AOT ราคาทะยานแรง 8.97% โบรกฯ เตือนระวังแรงเก็งกำไร เหตุขึ้นค่าธรรมเนียมผู้โดยสารยังไม่แน่นอน
ราคาหุ้นบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ในวันนี้ ( 17 ก.ค. 68) ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรง โดยปิดภาคเช้าที่ระดับ 39.50 บาท เพิ่มขึ้น 8.97% จากวันก่อนหน้า
ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า AOT ราคาหุ้นฟื้น 30% ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากความคาดหวัง Upside จากการขึ้นค่า PSC (ค่าธรรมเนียมผู้โดยสาร) และการเจรจาสัญญา King Power อาจไม่ worst อย่างที่เราคาด อย่างไรก็ดี ทั้งประเด็นการขึ้นค่า PSC และกรณี King Power ยังเป็นประเด็นที่มีความไม่แน่นอน แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 31.25 บาท
กรณีการขึ้นค่า PSC เบื้องต้นความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นแน่ๆ (เนื่องจาก สนง. การบินพลเรือนเห็นด้วยแล้ว) คือ AOT จะปรับค่า PSC ขึ้นที่ 5 บาท/หัว เท่านั้น (ภายในประเทศ จาก 130 บาท เป็น 135 บาท และระหว่างประเทศ จาก 730 บาท เป็น 735 บาท) จะเป็น Upside ต่อกำไร AOT เพียง 1% เเละราคาเป้าหมายจะมี Upside 0.25 บาท ทั้งนี้ ประเมิน Sensitivities ทุก 50 บาทที่ปรับขึ้น จะเป็น Upside ต่อกำไร AOT ที่ 10-11% และเป็น Upside ต่อราคาเป้าหมาย 3.25 บาท
ส่วน กรณีการเจรจากับ King Power มีการเปิดเผยจากรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT ว่า ราคาสัมปทานขั้นต่ำจะไม่ต่ำกว่าราคาที่ผู้ประมูลรายที่สองที่ประมูลในปี 2562 เสนอซึ่งเท่ากับว่าราคาขั้นต่ำจะมี Upside จากที่ประเมินกรณี Worst case ที่ 12,000 ล้านบาทต่อปี เป็น 13,525 ล้านบาทต่อปี จะเป็น Upside ต่อกำไร AOT ราว 5-6% เเละเป็น Upside ต่อราคาเป้าหมายที่ 1.75 บาท
นอกจากนี้ ยังมี Upside จากโครงการประมูลผู้ประกอบการภาคพื้นรายที่ 3 และคลังสินค้ารายที่ 3 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ มูลค่าโครงการรวม 6-7 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะประกาศผลภายในเดือน ก.ค. 2568 นี้ ซึ่งกรณีนี้ ยังไม่สามารถประเมิน Upside ได้เนื่องจากข้อมูลไม่เพียงพอ แต่เบื้องต้นเชื่อว่าจะมี Upside ต่อกำไรในระยะสั้นของ AOT ไม่มาก
ทั้งนี้มองว่า ควรระมัดระวังในการเก็งกำไรหลังจากนี้ เนื่องจากเมื่อเทียบราคาหุ้น AOT ปัจจุบันที่ 39 บาท เท่ากับตลาดกำลังคาดหวังว่า AOT จะต้องขึ้นค่า PSC ที่ 100 บาท/หัว และกรณี King Power ราคาขั้นต่ำจะต้องไม่ต่ำกว่า 13,525 ล้านบาท โดยทั้ง 2 ประเด็นนั้นยังมีความไม่แน่นอน
โดยคาดกรณีการขึ้นค่า PSC จะเกิดขึ้นแน่ๆ ที่ 5 บาท/หัวเท่านั้น ส่วนที่จะเพิ่มมากกว่านี้คงยังไม่เกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้ (จากภาวะเศรษฐกิจและการเมืองในปัจจุบัน) ส่วนกรณี King Power น่าจะมีความชัดเจนว่าสัมปทานขั้นต่ำจะอยู่ที่เท่าไรภายในเดือน ก.ย.-ต.ค.2568 นี้
ทั้งนี้ ราคาขั้นต่ำที่ประเมินที่ 12,000 ล้านบาท/ปี นั้นอิงจากราคาที่ผู้ประกอบการทุกรายน่าจะสามารถดำเนินธุรกิจได้โดยไม่ขาดทุน
ยอดนิยม
_0.jpg)
โบรกฯคาด “ทีมไทย” ปิดดีลเจรจาภาษีสหรัฐฯที่ 19-25% หนุน SET บวก 3 กลุ่มหุ้นใหญ่รับผลดี
_0.jpg)
การเมืองไทย เดือนส.ค.แรง! คดี ทักษิณ-อิ๊งค์ เขย่า SET INDEX โบรกฯ แนะเก็บหุ้นปันผล-กำไรโต
_0.jpg)
ทองขยับขึ้น! รับข่าวลือ “ทรัมป์” ปลด “พาวเวลล์” หนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
_0.jpg)
พุ่งแรงบนความหวัง? หุ้นไทยทะยานกว่า 30 จุด แห่เก็งกำไรดีลไทย-สหรัฐฯ
_0.jpg)