กลุ่มนักลงทุนสถาบันเป็นอีกหนึ่งกลุ่มนักลงทุนที่มีผลต่อภาพรวมตลาดหุ้นไทย เพราะมักจะมีมูลค่าการซื้อขายในหุ้นรายตัวที่ค่อนข้างสูง จึงไม่แปลกนักที่จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนรายย่อย ซึ่งในปีนี้ก็มี 2 กองทุน ที่ความเคลื่อนไหวเป็นที่น่าจับตามอง
โดยกองทุนแรกอย่าง บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด ที่จากต้นปีถึงปัจจุบันได้ทยอยจำหน่ายหรือขายหุ้นออกถึง 16 รายการ ตั้งแต่เดือน มกราคมในวันที่ 14 ม.ค. 68 ได้มีการจำหน่ายบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA จำนวน 2,317,400 หุ้น ส่งผลให้หลังทำรายการคงเหลือจำนวน 103,121,900 หุ้น หลังจากนั้นในวันที่ 16 ม.ค. 68 ได้จำหน่ายหุ้นบริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC จำนวน 317,900 หุ้น จาก ส่งผลให้คงเหลือการถือครองอยู่ที่ 78,909,000 หุ้น
ตามมาด้วยวันที่ 22 ม.ค.68 ได้จำหน่ายหุ้นบริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SYMC จำนวน 52,000 หุ้น ส่งผลให้คงเหลือจำนวน 21,638,384 หุ้น และวันเดียวกันขายหุ้นบริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ RJHจำนวน 82,100 หุ้น ส่งผลให้คงเหลือจำนวน 29,219,800 หุ้น
ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ วันที่ 28 ก.พ. 68 ได้จำหน่ายหุ้นบริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ BLA ออกมาจำนวน 33,900 หุ้น ทำให้คงเหลือจำนวน 85,357,940 หุ้น
ถัดมาในเดือนมีนาคม 2568 วันที่ 5 มี.ค.68 ได้จำหน่ายหุ้นบริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA ออกมาจำนวน 200,000 หุ้น ส่งผลให้คงเหลือจำนวน 98,502,900 หุ้น และวันที่ 11 มี.ค. 68 เป็นหุ้นของบริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ TPBI จำนวน 73,100 หุ้น ทำให้คงเหลือจำนวน 20,808,500 หุ้น ต่อมาในวันที่ 31 มี.ค. 68 เป็นบริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ได้จำหน่ายออกมาจำนวน 22,232,201 หุ้น ทำให้คงเหลือจำนวน 63,277,599 หุ้น
เดือนเมษายน 2568 วันที่ 10 เม.ย. 68 ได้จำหน่ายหุ้นบริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY ออกมาจำนวน 944,000 หุ้น ส่งผลให้หลังทำธุรกรรมดังกล่าวเหลือจำนวน 35,137,930 หุ้น ตามมาด้วยวันที่ 11 เม.ย. 68 จำหน่ายหุ้นบริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ RJH ออกมาจำนวน 117,700 หุ้น ซึ่งทำให้คงเหลือจำนวน 14,650,100 หุ้น และในวันเดียวกัน จำหน่ายหุ้นบริษัท สีเดลต้า จำกัด (มหาชน) หรือ DPAINT ออกมาจำนวน 249,900 หุ้น ซึ่งหลังทำธุรกรรมคงเหลือ จำนวน 11,465,400 หุ้น
เดือนถัดมาหรือในเดือนพฤษภาคม 2568 วันที่ 9 พ.ค. 68 ได้จำหน่ายหุ้นบริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC เป็นจำนวน 890,300 หุ้น ส่งผลให้คงเหลือในพอร์ต จำนวน 39,158,200 หุ้น
ต่อมาเดือน มิถุนายน 68 ได้มีการจำหน่ายหุ้นบริษัท พี.ซี.เอส. แมชีน กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PCSGH ในวันที่ 4 มิ.ย. 68 ออกมาจำนวน 2,000,000 หุ้น ส่งผลให้คงเหลือจำนวน 75,188,500 หุ้น และในเดือนเดียวกันวันที่ 18 มิ.ย. 68 ได้จำหน่ายหุ้นบริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA ออกมาจำนวน 631,100 หุ้น ทำให้คงเหลือจำนวน 17,348,000 หุ้น
เดือน กรกฎาคม 2568 ในวันที่ 15 ก.ค. 68 ได้มีการจำหน่ายหุ้นบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ออกมาจำนวน 5,000,000 หุ้น ส่งผลให้คงเหลือจำนวน 211,679,987 หุ้น
และสุดท้ายในเดือน สิงหาคม วันที่ 26 ส.ค. 68 ได้จำหน่ายหุ้นบริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC ออกมาจำนวน 250,000 หุ้น ทำให้คงเหลือจำนวน 43,848,500 หุ้น
สำหรับอีกหนึ่งกองทุนที่เราจะพูดถึงกันในครั้งนี้ ก็คือ กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ที่ในวันที่ 4 ก.พ. 68 ได้จำหน่ายหุ้นธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB ออกมาจำนวน 13,000,000 หุ้น ทำให้คงเหลือในพอร์ตจำนวน 9,735,040,915 หุ้น
และในวันที่ 8 ต.ค. 68 ได้จำหน่ายหุ้น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ออกมาจำนวน 3,700,000 หุ้น ซึ่งหลังทำธุรกรรมดังกล่าวส่งผลให้คงเหลือพอร์ตจำนวน 2,831,478,900 หุ้น