ผวา! รัฐแทรกแซง "การบินไทย" ? ทำราคาหุ้นผันผวนหนัก บริษัทยันเดินหน้าตั้งกรรมการใหม่

รายงานความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ในการซื้อขายภาคเช้าวันนี้ยังคงปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยลดลงมากสุดถึง 6.08% มาอยู่ที่ระดับ 10.80 บาท ด้านโบรกฯมองกระแสข่าวรัฐแทรกแซงการบริหาร สร้างความอ่อนไหวต่อนักลงทุน  คาดหากบอร์ดใหม่ออกมาตลาดพอใจ หนุนราคาฟื้นตัวได้

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ให้มุมมองว่าราคาหุ้น THAI วานนี้ ปรับตัวลงราว 11% มีความเป็นได้ว่าจะมาจากการที่สื่อในประเทศ 1 ราย นำเสนอข่าว THAI เรียกประชุมผู้ถือหุ้นรอบสอง ธ.ค. นี้ เพื่อตั้งกรรมการใหม่ หลังมีกรรมการครบวาระ 4 คน (จากปัจจุบัน 11 คน) โดยข่าวรายงานว่ากระทรวงการคลังมีการนำเสนอรายชื่อ Candidate มา 10 คน เพื่อแทนกรรมการที่ครบวาระ

ทั้งนี้ THAI ได้เคยแจ้ง SET เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 68 เรื่องการเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นเสนอระเบียบวาระการประชุมและชื่อบุคคลเพื่อเข้ารับการพิจารณา เลือกตั้งเป็นกรรมการเป็นการล่วงหน้าในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568โดยตามหนังสือดังกล่าว

สำหรับการจัดประชุมครั้งก่อนหน้านั้น เป็นไปตามการประชุมสามัญประจำปี ตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย กล่าวคือ บริษัท ยังไม่ได้มีการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ตามรูปแบบที่กำหนดใน พ.ร.บ. บริษัทมหาชนจำกัดฯ โดยกระบวนการเสนอชื่อสามารถเสนอได้ถึง 19 ต.ค. 68

ดังนั้น กระแสข่าวการเข้ามามีอำนาจบริหารมากขึ้นของภาครัฐซึ่งถือเป็นประเด็นที่อ่อนไหวต่อนักลงทุนในหุ้น THAI ประกอบกับ Free float ในการซื้อขายหุ้นที่แท้จริงไม่สูง และอาจมีผลจาก บล. ต่างชาติ ออกบทวิเคราะห์แนะนำขายเมื่อ 8 ต.ค. เป็นปัจจัยเชิงเซนติเมนต์ที่กดดันราคาหุ้นวานนี้

สำหรับการเสนอชื่อบอร์ด โดยผู้ถือหุ้นใหญ่อย่างกระทรวงการคลัง (สัดส่วน 39%) เป็นไปตามสิทธิการถือหุ้น ซึ่งผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้นเกิน 5% รายอื่นๆ สามารถนำเสนอชื่อได้เช่นกัน (อันดับ 2 BBL ถือ 8.5% และอันดับ 3 สหกรณ์ออมทรัพย์การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จำกัด ถือ 5.4%)

ดังนั้น มองว่าต่อจากนี้ตลาดน่าจะติดตามรายชื่อผู้เสนอชื่อเข้ามาเป็นคณะกรรมการบริษัท โดยประเมินว่าบุคคลที่เป็นผู้นำพา THAI ออกจากแผนฟื้นฟู อย่าง คุณปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ เป็นรายชื่อที่ตลาดให้ความสนใจหรือหากผู้ถือหุ้นรายใหญ่อื่นๆ เสนอชื่อเข้ามาด้วยเช่นกัน กรณีที่ภาพรวมรายชื่อกรรมการตลาดพอใจ ประเมินราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นตัว

พร้อมกับ คงคำแนะนำ Neutral ให้ราคาเหมาะสมที่ 16 บาท โดย P/E ซื้อขายที่ 10 เท่า (สายการบินภูมิภาค Asia Pacific เฉลี่ย 13 เท่า) ถือว่า P/E ไม่แพงแล้ว แต่ประเด็นข้างต้นค่อนข้างอ่อนไหว ภายใต้ Free float ต่ำน่าจะทำให้ราคาหุ้นยังมีความผันผวนสูง อาจพิจารณาหลบความผันผวนไปยังหุ้นท่องเที่ยวอื่น ที่ให้คำแนะนำ Outperform อย่าง CENTEL หรือ MINT

ส่วน THAI ล่าสุด ได้ออกมาชี้แจง โดยนายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ได้แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯว่า สืบเนื่องจากกรณีที่มีข่าวเรื่องการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการของบริษัทซึ่งเผยแพร่ในสื่อสาธารณะในช่วงที่ผ่านมานั้น บริษัทขอเรียนชี้แจงดังนี้

1. เพื่อเป็นการปฏิบัติตามที่กฎหมายและข้อบังคับกำหนดไว้ให้ครบถ้วน บริษัทอยู่ในระหว่างการเตรียมการสำหรับการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ตามรูปแบบที่กำหนดในมาตรา 98 ของพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 (และที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) (พ.ร.บ. บริษัทมหาชนจำกัดฯ)

และตามข้อ 32. ของข้อบังคับของบริษัท ซึ่งจะต้องมีการเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาเลือกตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ออกตามวาระตามที่กำหนดไว้ในข้อ 39. ของข้อบังคับของบริษัทในการนี้ เพื่อให้เป็นไปตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีเกี่ยวกับการดูแลสิทธิของผู้ถือหุ้น

โดยบริษัทได้มีการเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นเสนอระเบียบวาระการประชุมและเสนอชื่อบุคคลที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่บริษัทกำหนด เพื่อเข้ารับการพิจารณาเลือกตั้งเป็นกรรมการของบริษัทในการประชุมผู้ถือหุ้นดังกล่าวเป็นการล่วงหน้า ทั้งนี้ รายละเอียดปรากฏตามสารสนเทศซึ่งบริษัทได้เปิดเผยผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา

2. ปัจจุบันบริษัทอยู่ในระหว่างกระบวนการพิจารณาและสรรหาบุคคลที่มีความเหมาะสมเพื่อเสนอชื่อบุคคลดังกล่าวต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อเข้ารับการพิจารณาเลือกตั้งเป็นกรรมการของบริษัท ซึ่งอาจเป็นกรณีการเลือกตั้งกรรมการซึ่งครบวาระกลับเข้าดำรงตำแหน่งอีกวาระหนึ่งหรืออาจเป็นการเลือกตั้งบุคคลอื่นเพื่อเข้าเป็นกรรมการเข้าใหม่แทนที่กรรมการที่ครบวาระก็ได้

3. โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของบริษัทเป็นสำคัญ บริษัทยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาด้วยว่าควรจะมีระเบียบวาระการประชุมในเรื่องใดเพิ่มเติมเพื่อเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาด้วยหรือไม่

4.เมื่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้เรียกประชุมผู้ถือหุ้นสามัญ ประจำปี 2568 และมีมติอนุมัติระเบียบวาระการประชุมสำหรับการประชุมผู้ถือหุ้นดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว บริษัทจึงจะดำเนินการเปิดเผยวันประชุมผู้ถือหุ้นและระเบียบวาระการประชุมพร้อมกันผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

 ตามที่ข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่าด้วยเรื่องการเปิดเผยสารสนเทศและการปฏิบัติการใด ๆ ของบริษัทจดทะเบียนกำหนด ตลอดจนจัดส่งหนังสือเชิญประชุมให้แก่ผู้ถือหุ้นล่วงหน้าตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดต่อไป

นอกจากนี้ บริษัทขอเรียนชี้แจงว่า ในการดำเนินการเตรียมการสำหรับการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี2568 นั้นบริษัทได้คำนึงถึงการปฏิบัติตามที่กฎหมาย (ทั้งในส่วนพ.ร.บ. บริษัทมหาชนจำกัดฯ และพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (และที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม))

และข้อบังคับของบริษัทฯกำหนดอย่างเคร่งครัด ตลอดจนคำนึงถึงหลักการคุ้มครองสิทธิของผู้ถือหุ้นทุกรายตามเจตนารมณ์ของกฎหมายและเพื่อไม่ให้เกิดการรอนสิทธิของผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ กล่าวคือ เมื่อบริษัทฯ ยังไม่ได้มีการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ตามรูปแบบที่กำหนดในพ.ร.บ. บริษัทมหาชนจำกัดและข้อบังคับของบริษัทเพื่อเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาเลือกตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ออกตามวาระและเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นเป็นผู้มีสิทธิตัดสินใจในการเลือกตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ครบวาระไปแล้ว

 โดยเป็นกรรมการบริษัทจำนวนหนึ่งในสามที่อยู่ในตำแหน่งนานที่สุดและเป็นกรรมการบริษัทฯ ครบสามปีนับแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้งตามข้อ 6.ของกฎบัตรของคณะกรรมการบริษัทฯ ซึ่งพิจารณาได้ว่าเป็นเรื่องที่สำคัญต่อการคุ้มครองสิทธิของผู้ถือหุ้นและพ.ร.บ. บริษัทมหาชนจำกัดฯ

ตลอดจนข้อบังคับของบริษัทฯ จึงได้บัญญัติให้มีการเลือกตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ครบวาระในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นด้วย ดังนั้น บริษัทฯ จึงมีการดำเนินการเตรียมการสำหรับประชุมผู้ถือหุ้นดังกล่าวเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นเป็นผู้มีสิทธิตัดสินใจในการเลือกตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ครบวาระ

โดยเป็นเรื่องที่พึงต้องกระทำในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีของบริษัทตามข้อ 39. ของข้อบังคับของบริษัทประกอบกับมาตรา 71 และประกอบมาตรา 30 (3) ของพ.ร.บ. บริษัทมหาชนจำกัดฯ โดยการดำเนินการดังกล่าวยังสอดคล้องกับการหารือของบริษัทฯ กับทั้งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ในเรื่องดังกล่าวที่ว่า

ในการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เป็นเรื่องการบริหารกิจการซึ่งเป็นดุลยพินิจของบริษัทที่จะดำเนินการ โดยจะต้องพิจารณาเกี่ยวกับกิจการที่พึงกระทำในที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นว่าได้ดำเนินการครบถ้วนตามที่กฎหมายและข้อบังคับของบริษัทกำหนดไว้แล้วหรือไม่

ตลอดจนคณะกรรมการบริษัทจะต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบและความระมัดระวัง รวมทั้งปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย และข้อบังคับของบริษัทฯ ตามมาตรา 89/7 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (และที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) ด้วย