GPSC ปีนี้โรงไฟฟ้าหมดสัญญา นักวิเคราะห์คาดฉุดกำไรสุทธิ 300 ลบ. เตรียมแผนเซ้งต่อโรงไฟฟ้าจาก ปตท.
นักวิเคราะห์คาด GPSC กำไรไตรมาส 3 โดดเด่นต่อเนื่อง แต่ปี 2568 ยังมีแรงกดดันโรงไฟฟ้าหมดสัญญา คาดกระทบกำไรกว่า 300 ล้านบาท พร้อมพิจารณาเข้าซื้อสินทรัพย์จากกลุ่ม PTT เสริมแกร่งธุรกิจ
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผย มุมมองต่อ GPSC โดยคาดกำไรไตรมาส 3/68 จะยังคงอยู่ในระดับสูง หนุนจากทั้งการดำเนินงานหลักและกำไรจากการขายสินทรัพย์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
ทั้งนี้การดำเนินงานหลักในครึ่งหลังปี 2568 อยู่ในระดับปานกลาง ในแง่การดำเนินงานหลัก บริษัทฯ คาดว่าผลการดำเนินงานในครึ่งหลังปี 2568 จะทรงตัวเมื่อเทียบกับครึ่งแรกปี 2568 โดยในไตรมาส 3/2568 อัตราค่าไฟฟ้าคาดว่าจะลดลงเพียงประมาณ 2% จากไตรมาสก่อน
ขณะที่ราคาก๊าซธรรมชาติคาดว่าจะลดลง 3–4% จากไตรมาสก่อน ซึ่งน่าจะส่งผลบวกเล็กน้อยต่อ spark spread และอัตรากำไร
นอกจากนี้ กำไรจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ได้แก่ XPCL (1.3GW, ถือหุ้น 25%), Huay Ho (152MW, ถือหุ้น 67%) และ NL1PC (65MW, ถือหุ้น 40%) คาดว่าจะถึงจุดสูงสุดในไตรมาส 3/2568 จึงคาดว่ากำไรจะอยู่ที่ราว 1.1–1.2 พันล้านบาท
ขณะเดียวกัน บริษํทเดินหน้ามาตรการลดต้นทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่ม EBITDA กลยุทธ์การลดต้นทุนของ GPSC ตั้งเป้าเพิ่มกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) 500 ล้านบาทในปี 2568 โดยในครึ่งแรกปี 2568 บริษัทฯ ทำได้แล้ว 214 ล้านบาท และผู้บริหารคาดว่าผลประกอบการในครึ่งหลังปี 2568 จะดีกว่าเดิม มีโอกาสสูงที่จะเกินเป้าทั้งปีมากกว่า 10% อย่างไรก็ตาม ผลบวกนี้อาจถูกหักล้างบางส่วนจากการสิ้นสุดสัญญาโรงไฟฟ้าศรีราชา IPP ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิ 300 ล้านบาทตลอดทั้งปี
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในอนาคต บริษัทฯ ได้ตั้งงบลงทุน (capex) สำหรับปี 2568–72 ไว้ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท โดยส่วนใหญ่จะเน้นการลงทุนในโครงการ ERU (กำลังผลิต 250 MW ถือหุ้น 100%) ในช่วงปีหลัง ๆ ในระยะกลาง บริษัทฯ จะมุ่งเน้นการขยายกำลังการผลิตโซลาร์ฟาร์มของ AEPL ในอินเดียจากระดับปัจจุบันที่ 5.3GW เป็น 20GW ภายในปี 2573
นอกจากนี้ GPSC ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาโอกาสเข้าซื้อสินทรัพย์จากกลุ่ม PTT ซึ่งเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติกำลังการผลิตราว 300–350MW จากการมีการผนึกกำลังที่แข็งแกร่งกับกลุ่ม PTT ทำให้ GPSC มีโอกาสสูงที่จะเป็นผู้ประมูลสินทรัพย์เหล่านี้ แนะนำ “ซื้อ” และให้ราคาเป้าหมายที่ 41.50 บาท อ้างอิงจากวิธีการประเมินมูลค่า DCF โดยใช้ WACC ที่ 8%
ยอดนิยม
%20copy_0.jpg)
จับตาวันนี้! แรงซื้อปิโตรฯ ปะทะคดีทักษิณ ใครกันแน่! จะชี้นำตลาดหุ้นไทย
%20copy_0.jpg)
SAPPE จาก “ดาวรุ่ง” สู่ “ดาวร่วง”? ราคาดิ่งแรง 68% ในเวลา 1 ปี โบรกฯ ให้ “ขาย” ผลงานครึ่งปีหลังทรุด
_0.jpg)
หุ้นชิ้นส่วนฯ ราคาพุ่งแรง HANA นำโด่ง! ทะยานกว่า 5% รับสัญญาณบวกส่งออก–PMI หนุน
_0.jpg)
หุ้นไทยโล่ง? “ทักษิณ” พ้นคดี 112 แต่เกมยังไม่จบ ลุ้น “คลิปเสียงฮุนเซน” ศุกร์หน้า อาจชี้ชะตาตลาดหุ้น
%20_0.jpg)