ถึงเวลาโละ! หุ้นตกแต่งบ้านเข้าสู่ช่วงขาลง? นักวิเคราะห์สั่ง “ขาย” ยกแผง

เกิดอะไรขึ้นกับหุ้นในกลุ่มซ่อมแซมและตกแต่งบ้าน (HD&C) ทั้ง GLOBAL , DOHOME ,  HMPRO และ ILM เพราะล่าสุดนักวิเคราะห์ปรับลดคำแนะนำ เป็น “ขาย” สะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่อ่อนแอลง จากอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอตัวเป็นวงกว้าง มาตรการกระตุ้นการคลังที่ล่าช้า และการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงมากขึ้น

ในมุมมองนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการสอบถามผู้บริหารกลุ่มซ่อมแซมและตกแต่งบ้าน ฝ่ายวิจัยคาดยอดขายสาขาเดิมเดือนพ.ค. 2568 ของบริษัทที่ให้คำแนะนำเฉลี่ยลดลง 8.4% มากกว่ายอดขายสาขาเดิมที่ลดลง 7.6% ในเดือนเม.ย. 

โดยหลักๆ ยอดขายสาขาเดิมลดลงจาก 3 ปัจจัยหลัก 1. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ยังเปราะบาง – แม้อัตราเงินเฟ้อจะทรงตัว แต่ความกังวลเรื่องความมั่นคงของรายได้ โดยเฉพาะในกลุ่มที่พึ่งพาการส่งออกและท่องเที่ยวยังคงกดดันการใช้จ่าย 

2.มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ล่าช้า – มาตรการแจกเงินสดหรือกระเป๋าเงินดิจิทัลยังไม่มีความชัดเจน ทำให้พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยเฉพาะผู้ซื้อบ้าน ยังคงระมัดระวัง 

3.ตลาดค้าปลีกที่กระจัดกระจาย – การแข่งขันจาก E-commerce และการทำโปรโมชั่นราคากดดันอัตรากำไรและลดประสิทธิภาพในการขยายสาขาหรือปรับโครงสร้างสินค้า ส่งผลให้การเติบโตของยอดขายสาขาเดิมปรับลดลงต่อเนื่อง

ลดประมาณการยอดขายสาขาเดิม

ยอดขายสาขาเดิมของ DOHOME ในเดือนพ.ค. ลดลงเหลือ -8% จาก -1% ในเดือนเม.ย. และเติบโตเพียง +0.4% ในไตรมาส 1 ส่งผลให้ยอดขายสาขาเดิมนับตั้งแต่ต้นไตรมาสจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ -4.3% สะท้อนความอ่อนแอของอุปสงค์ในวงกว้าง ทั้งจากผู้บริโภคปลายทางและภาคโครงการ/องค์กร จึงปรับลดประมาณการยอดขายสาขาเดิมปี 2568 ลงจาก 0% เหลือ -5%

ยอดขายสาขาเดิมของ GLOBAL ในเดือนเม.ย.และพ.ค. ลดลง -15% และ -12% ตามลำดับ ส่งผลให้ยอดขายสาขาเดิมนับตั้งแต่ต้นไตรมาสจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ -13.5% สะท้อนความอ่อนแอของอุปสงค์ในต่างจังหวัด ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากรายได้ภาคเกษตรที่ลดลง และการเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐที่ล่าช้า จึงปรับลดประมาณการยอดขายสาขาเดิมปี 2568 จาก -2% เหลือ -10%

ยอดขายสาขาเดิมของ HMPRO ในเดือนเม.ย. และ พ.ค. ลดลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ -11% และ -9% ตามลำดับ ส่งผลให้ยอดขายสาขาเดิมนับตั้งแต่ต้นไตรมาสจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ -9.8% สะท้อนการชะลอตัวของการใช้จ่ายสินค้าฟุ่มเฟือยในเขตเมือง จากการชะงักของรายได้และไม่มีแรงกระตุ้นจากโปรโมชั่นขนาดใหญ่ จึงปรับลดประมาณการยอดขายสาขาเดิมปี 2568 จาก 0% เหลือ -5%

และยอดขายสาขาเดิมของ ILM ลดลงมาอยู่ที่ -5% ทั้งในเดือนเม.ย.และพ.ค. ส่งผลให้ยอดขายสาขาเดิมนับตั้งแต่ต้นไตรมาสจนถึงปัจจุบัน -5% แม้บริษัทเคยได้ประโยชน์จากอุปสงค์เฟอร์นิเจอร์ในเขตเมือง แต่แนวโน้มล่าสุดสะท้อนการชะลอตัวของตลาดที่อยู่อาศัยและกิจกรรมการตลาดที่ลดลง จึงปรับประมาณการยอดขายสาขาเดิมปี 2568 จาก 0% เหลือ -5%

ปรับลดประมาณการกำไร

หากอิงจากประมาณการยอดขายสาขาเดิมใหม่ จึงปรับลดประมาณการกำไรหลักปี 2568 ของ DOHOME ลง 26% เหลือ 577 ล้านบาท (ลดลง 14% จากปีก่อน) GLOBAL ลง 16% เหลือ 1,899 ล้านบาท (ลดลง 20%จากปีก่อน) HMPRO ลง 10% เหลือ 6,087 ล้านบาท (ลดลง 6.4% จากปีก่อน) ILM ลง 5% เหลือ 699 ล้านบาท (ลดลง 10% จากปีก่อน) 

โดยรวมกำไรของหุ้นกลุ่ม HD&C ถูกปรับลดลงเฉลี่ย 10% จากปีก่อน ทั้งนี้ การปรับประมาณการยังรวมผลกระทบจากฤดูฝนที่มาถึงเร็วกว่าปกติ ซึ่งส่งผลลบต่อกิจกรรมการก่อสร้าง และมาตรการกระตุ้นที่ล่าช้า จึงยังไม่หนุนการใช้จ่ายสินค้าคงทน

ผ่านพ้นช่วงการเติบโตสูงไปแล้ว

ขณะเดียวกันมองว่าหุ้นกลุ่มนี้ผ่านพ้นช่วงการเติบโตสูงไปแล้ว และกำลังเข้าสู่ระยะ Mature (อิ่มตัว) ของวัฏจักรธุรกิจ การขยายสาขาในอนาคตจะจำกัด เนื่องจากเครือข่ายสาขาอยู่ในระดับใหญ่มากอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น HMPRO และ GLOBAL มีสาขาราว 150 แห่ง และจะขยายได้เพียง 7–8 สาขาต่อปี หรือโตเพียง 5–6% ต่อปี DOHOME มีสาขาราว 50 แห่ง ILM มีประมาณ 35 สาขา

ดังนั้นจึงปรับลดค่าเป้าหมาย P/E ของกลุ่ม HD&C ลงเหลือ 11.5 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตอยู่ 2 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสะท้อนระดับที่เหมาะสมกับบริษัทในช่วง Mature โดยอิงจากกรอบอ้างอิงของ Aswath Damodaran (NYU Stern)

ดังนั้นภายใต้ประมาณการกำไรใหม่และ P/E เป้าหมายใหม่ จึงปรับลดราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ดังนี้

DOHOME: จาก 6.80 บาท เหลือ 2.60 บาท (ปรับคำแนะนำจาก “ซื้อ” เป็น “ขาย”)

GLOBAL: จาก 6.00 บาท เหลือ 4.00 บาท (คงคำแนะนำ “ขาย”) 

HMPRO: จาก 9.80 บาท เหลือ 5.35 บาท (ปรับคำแนะนาจาก “ซื้อ” เป็น “ขาย”) 

ILM: จาก 13.20 บาท เหลือ 11.50 บาท (คงคำแนะนำ “ขาย”)