จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : DPAINT ผลงานดีขึ้น ครึ่งปีหลังรับอานิสงส์ธุรกิจรับสร้างบ้าน ดันยอดขายเติบโตต่อเนื่อง


20 สิงหาคม 2568

สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านเชื่อครึ่งปีหลัง ธุรกิจยังเติบโตได้ต่อเนื่อง  หนุนผลงานธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยเฉพาะตลาดสีทาบ้าน รวมทั้งผลงานบมจ.สีเดลต้า (DPAINT)  ที่ปรับตัวดีขึ้น สะท้อนจากผลการดำเนินงานที่ขาดทุนลดลง

รายงานพิเศษ DPAINT_S2T (เว็บ) copy.jpg

นายอนันต์กร อมรวาที นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ระบุสถานการณ์ตลาดบ้านสร้างเองช่วงครึ่งปีแรก 2568 มีมูลค่า 96,000 ล้านบาท แบ่งเป็นกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีมูลค่าสูงสุด อันดับ 1 คือ 19,200 ล้านบาท คิดเป็น 20% และต่างจังหวัด มูลค่า 76,800 ล้านบาท คิดเป็น 80% อันดับ 2 คือภาคใต้ มูลค่า 18,240 ล้านบาท คิดเป็น 19% อันดับ 3 คือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มูลค่า 16,320 ล้านบาท คิดเป็น 17%

และเชื่อว่า ธุรกิจรับสร้างบ้านยังสามารถเติบโตได้ดีในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 จาก 6 ตัวเร่งที่สำคัญ ได้แก่

1. เรียลดีมานด์ (Real demand) หรือความต้องการสร้างบ้านของกลุ่มลูกค้าที่มีที่ดินอยู่แล้ว มีเงินออม พร้อมที่จะปลูกสร้างบ้าน ยังมีความต้องการอยู่เป็นจำนวนมาก ไม่ค่อยผันผวนเหมือนกับตลาดอสังหาริมทรัพย์

2. การรับรู้แบรนด์บริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ ทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นและมั่นใจในการใช้บริการของสมาชิกสมาคมฯ มากกว่าผู้รับเหมาทั่วไป โดยพิจารณาได้จากมาตรฐานงานก่อสร้างที่ชัดเจน สัญญาว่าจ้างที่รัดกุม การให้บริการหลังการขายแบบครบวงจร และสำคัญที่สุด คือสร้างบ้านแล้วได้บ้าน ไม่มีปัญหาเรื่องทิ้งงาน

3. บริษัทสมาชิกในสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านยังไม่ปรับราคาขึ้น จึงเป็นโอกาสของผู้บริโภคที่จะสร้างบ้านใหม่ในราคาเดิม แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการปรับขึ้นค่าแรงไปแล้วก่อนหน้านี้ ขณะที่ราคาวัสดุก่อสร้างก็มีแนวโน้มปรับราคาขึ้นในอนาคต

4. เป็นช่วงไฮซีซัน (High Season) ของตลาดรับสร้างบ้าน จากการเก็บสถิติของบริษัทรับสร้างบ้าน ช่วงไตรมาส 3 จะเป็นช่วงที่ผู้บริโภคตัดสินใจจองปลูกสร้างบ้านในช่วงนี้

5. ได้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ สามารถกู้ได้ 100% จากธนาคารพันธมิตร

6. สมาคมฯ มีการจัดงานแฟร์ในไตรมาส 3 เพื่อกระตุ้นตลาดโดยตรง 

การเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจรับสร้างบ้านในช่วงครึ่งปีหลัง ส่งผลดีต่อธุรกิจของ  บมจ.สีเดลต้า (DPAINT)  ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สีทาอาคาร  ซึ่งผลงานในช่วงไตรมาส 2/68  บริษัทฯและบริษัทย่อย มีกำไรขั้นต้น  49.8 ล้านบาท และ 52.1 ล้านบาท ตามลำดับ เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน  คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับร้อยละ 28.2 และ ร้อยละ 33.4 ตามลำดับ 

โดยอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯที่เพิ่มขึ้น มีสาเหตุหลักจากการปรับสัดส่วนการขาย และการควบคุมต้นทุนการผลิต เพื่อให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลง  

ส่วนผลการขาดทุนของบริษัทก็ปรับตัวดีขึ้น โดยบริษัทและบริษัทย่อย มีผลขาดทุนสุทธิ 13.34 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.06 บาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 41.03 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.18 บาท