุรกิจ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 3% จากต้นทุนเงินทุนที่ปรับลดลง สอดคล้องกับภาวะดอกเบี้ยดอกเบี้ยขาลง รายได้ค่าธรรมเนียมกลับมาเติบโต ทั้งธุรกิจธนาคารพาณิชย์โดยมีค่าธรรมเนียมธุรกิจนายหน้าประกันภัยขยายตัวต่อเนื่อง ตามปริมาณการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่เพิ่มขึ้น
อีกทั้ง ภาวะตลาดทุนฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลให้ทั้งรายได้ค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ และรายได้ค่าธรรมเนียมพื้นฐานธุรกิจจัดการกองทุนเติบโตได้ดี นอกจากนี้ บริษัทรับรู้กำไรจากเงินลงทุนที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน (FVTPL) เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 4.4% และค่าใช้จ่ายสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความเสี่ยงจากปัจจัยทางเศรษฐกิจรอบด้าน
ยอดนิยม
_0.jpg)
11 หุ้นใหญ่ได้อานิสงส์ หุ้นแบงก์-ค้าปลีก นำทัพ รับเม็ดเงินไหลออกจาก DELTA
-Recovered_0.jpg)
TISCO แจ้งงบวันนี้ โบรกฯ คาดกำไร 1.62 พันลบ. ลุ้นกำไรจากเงินลงทุนถือหุ้น THAI
%20copy_0.jpg)
BTS เสี่ยงกระทบทางอ้อม เดือนพ.ย. นี้ กทม. เล็งเพิ่มค่าโดยสาร สีเขียวส่วนต่อขยายเป็น 17-45 บาท
%20copy_0.jpg)
โบรกฯ อัพเป้า DELTA เคาะราคาพื้นฐาน 220 บาท ชูหุ้นเดียวในไทยที่โยง AI
_0.jpg)