Talk of The Town

หุ้นอิเล็กฯ กำไรพ้นจุดต่ำสุด โบรกฯ ชู HANA-KCE-CCET เป็นทางเลือกลงทุน มูลค่าไม่แพง


22 กันยายน 2568

โบรกฯ คาดกำไรกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว มองกำไรไตรมาส 3/68 ฟื้นตัว หลังลูกค้าเริ่มกลับสั่งออเดอร์ แนะสะสม HANA, KCE, CCET ชี้เป็นทางเลือกลงทุน-มูลค่าหุ้นไม่แพง

หุ้นอิเล็กฯ กำไรพ้นจุดต่ำสุด_S2T (เว็บ)_0.jpg

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้มุมมองว่า คาดกำไรปกติของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาส 3/68 จะฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนหน้า แต่ยังลดลงจากช่วงเดียวกัน จากยอดขายเริ่มฟื้นตัวจากผลของฤดูกาลและความชัดเจนด้านอัตราภาษีทำให้ลูกค้ากลับมาสั่งออเดอร์ 2.ค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง กดดันอัตราการทำกำไรให้ฟื้นตัวได้ช้ากว่าคาด

ทั้งนี้ คาด DELTA จะเป็นผู้เล่นรายเดียวที่มีกำไรเติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน แรงหนุนหลักจากสัดส่วนสินค้า AI ที่กำไรสูงเพิ่มขึ้น ขณะที่ KCE, HANA, และ CCET ได้รับผลกระทบจากฐานสูงในปีก่อน อย่างไรก็ดีผลประกอบการโดยรวมผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว

สำหรับอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่มีความชัดเจน ประเทศไทยถูกเก็บที่ระดับ 19% ใกล้เคียงกับคู่แข่งสำคัญในภูมิภาค แม้อัตราภาษีที่สูงขึ้นจะเป็นแรงกดดันต่อการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมให้ช้าลง เนื่องจากผู้ผลิตผลักภาระไปที่ผู้บริโภคกระทบกำลังซื้อแต่ความชัดเจนด้านภาษีเทียบกับก่อนหน้าที่ไม่มีใครสั่งสินค้าหรือขยายธุรกิจ ท าให้อุตสาหกรรมเริ่มทยอยกลับมาสู่ภาวะปกติใหม่

ส่วนประเด็นสงครามการค้าต่อหุ้นรายตัวในกลุ่ม ประเมินว่า KCE บริษัทยังไม่เห็นผลกระทบในตลาดสหรัฐโดยตรง แต่ตลาดอื่นๆ เริ่มได้รับผลกระทบบ้างจากลูกค้ากังวลด้านราคารถยนต์ที่ปรับเพิ่มขึ้น 

ขณะที่ HANA บริษัทคาดรายได้ที่มีความเสี่ยงอยู่ที่ราว 15% และโรงงานในประเทศจีนที่รับลูกค้าสหรัฐฯ บางส่วนทำให้รายได้ขาดหายไปยังฟื้นตัวจำกัด อย่างไรก็ดีการลดขนาดธุรกิจ PMS ในเกาหลีใต้จะลดผลขาดทุนต่อกลุ่มเป็นแรงส่งหลักต่อการฟื้นตัวของกำไร 

ส่วน CCET รายยอดขายสองเดือนแรกของไตรมาส 3/68 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน ผลกระทบสงครามการค้า แต่ Guidance ว่าโรงงานใหม่จะเริ่มมีออเดอร์เพิ่มขึ้นในเดือนก.ย.2568 เป็นสัญญาณฟื้นตัวที่เริ่มเกิดขึ้น

ทั้งนี้ บนแนวโน้มกำไรปกที่จะเริ่มเข้าสู่รอบการฟื้นตัว แม้ประมาณการของเราสะท้อนปัจจัยส่วนนี้ไปแล้ว แต่ตลาดมีโอกาสปรับเพิ่ม Multiple ของหุ้นขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากไม่ได้มีปัจจัยมหภาคมากระทบเพิ่มเติม เราปรับเพิ่ม Valuation Band ของหุ้นขึ้นให้ใกล้เคียงหรือเท่ากับค่าเฉลี่ยในอดีตจากระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และปรับราคาเหมาะสม ดังนี้

HANA ปรับไปใช้ราคาเหมาะสมที่ 28 บาท คงคำแนะนำ “เก็งกำไร” หุ้นมีอัพไซด์ราว 12.0% และให้เงินปันผลที่ 3.0% ต่อปี เชิงกลยุทธ์ หากหุ้นย่อตัวไปที่ระดับ 22-23 บาท จะเป็นระดับที่น่าสนใจสะสม

KCE ปรับไปใช้ราคาเหมาะสมที่ 27.75 บาทต่อหุ้น ปรับเพิ่มคำแนะนำขึ้นเป็น “เก็งกำไร” หุ้นมีอัพไซด์ราว 11% และให้เงินปันผลที่ 4.8% ต่อปี ปันผลที่สูงเนื่องจากบริษัท Guidance จ่าย Payout สูงกว่ากำไรในช่วงสั้น เงินปันผลที่สูงจะช่วยจำกัดดาวน์ไซด์ของราคาหุ้น เชิงกลยุทธ์ หากหุ้นย่อตัวไปที่ระดับต่ำกว่า 24 บาท จะเป็นระดับที่น่าสนใจสะสม

DELTA ปรับไปใช้ราคาเหมาะสมที่ 109.50 บาท เราไม่ได้ใช้ค่าเฉลี่ยในอดีตเนื่องจากราคาหุ้น DELTA มีความผันผวนและซื้อขายแพงมากใน มุมมองของเรา ค่าเฉลี่ยในอดีตจึงมีโอกาสที่จะให้มูลค่าที่สูงเกินไป คงคำแนะนำ “ขาย” หุ้นไม่มีอัพไซด์เพียงพอให้คาดการณ์เงินปันผลต่ำกว่า 1% เชิงกลยุทธ์ หากสนใจ Liquid Cooling Growth มองว่า DELTA Taiwan ที่นักวิเคราะห์ของเราที่ตลาดไต้หวันแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสม 1,050 ดอลลาร์ไต้หวัน เป็นทางเลือกการลงทุนที่ดีกว่า 

ทั้งนี้ คงน้ำหนักการลงทุนของหุ้นในกลุ่มเท่ากับตลาด หุ้นขึ้นร้อนแรงก่อนหน้าเก็งกำไรการเจรจาสงครามการค้าคืบหน้า ตอนนี้เข้าสู่ช่วงพิสูจน์กำไรว่าฟื้นตัวจริงหรือไม่ หากกำไรฟื้นตัวได้จริง หุ้นจะเริ่มทยอยถูกปรับเพิ่ม Multiple ขึ้นสู่ระดับค่าเฉลี่ยในอดีต ประเมินโอกาสทำได้สูงและมองการย่อตัวเป็นโอกาสสะสมมากกว่า  แนะนำตัวตามกลุ่มอย่าง HANA, KCE, CCET ที่มีมูลค่าหุ้นที่ไม่แพงเท่า DELTA เป็นทางเลือกหลักในการลงทุน