รายงานพิเศษ : CMAN รับมือความผันผวนของตลาด เพิ่มประสิทธิภาพ-ควบคุมต้นทุน รักษามาตรฐานคุณภาพและการส่งมอบสินค้า
ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น การปรับตัวเพื่อรับมือปัจจัยท้าทายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งในอุตสาหกรรมปูนไลม์ก็กำลังเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรง แต่ไม่กระทบกับบมจ.เคมีแมน (CMAN) เนื่องจากบริษัทได้ปรับตัว โดยบริหารจัดการผ่านการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ การควบคุมต้นทุน การรักษามาตรฐานคุณภาพสินค้าและการส่งมอบที่เชื่อถือได้ ควบคู่กับการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า
ขณะที่ หม่อมหลวงจันทรจุฑา จันทรทัต ประธานกรรมการ บมจ.เคมีแมน (CMAN) ผู้ผลิตปูนไลม์และผลิตภัณฑ์เคมีต่อเนื่องระดับโลก ภายใต้แบรนด์ CHEMEMAN ให้ภาพแนวโน้มธุรกิจปี 2568 โดยเชื่อว่า ครึ่งหลังของปี 2568 ภาคธุรกิจยังเผชิญกับสภาวะแวดล้อมที่ยังคงอ่อนแอลงจากหลายปัจจัย ได้แก่ ความขัดแย้งที่ยังดำเนินอยู่ในตะวันออกกลางและสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ผลกระทบระยะยาวจากการที่สหรัฐอเมริกาปรับขึ้นภาษีนำเข้า ส่งผลให้ลูกค้าที่ดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ ต้องทบทวนกลยุทธ์ด้านการจัดซื้อจัดหา หรือเผชิญกับแรงกดดันด้านอัตรากำไรจากโครงสร้างภาษีใหม่นี้
ภาวะหนี้ของภาครัฐและเอกชนที่อยู่ในระดับสูงทั่วโลก ยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจโดยรวม ขณะที่เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัว ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ พลังงาน และค่าระวางขนส่งอาจปรับตัวลดลง แต่จะมีความผันผวนมากขึ้น
ในส่วนภาคอุตสาหกรรม ผู้ผลิตปูนไลม์จะเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะจากผู้ผลิตในประเทศจีน ซึ่งแม้จะยังคงได้เปรียบด้านต้นทุน แต่ผู้ผลิตหลายรายเริ่มได้รับผลกระทบจากกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น และต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น
แต่ CMAN ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมปูนไลม์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังคงมุ่งมั่นในการบริหารจัดการความผันผวนของตลาด ผ่านการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึงการควบคุมต้นทุน การรักษามาตรฐานคุณภาพสินค้าและการส่งมอบที่เชื่อถือได้ ควบคู่กับการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า นอกจากนี้ทั้งกลุ่มบริษัทของเคมีแมนได้ดำเนินการตามแผนงานอย่างมีประสิทธิภาพและมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พร้อมตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม และเร่งดำเนินการเจรจาการขายกับลูกค้าเป้าหมาย เพื่อเพิ่มปริมาณขายให้สอดคล้องกับเป้าหมายที่ตั้งไว้
“เคมีแมนมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าขยายตลาดเป้าหมายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเติบโต ระยะยาว ซึ่งรวมถึงโครงการใหม่ในประเทศอินเดียและอินโดนีเซีย”
ซึ่งด้านสถานะการเงินในปี 2568 เชื่อว่า จะแข็งแกร่งขึ้นจากการชําระหนี้อย่างต่อเนื่อง และบริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับสถาบันการเงินแห่งใหม่ โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม เพื่อสนับสนุนบริษัทย่อยที่ประเทศเวียดนามในการดําเนินการจัดหาแหล่งเงินทุนเอง (Local Financing) หากดำเนินการได้สำเร็จ จะช่วยลดความเสี่ยงด้านความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนในอนาคตได้อย่างมีนัยสำคัญ
ส่วนการดำเนินงานด้านความยั่งยืนที่สำคัญในปี 2568 บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar farm) เพิ่ม 2 เมกะวัตต์ ที่โรงงานแก่งคอย ซึ่งคาดว่า จะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3 นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะสั่งซื้อรถบรรทุกไฟฟ้าเพิ่มอย่างน้อย 10 คัน รวมทั้งสิ้น 20 คัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุน
ขณะเดียวกันเคมีแมนยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารทรัพยากรบุคคล และเดินหน้าปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรอย่างต่อเนื่องเพื่อเตรียมพร้อมสู่อนาคต โดยระหว่างการเปลี่ยนผ่านสู่บุคลากรรุ่นใหม่ องค์กรจะนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ ควบคู่กับการสรรหาบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการปรับตัวและความยั่งยืน ในระยะยาว