จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : EP แจ้งเกิด 4 โรงไฟฟ้าในเวียดนาม เดินหน้าขออนุมัติ COD สร้างรายได้เติบโตแข็งแกร่ง


16 มิถุนายน 2568

การเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามเป็นที่ดึงดูดนักลงทุนทั่วโลก ส่งผลต่อการใช้ไฟฟ้าในประเทศที่ต้องมีเพียงพอเพื่อรองรับการใช้งาน หนุนการผลิตไฟฟ้าของ บมจ.อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป (EP) ในเวียดนามที่เข้าลงทุนถึง 4 โครงการ และเริ่มเข้าสู่ขั้นตอน COD

EP_รายงานพิเศษ S2T (เว็บ) copy_0.jpg

“เวียดนาม”ประเทศที่น่าจับตามอง สะท้อนจากมุมมองของ นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการอาวุโส หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ที่ระบุว่า เวียดนามเป็นประเทศที่น่าสนใจอย่างยิ่งในภูมิภาค โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วและมีเสถียรภาพ GDP ของเวียดนามในปี 2024 อยู่ที่ประมาณ 467 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  ซึ่งตามหลังไทยเพียงราว 5 หมื่นล้านดอลลาร์ เท่านั้น สะท้อนถึงศักยภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยมีปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้เศรษฐกิจเวียดนามเติบโตในระดับสูง ได้แก่ โครงสร้างประชากรที่มีคนหนุ่มสาวจำนวนมาก ชนชั้นกลางที่เติบโตอย่างรวดเร็ว (จาก 17 ล้านคนในปัจจุบัน คาดว่าจะเพิ่มเป็น 35 ล้านคนภายในปี 2035) หนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับต่ำ ระบบบริหารจัดการแบบพรรคเดียว ที่วางแผนพัฒนาระยะยาวอย่างมีประสิทธิภาพ โดยกำหนด KPI ชัดเจนให้กับหน่วยงานต่าง ๆ

โดยตลอดทศวรรษที่ผ่านมา เวียดนามยังคงยึดหลักนโยบายการเงินแบบระมัดระวัง โดยเน้นการควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับต่ำ ลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นการลงทุนและบริโภค พร้อมทั้งดูแลเสถียรภาพของค่าเงิน ให้เอื้อต่อการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่เอื้อประโยชน์ให้ภาคเอกชนสามารถวางแผนธุรกิจในระยะยาวได้อย่างมั่นใจ

นอกจากนี้ รัฐบาลเวียดนามได้ประกาศเป้าหมายการเติบโตอย่างชัดเจน โดยตั้งเป้าให้ GDP ปี 2025 เติบโตไม่ต่ำกว่า 8% และเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี ในช่วงปี 2026-2030 พร้อมด้วยมาตรการสำคัญ เช่น การปฏิรูปราชการ ลดจำนวนข้าราชการลงกว่า 20% ภายใน 5 ปี การส่งเสริมอุตสาหกรรมแรงงานเข้มข้น เช่น เครื่องนุ่งห่ม รองเท้า เฟอร์นิเจอร์ การยกระดับเป็นศูนย์กลางการผลิตอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยการดึงดูดบริษัทระดับโลกอย่าง Samsung และ Apple รวมถึงการต่อยอดสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น Semiconductor และ AI ตามแนวคิด New S-Curve

การเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนาม ส่งผลต่อการใช้ไฟฟ้าในประเทศที่ต้องมีเพียงพอ เพื่อรองรับการขยายตัวเศรษฐกิจ  ซึ่งสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าในเวียดนามของภาคเอกชนไทย  โดยเฉพาะ บมจ.อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป (EP)  ซึ่ง “ยุทธ  ชินสุภัคกุล” ประธานกรรมการ  ระบุว่า  โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศเวียดนาม ซึ่งบริษัทฯเข้าลงทุน จำนวนทั้งสิ้น 4 โครงการ ปัจจุบันได้ผ่านกระบวนการตรวจรับการก่อสร้างตามมาตรฐานของรัฐบาลเวียดนาม (Certification of Construction Works Acceptance: CCA) เป็นที่เรียบร้อย และล่าสุด โครงการ HL4 ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการไฟฟ้าอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา และเข้าสู่ขั้นตอนขออนุมัติ COD กับการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) คาดว่าจะสามารถเริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ภายในเดือนมิ.ย.นี้

"ขณะนี้โครงการ HL4 ได้ดำเนินการเชื่อมต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้า (Grid Connection) และผ่านการทดสอบความเสถียรในการผลิต (Reliability Test) ครบถ้วนทุกขั้นตอน คาดว่าจะเริ่ม COD ได้ภายในเดือนมิ.ย.นี้ และจะทำให้บริษัทฯ สามารถบันทึกรายได้จากโครงการได้ทันที" นายยุทธ กล่าว

ทั้งนี้ โรงไฟฟ้า HL4 จะจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าแห่งชาติเวียดนาม (EVN) ในอัตราราคาขาย 50% ของอัตราสูงสุดที่กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม (MOIT) กำหนดไว้ที่ 1,587.12 ดองเวียดนามต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง หรือ 794 ดองเวียดนามต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง โดยส่วนต่างที่เหลือ เมื่อได้ข้อสรุปอัตราค่าไฟฟ้าขั้นสุดท้าย (Final FIT) กับทาง EVN แล้วจะได้รับชำระย้อนหลังทั้งหมด และจะชำระค่าไฟฟ้าในอัตราใหม่ตลอดไป ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มเข้าสู่กระบวนการเจรจาแล้ว คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้     

ขณะเดียวกัน หลังโครงการ HL4 เริ่ม COD แล้ว จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถบริหารจัดการสภาพคล่องได้ดีขึ้น และยังได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก Vietcombank (VCB) ซึ่งเป็นธนาคารที่มีสินทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับ 4 ในเวียดนาม โดยจะได้รับการสนับสนุนเงินกู้กับ HL4 จำนวน 800,000 ล้านดอง หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยสามารถเบิกจ่ายได้ทันที 50 % ของวงเงิน และส่วนที่เหลือจะสามารถเบิกได้ภายหลังการตกลงเรื่องอัตราค่าไฟฟ้า (FIT) กับ EVN แล้วเสร็จ

"ในปี 2567 โครงการ Huang Linh 3 (HL3) ได้เริ่มรับรู้รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ EVN ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ เป็นต้นมา และล่าสุดโครงการ Huang Linh 4 (HL4) ก็พร้อมที่จะจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ให้แก่ EVN แล้วเช่นกัน ส่วนอีก 2 โครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินการในเวียดนาม ได้แก่ โครงการในจังหวัดญาลาย (Gia Lai) กำลังอยู่ระหว่างการออกเอกสารสิทธิการใช้ที่ดิน (LURC) เพื่อใช้ประกอบการขอใบอนุญาตประกอบกิจการไฟฟ้า คาดว่าจะสามารถเริ่ม COD ได้ภายในปี 2568" นายยุทธ กล่าว

EP