จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : LEO เดินหน้า Green logistics ใช้ EV Truck ให้บริการกับลูกค้า ส่งเสริมการให้บริการ “ลดภาวะโลกร้อน”


01 กันยายน 2568

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) ระบุ ธุรกิจโลจิสติกส์ในปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวเล็กน้อยและยังเผชิญความผันผวนสูง จากผลกระทบของสงครามการค้าและความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น  ส่งผลให้รายได้ของผู้ให้บริการโลจิสติกส์ในปี 2568 คาดว่า จะขยายตัวเล็กน้อยที่ 2.2% จากปีก่อน และมีมูลค่าอยู่ที่ 9.3 แสนล้านบาท

รายงานพิเศษ LEO_S2T (เว็บ) copy_0.jpg

การแข่งขันทางธุรกิจในระยะข้างหน้ามีแนวโน้มรุนแรงต่อเนื่อง โดยรูปแบบการแข่งขันคาดว่าจะเน้นใน 3 ด้านหลัก ได้แก่

1. การขยายบริการโลจิสติกส์ให้ครอบคลุมทั้ง Supply chain การขนส่งทั้งในด้านโหมดขนส่งและลักษณะสินค้าจึงทำให้การบริการเกิดการทับซ้อนกันมากขึ้น และนำมาสู่การแข่งขันด้านราคาที่เข้มข้นขึ้น 

2. การแข่งขันด้านคุณภาพในการขนส่ง จากความไม่แน่นอนที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งจากปัญหาสงครามการค้า รวมถึงสงครามบริเวณตะวันออกกลางและสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อได้สร้างความผันผวนต่อการให้บริการโลจิสติกส์ค่อนข้างสูง จึงทำให้ธุรกิจโลจิสติกส์ต้องแข่งขันในด้านความเชี่ยวชาญในการบริการมากขึ้น

3. การแข่งขันในธุรกิจจัดส่งพัสดุที่รุนแรงต่อเนื่อง ทั้งในด้านราคาและคุณภาพบริการ จากสภาพตลาด Red ocean ที่แข่งขันดุเดือดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และจะยิ่งรุนแรงขึ้นจากที่มีผู้เล่นหน้าใหม่เริ่มให้ความสนใจเข้ามาให้บริการ

SCB EIC  ระบุด้วยว่า  Green logistics กับ LogTech  จะเป็น 2 เทรนด์ธุรกิจโลจิสติกส์ที่ต้องให้ความสำคัญและเร่งพัฒนา โดยเทรนด์ Green logistics กำลังเป็นกระแสที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ ส่งผลให้ในช่วงปีที่ผ่านมาผู้ให้บริการโลจิสติกส์ในไทยเริ่มให้บริการ Green logistics กันมากขึ้นสอดรับกับกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมและแผนการลดคาร์บอนฟุตพรินต์ของภาคธุรกิจ อย่างไรก็ดี จากในปัจจุบันที่สัดส่วนการใช้รถบรรทุกไฟฟ้ายังค่อนข้างน้อย ส่งผลให้ธุรกิจโลจิสติกส์จะต้องเร่งปรับตัว 

ส่วนเทรนด์ Logistics Technology (LogTech) จะเข้ามาช่วยยกระดับการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ให้มีประสิทธิภาพและสะดวกรวดเร็วขึ้น พร้อมทั้งช่วยลดต้นทุนบริหารจัดการ โดยเฉพาะการใช้ AI ในด้านการจัดการ Supply chain, แพลตฟอร์มการรับจัดส่งสินค้า, การติดตามและสร้างความโปร่งใสใน Supply chain รวมถึงคลังสินค้าอัตโนมัติและหุ่นยนต์เคลื่อนย้ายสินค้า ซึ่งหากผู้ประกอบการสามารถปรับตัวตามทั้ง 2 เทรนด์ได้ทัน ทั้งการเริ่มให้บริการ Green logistics ในเส้นทางที่เหมาะกับเทคโนโลยีรถบรรทุกในปัจจุบันหรือในสินค้าที่มีความต้องการขนส่งเฉพาะก่อน กับการพิจารณาทยอยลงทุนใน LogTech จะมีส่วนช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

ซึ่งสถานการณ์การขนส่งที่เกิดขึ้น สอดคล้องกับมุมมองและนโยบายของ บมจ. ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ (LEO ) โดยเฉพาะเทรนด์เกี่ยวกับ Green logistics  “เกตติวิทย์  สิทธิสุนทรวงศ์”  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  ระบุว่าบริษัทฯ มีแผนที่จะเริ่มดำเนินธุรกิจ Green Logistics โดยใช้รถ EV Truck เพื่อให้บริการกับลูกค้าของบริษัทฯ โดยมีเป้าหมายในการส่งเสริมการให้บริการในลักษณะ Sustainable Logistics ที่ลดภาวะโลกร้อน และมีการจัดทำ Carbon Emission Statement ตามหลัก ISO 14067 ให้กับลูกค้าของบริษัทฯ ในไตรมาส 4/2568

ส่วนทิศทางธุรกิจในครึ่งหลังปี 68 บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะมีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นในไตรมาส 3/2568 และไตรมาส 4/2568 ภายหลังจากที่ประเทศสหรัฐอเมริกามีการประกาศอัตราภาษีนำเข้าใหม่ที่ชัดเจน          

“การปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัทฯ ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีความมั่นใจว่าการรับรู้รายได้จากโครงการใหม่ๆเหล่านี้จะช่วยสร้างรายได้ของบริษัทฯให้เติบโตมากขึ้นและลดความผันผวนจากธุรกิจ Freight ได้ โดยบริษัทฯ วางเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจ Non-Freight และ Non-Logistics ให้ได้อย่างน้อย 30-35% ของรายได้รวมภายในปี 2568 นี้”ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LEO กล่าว

LEO