ไทยส่งทองไปหลายประเทศทั่วโลก พบกัมพูชามีมูลค่ามากสุดเป็นอันดับ 2 กว่า 7 หมื่นล้านบาท

ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ค.68) รายงานจากกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่าประเทศไทยมียอดการส่งออกสูงถึง 6,507,300 ล้านบาท เติบโต 6.29% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ มีมูลค่ามากสุดที่ 731,380.29 ล้านบาท ส่วนอันดับ 2 รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 584,521.94 ล้านบาท และอันดับ 3 อัญมณีและเครื่องประดับ 533,804.08 ล้านบาท

แต่ถ้าเข้าไปสำรวจรายละเอียดข้างใน พบว่า ในช่วงเวลาดัง ประเทศไทยมีการส่งออกทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูป มูลค่าสูงถึง 254,073.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 68.47% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

และหากเข้าไปสำรวจรายประเทศ พบว่า ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ไทยส่งออกทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูปไปยังสวิตเซอร์แลนด์มากสุดเป็นอัน 1 ที่ระดับ 108,145.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 137%

ที่น่าสนใจ คือ กัมพูชา ไทยมีมูลค่าส่งออกทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูปสูงเป็นอันดับ 2 ที่  71,312.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น19.13% ส่วนอันดับ 3 ตกเป็นของ สิงคโปร์ มูลค่า  34,826.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.98%

และหากย้อนกลับไปปี 2567 พบว่า ไทยส่งออกทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูปไปยัง กัมพูชา มูลค่ามากสุดเป็นอัน 1 ที่ระดับ 105,982.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 743.66% จากปีก่อนหน้า 

ล่าสุดความขัดแย้งระหว่างทั้ง 2 ประเทศบริเวณชายแดนผ่อนคลายมากขึ้น นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด มองว่า ประเด็นความขัดแย้งระหว่างทั้ง 2 ประเทศบริเวณชายแดน และเข้มข้นที่สุดในรอบกว่า 10 ปี ตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ค.68 ได้มีสัญญาณที่ดีขึ้น หลังผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 1 เดินหน้าคืนสันติภาพ โดยมีรายละเอียด 4 ข้อตกลงระหว่างกัน ดังนี้ 

1.การถอนอาวุธหนักและยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูง ออกจากพื้นที่ชายแดนกลับสู่ที่ตั้งปกติ 2.การเก็บกู้ทุ่นระเบิด 3.การปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ หรือสแกมเมอร์ 4.การบริหารจัดการพื้นที่ชายแดน 

ซึ่งต้องติตตามหลังจากนี้ว่ากัมพูชาจะละเมิดข้อตกลงหรือไม่ สำหรับการประชุม GBC สมัยพิเศษครั้งต่อไป จะกำหนดให้เกิดขึ้นภายใน 30 วันหลังจากนี้ โดยมีฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งคาดว่าทั้ง 2 ประเทศ จะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆได้ โดยสันติวิธี และกลับสู่ภาวะปกติอีกครั้ง 

หากประเด็นดังกล่าวผ่อนคลาย คาดทำให้การค้าระหว่าง 2 ประเทศดูดีขึ้น และหนุน GDP ไทยอย่างมีนัยฯ เนื่องด้วยไทยมีการเกินดุลการค้ากับกัมพูชามูลค่าเป็นอันดับ 2 (เป็นรองเพียงสหรัฐฯ) มีสัดส่วนราว 5.1%

และหากพิจารณา 10 สินค้าที่มีมูลค่าส่งออกสูงสุดจากไทยไปกัมพูชา คือ อัญมณี/เครื่องประดับ น้ำตาลทราย อุปกรณ์รถยนต์ เครื่องจักรกล ผลิตภัณฑ์รักษาผิว เครื่องดื่ม เคมีภัณฑ์ และแผงวงจร เป็นต้น ซึ่งหุ้นที่น่าจะได้รับ SENTIMENT เชิงบวก (แม้อาจมีสัดส่วนรายได้จากกัมพูชาน้อย) อาทิ KSL, SAT, OSP, CBG, DELTA และ KCE