Talk of The Town

DUSIT ทะยานชิลลิ่ง แม้งบผลงานตกต่ำ ขาดทุนสะสมพันล้าน โบรกฯ ชี้ดราม่าแย่งบริษัท สะท้อนสินทรัพย์มีมูลค่า


28 สิงหาคม 2568

รายงานความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT ในการซื้อขายช่วงเช้านี้ได้ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงหรือปรับตัวขึ้นมากสุดถึง 29.47% หรือไปแตะที่ระดับ 12.30 บาท แม้ผลประกอบจะขาดทุนต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2563 พร้อมแบกขาดทุนสะสม 1,074 ล้านบาท โบรกฯ ชี้การแย่งชิงสินทรัพย์ของนักลงทุน ช่วยสะท้อนมูลค่าธุรกิจ

DUSIT ทะยานชิลลิ่ง_S2T (เว็บ) copy_0.jpg

จากการตรวจสอบข้อมูลผลประกอบการของ DUSIT ทางสำนักข่าว Share2Trade พบว่าได้มีขาดทุนตั้งแต่ปี 2563 ที่ 1,011 ล้านบาท และขาดทุนต่อเนื่องเป็นระยะเวลาถึง 5 ปี ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกปี 2568 ก็ยังขาดทุนอยู่ที่ 242.86 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสะสมอยู่ที่ 1,074 ล้านบาท

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองต่อประเด็นดุสิตธานี อาจส่งผลบวกต่อทั้งหุ้น DUSIT และ CPN โดยวานนี้ DUSIT แจ้งจัดประชุมวิสามัญ 26 ก.ย.68 โดยมีวาระการประชุมที่สำคัญได้แก่ การถอดถอนนายชนินทร์ โทณวณิก ออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัท

 ขณะเดียวกันได้เสนอเพิ่มกรรมการใหม่ เพื่อให้กรรมการเพิ่มเป็น 18 คน (จาก 12 คน) และเปลี่ยนแปลงกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม ยังใช้เสียง 2 ใน 3 แต่ในข้อเสนอใหม่ เป็น คุณสินี เธียรประสิทธิ์ กับกรรมการใหม่ 2 ท่าน (ไม่มีคุณชนินทร์ โทณวณิก และคุณศุภจี สุธรรมพันธุ์) 

โดยมีมุมมองดังนี้ 1.มีโอกาสสูงที่คุณชนินทร์ อาจต้องพ้นตำแหน่งกรรมการ เมื่อมองจากคะแนนเสียงของ บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ที่เป็นผู้เสนอให้จัดประชุม มีหุ้นในมือถึง 49.74% 

2.กลุ่ม CPN ปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการพยายามเข้า takeover โดย CPN เคยเข้าถือหุ้น DUSIT สูงถึง 22.93% (จากการซื้อจากนักลงทุน 2 ราย ที่ราคาประมาณ 10.77 บาท) ก่อนที่จะขายให้ ANAN 5% (ในราคา 12 บาท) ปัจจุบันถือหุ้น 17.09%  

3.มีโอกาสที่ราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวก เนื่องจากแสดงถึงการแย่งชิงสินทรัพย์ที่มีค่าของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ

ด้านนักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด ให้มุมมองว่าประเด็นดราม่าระหว่างผู้ถือหุ้น ไม่ได้ทำให้ทิศทางการดำเนินงานเปลี่ยนไป โดยเชื่อว่าโครงสร้างการจัดการและแผนธุรกิจยังเป็นไปตามเดิม ซึ่งปี 2569 จะเริ่มเห็นการเก็บเกี่ยวอย่างมีนัยสำคัญ คาดกำไร 2.9 พันล้านบาท จากการโอนคอนโดฯ DCP และภาคท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว

โดยจากภาคท่องเที่ยวที่อ่อนแอกว่าคาด(แผ่นดินไหว, จีนหด, ตึงเครียดชายแดน) ผู้บริหารได้ปรับเป้ารายได้ธุรกิจโรงแรม(ไม่รวม รร.ดุสิตธานี กรุงเทพ) จากโต 15-18% เป็ น 7-10% แม้จะคงอัตราเข้าพักเฉลี่ย 75.0% แต่มีปรับลดเป้า ADR จากเพิ่มขึ้น 7.0% เป็นเพิ่มขึ้น 3.0% y-y ส่วนโรงแรมดุสิตธานีกรุงเทพ ปรับอัตราเข้าพักลงจาก 56% เป็น 49% และ ADR จากโต 8-10% เป็น 6-8%

ทั้งนี้ ปรับประมาณการลง  แต่ให้อัตราเข้าพักโรงแรม (ไม่รวมโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ) ต่ำกว่าผู้บริหารเป็น 73.0% หลังสศช. ปรับเป้านักท่องเที่ยวลงอีกเป็น 33 ล้านคน ส่วน ADR เราใช้ต่ำกว่าที่ 3.0% ทุกโรงแรม ขณะที่ส่วนอื่นๆใกล้เคียงกับประมาณการเดิมอยู่แล้ว 

ดังนั้น ส่งผลให้กำไรสุทธิถูกปรับลง 75.1% เป็น 35 ล้านบาท และยังคงให้ภาพ Turnaround ตามเดิม โดยการดำเนินงานครึ่งปีหลังปี 2568 จะเร่งตัวขึ้นจากฤดูกาลท่องเที่ยว และสมมติฐานโอนคอนโดฯ DCP ที่ 10% ปีนี้ ซึ่งหากมองแบบอนุรักษ์นิยมที่ P/BV 1.0 เท่า ราคาเหมาะสมเบื้องต้นปีหน้าจะสูงได้ถึง 14.75 บาท ทำให้ DUSIT ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการลงทุนซื้อถือข้ามปี