รู้หรือไม่ว่า! บริษัท ควอลลีเทค จำกัด (มหาชน) หรือ QLT คือผู้อยู่เบื้องหลังมาตรฐานความปลอดภัยในอุตสาหกรรมพลังงาน และปิโตรเคมีโครงการใหญ่ระดับประเทศ โดยมีกลุ่มลูกค้าเป็นบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของไทย และต่างประเทศ ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มบริษัทในเครือปตท. และกลุ่มบริษัทเชฟรอน
โดย QLT หรือ ควอลลีเทค ก่อตั้งมาแล้วกว่า 34 ปี และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอกว่า 16 ปี ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาไม่นาน QLT ได้มีการปรับรูปแบบโครงสร้างธุรกิจ ด้วยการเตรียมความพร้อมที่มุ่งเน้น และหาโอกาสการเติบโตให้กับบริษัทเพิ่มมากขึ้น โดยการมองหาศึกษา และจะลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ
สำหรับเรื่องราวของการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆเพื่อต่อยอดสร้างการเติบโตของ QLT จะเป็นอย่างไร และโครงสร้างลักษณะธุรกิจเดิมของ QLT คืออะไร ฐานะทางการเงินอยู่ในระดับไหน เราจะพาไปหาคำตอบ
โดย QLT หรือ “ควอลลีเทค” ดำเนินธุรกิจวิศวกรรมความปลอดภัย ด้านงานบริการทดสอบโดยไม่ทำลาย (Non-Destructive-Testing) การทดสอบแบบทำลาย (Destructive Testing) ด้วยการทดสอบคุณสมบัติทางกลและโลหะวิทยา (Mechanical and Metallurgical Testing) และการตรวจสอบและรับรองผล ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมตามมาตรฐานสากล
ทั้งนี้ QLT ก่อตั้งมาแล้วกว่า 34 ปี และเป็นสมาชิกในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ มาแล้ว 16 ปี ซึ่งให้บริการแก่ลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ
โดยลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทคือ กลุ่มบริษัทในอุตสาหกรรมพลังงานรายใหญ่ของประเทศที่ให้ความไว้วางใจให้ QLT เข้าไปตรวจสอบความปลอดภัยทดสอบระบบ ได้แก่ กลุ่มบริษัทในเครือปตท.แทบจะเกือบทุกบริษัท และกลุ่มบริษัทบางจาก รวมไปถึงบริษัทปูนซีเมนต์ไทย
สำหรับผลประกอบการของ QLT ย้อนหลังในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา จะมีกำไรสุทธิแค่ในปี 64-65 และจากนั้นผลประกอบการพลิกเป็นขาดทุน โดยผู้บริหารคุณกุลนิษฐ์ สารภาพ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน QLT เล่าให้เราฟังว่า
ส่วนหนึ่งที่ผลประกอบการมีผลขาดทุนนั้นเป็นเพราะว่าบรัทได้มีการใช้เงินลงทุนในธุรกิจที่ไม่มีความชำนาญ แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้หยุดดำเนินธุรกิจดังกล่าวเป๋นที่เรียบร้อยแล้ว หรือเรียกง่ายๆว่าตัดหยุดผลขาดทุนจากธุรกิจดังกล่าวไปแล้ว
และคุณกุลนิษฐ์ ยังได้ฉายภาพให้เห็นว่า ในอนาคตบริษัทมีแผนว่าจะเติบโต และมีความตั้งใจว่าจะเติบโตได้จากธุรกิจเดิมที่แข็งแรง และขยายให้แข็งแกร่งมากขึ้น จากการที่ QLT มีควาเชี่ยวชาญด้านวิศกรรมตรวจสอบไม่ทำลาย ที่ได้ขยายไปการให้บริการอื่นๆ
รวมไปถึงการนำนวัตกรรมใหม่ และ AI หรือ ระบบปัญญาประดิษฐ์ เข้ามาช่วยในการให้บริการกับลูกค้า ซึ่งคุณกุลนิษฐ์ ยืนยันว่า จะได้เห็นในช่วง 3-5 ปีข้างหน้าอย่างแน่นอน
ขณะเดียวกันคุณกุลนิษฐ์ เล่าต่อว่า บริษัทมีความตั้งใจที่จะกระจายความเสี่ยงไปยังธุรกิจใหม่ ซึ่งเน้นย้ำว่าบริษัทจะต้องทำการศึกษาลงลึกในรายละเอียดให้ชัดเจนก่อนที่จะตัดสินใจการลงทุน ซึ่งหากเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักของ QLT อยู่แล้วนั้นก็มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งดำเนินการ
แต่หากเป็นธุรกิจใหม่ที่ทาง QLT ไม่มีความเชี่ยวชาญชำนาญพอ ก็มีความจำเป็นที่จะต้องหาพันธมิตรเข้ามาร่วมลงทุน โดยคุณกุลนิษฐ์ ระบุว่า ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้านักลงทุนจะได้เห็นการลงทุนในธุรกิจใหม่ของ QLT อย่างแน่นอน
สำหรับจุดแข็งของ QLT ที่ถือเป็น DNA ซึ่งเป็นวัฒนธรรมขององค์กรที่ทำให้ QLT ประสบความสำเร็จ และทำให้ลูกค้าเลือกใช้บริการ QLT มาถึงทุกวันนี้คือ
1.ยึดมั่นในหลักของความถูกต้อง ก็คือให้ผลของการตรวจที่ถูกต้องกับลูกค้า 2.ความปลอดภัย โดยการทำงานของ QLT จะต้องปลอดภัยทุกขั้นตอน และ3.ใส่ใจอย่างมีคุณภาพ ก็คือการทำงานอย่างมีคุณภาพ
จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้น คงจะพอทำให้เราเห็นภาพในอนาคตของ QLT ได้มากขึ้นว่าต่อจากนี้ไป QLT จะกลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้ง ภายใต้กลยุทธ์การบริหารงานแบบใหม่ในธุรกิจเดิมที่มีความเชี่ยวชาญ ภายใต้จุดแข็งที่บริษัทมี
รวมไปถึงการแสวงหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่ช่วยสร้างการเติบโตร่วมกับพันธมิตร อีกทั้งการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยต่อยอดการมูลค่า และโอกาสการเติบโตในธุรกิจเดิมที่มีความเชี่ยวชาญ
ยอดนิยม
%20copy_0.jpg)
BGRIM อัพไซด์ใหม่ โบรกฯ ชี้หลัง COD ดาต้าเซ็นเตอร์ ดันกำไรเพิ่มอีก 700-800 ลบ.ต่อปี
_0.jpg)
5 หุ้นตัวตึง! ราคาติดจรวจ ช็อก! ผ่านไป 3 เดือน พุ่ง 1,000% พบงบดิ่งเหว แบกขาดทุนบาน

QLT ผู้อยู่เบื้องหลังความปลอดภัย ธุรกิจพลังงานรายใหญ่ของไทย
%20copy_0.jpg)
ทองร่วงแรง! 250 บาท กังวลเฟดชะลอลดดอกเบี้ย เงินเฟ้อยังสูง แนะ “รอซื้อ” แนวรับ 3,318 ดอลลาร์
%20copy_0.jpg)