ทองจะ All Time High หรือลงแรง! ขึ้นอยู่กับสงครามการค้า ลงมา 3,300 ดอลลาร์ ทยอยสะสม

Hua Seng Heng ประเมินราคาทองคำในเดือนกรกฎาคม 68 ยังมีแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศ และการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอยู่ในระดับที่อ่อนค่าที่สุดในรอบ 52 ปี ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย



ปัจจัยสำคัญมาจาก "One Big Beautiful Bill" หรือร่างกฎหมายใช้จ่ายขนาดใหญ่ ที่จะผลักดันหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีก 3.4 ล้านล้านดอลลาร์ในทศวรรษหน้า ตามคาดการณ์ของสำนักงานงบประมาณรัฐสภา (CBO) ซึ่งจะกดดันดอลลาร์ให้อ่อนค่าลงต่อเนื่อง และกระตุ้นความต้องการลงทุนในทองคำ

ขณะที่สหรัฐฯ เตรียมบังคับใช้มาตรการตอบโต้ทางการค้าในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ส่งหนังสือแจ้งไปยังกว่า 170 ประเทศ ยิ่งสร้างแรงกดดันต่อภาวะเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของตลาด

Hua Seng Heng มองกรอบราคาทองคำระยะสั้นที่ 3,100–3,450 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยให้จับตาท่าทีของสหรัฐและประเทศคู่ค้าหลักเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดแนวโน้มระยะต่อไป

"แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวผันผวน ขึ้นอยู่กับการเจรจาอัตราภาษีนำเข้าที่สหรัฐฯ ที่เรียกเก็บกับประเทศคู่ค้า หลังจากทรัมป์ขยายเส้นตายจากวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 เป็นวันที่ 1 สิงหาคม 2568 เพื่อเปิดโอกาสให้มีการเจรจาเพิ่มเติม ซึ่งถ้าบรรลุข้อตกลงการค้าได้ อาจส่งผลลบต่อราคาทองในระยะสั้น" 

แนะนำทยอยสะสม 3,300 ดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนระยะยาวแนะกลยุทธ์ Wait & See ไปก่อน