DELTA กำไรโตปีละ 23% JPMorgan เพิ่มคำแนะนำ “Overweight” ชูเป็นบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ใหญ่สุดในอาเซียน

รายงานความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ในการซื้อขายช่วงเช้านี้ได้ปรับขึ้นอย่างร้อนแรง โดยปรับตัวขึ้นมากสุดถึง 4.72% ไปอยู่ที่ระดับราคา 144 บาท หลัง JPMorgan ปรับคำแนะนำเป็น “Overweight” ชี้เป็นบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ใหญ่สุดในภูมิภาคอาเซียนที่จะคว้าโอกาสการเติบโตไปกับโครงสร้างพื้นฐาน และมีศักยภาพการเติบโตในระยะยาว

JPMorgan ได้จัดอันดับหุ้น DELTA พร้อมกับให้คําแนะนําการลงทุนเป็น “Overweight” และกําหนดราคาเป้าหมาย 154 บาท โดยมองว่า DELTA อยู่ในตําแหน่งที่ดีในการคว้าโอกาสการเติบโตไปกับโครงสร้างพื้นฐาน ในฐานะผู้ผลิตอิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในไทยที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาคอาเซียน และเป็นผู้ผลิตโซลูชันพลังงานชั้นนําสําหรับดาต้า เซ็นเตอร์และยานยนต์ไฟฟ้า

พร้อมกับคาดการณ์ว่ารายได้ของ DELTA จะเติบโต 9% ในปีงบประมาณ 2568, 18% ในปีงบประมาณ 2569 และ 12% ในปีงบประมาณ 2570 โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการที่ยั่งยืนสําหรับโซลูชันพลังงานของบริษัท ซึ่งมีพื้นฐานมาจากการใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่แข็งแกร่งและการลงทุนอย่างต่อเนื่องจากผู้ให้บริการคลาวด์

สำหรับคาดการณ์การเติบโตนี้จะผลักดันให้เกิดอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีของกําไร (CAGR) ที่ 23% ในช่วงปีงบประมาณ 2568-2570 พร้อมกับการขยายตัวของอัตรากําไร เมื่อ DELTA รับคําสั่งซื้อระบบทําความเย็นด้วยของเหลวในปี 2569

ทั้งนี้ JPMorgan ให้พรีเมียมในการประเมินมูลค่าของ DELTA มีความเหมาะสม สะท้อนถึงคุณค่าความหายากในฐานะตัวแทนโดยตรงเพียงรายเดียวในตลาดศูนย์ข้อมูลและเซิร์ฟเวอร์ AI ควบคู่ไปกับตําแหน่งหลักในดัชนีสําคัญของไทย—SET50 และ SET100