Smart Investment

"เสี่ยปู่" ลดสัดส่วนถือครอง 5 หุ้น ORI ถูกโละขายมากที่สุด พบยังกอดหุ้น PROUD แน่น


14 มิถุนายน 2568

จากการสำรวจข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในส่วนของพอร์ตลงทุนของ "สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล"หรือ เสี่ยปู่ ล่าสุด พบถือครองหุ้นจำนวน 15 บริษัท ขณะที่ในเดือนพ.ค. 2568 มีหุ้นในพอร์ตลงทุนที่ได้ทำการปิดสมุดทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้น จำนวน 6 บริษัท

เสี่ยปู่ ลดสัดส่วนถือครอง 5 หุ้น_S2T (เว็บ).jpg

จากข้อมูลดังกล่าวได้นำมาเปรียบเทียบการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นครั้งก่อน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นช่วงเดือนมี.ค.2568 จะเห็นว่า "เสี่ยปู่"ได้มีการลดสัดส่วนการถือครองหุ้นของ 5 บริษัท ประกอบด้วย

NETBAY ล่าสุดถือครอง 7,575,400 หุ้น จากเดิม 8,908,800 หุ้น ลดลง 1,333,400 หุ้น และถือผ่าน บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 2,543,200 หุ้น จากเดิมถือ 2,586,500หุ้น ลดลง 43,300 หุ้น

ORI ถือครอง 60,605,700 หุ้น จากเดิมถือ 75,260,000 หุ้น ลดลง 14,654,300 หุ้น

PCC ถือครอง 18,914,400 หุ้น จากเดิมถือ  24,899,500 หุ้น ลดลง 5,985,100 หุ้น

PRI ถือครอง 8,642,100 หุ้น จากเดิมถือ 9,436,500 หุ้น ลดลง 794,400 หุ้น และถือผ่าน บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 4,108,500 หุ้น ไม่เปลี่ยนแปลง

TEAMG ถือครอง 12,500,000 หุ้น จากเดิมถือ 15,000,000 หุ้น ลดลง 2,500,000 หุ้น และ ถือผ่าน บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 4,324,500 หุ้นจากเดิมถือ  4,715,800 หุ้น ลดลง 391,300 หุ้น

จากข้อมูลข้างต้นจะพบว่า "เสี่ยปู่"ได้ลดการถือครองหุ้น ORI มากที่สุด ขณะที่ยังคงรักษาสัดส่วนการถือครองหุ้น PROUDจำนวน 25,260,000 หุ้น คิดเป็น2.59% หรือเท่าเดิมกับการถือครองในครั้งก่อน รวมถึงในส่วนที่ถือผ่านบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 10,218,200 หุ้น คิดเป็น 1.05%

ขณะที่บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)  แนะนำซื้อ ORI ปรับราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 1.98 บาท เนื่องจากแนวโน้ม 2Q68 ยอดขายชะลอลง q-q และยังอ่อนตัว y-y จากยอดขายคอนโดที่หายไปในช่วง เม.ย. ส่วนผลกระทบแผ่นดินไหว ยังไม่เห็นการยกเลิกอย่างมีนัย rejected rate ปัจจุบัน 15% ยังมี Backlog คอนโดครบกำหนดโอนเข้ามาเพิ่ม 3 โครงการ ส่วนใหญ่เป็นคอนโดของ ORI ทำให้มียอดโอนคอนโดและ GPM สูงขึ้น q-q และอาจเห็นกำไรพิเศษเข้ามาเสริม แนวโน้มกำไรสุทธิ สูงขึ้น q-q แต่ยังอ่อนตัวหากเทียบ y-y, 3Q68 ฟื้นตัวต่อเนื่อง

2Q68 แนวโน้มยอดขายชะลอ q-q

2Q68 มีเปิดตัว 3 โครงการ รวมมูลค่า 6,200 ลบ. เป็นแนวสูง 1 โครงการ Origin Residenses-Sukhumvit มูลค่า 3,400 ลบ., แนวราบ 2 โครงการ โดยเป็นทำเลที่ดี BRI-Bangsaen มูลค่า 1,250 ลบ. มีลูกค้าให้ความสนใจแล้วกว่า 20 ยูนิต และ Grand BRI-Krungthep Kreetha-Suvarnabhumi มูลค่า 1,550 ลบ. ยอดขายจะสนับสนุนจากแนวราบที่กลับมาขายดีขึ้นในช่วง เม.ย.-พ.ค. แต่อาจชะลอลงจากยอดขายคอนโดที่หายไปในช่วงเดือน เม.ย. (ไปช่วยเหลือลูกบ้านแผ่นดินไหว) ทำให้แนวโน้มยอดขายชะลอตัว q-q เล็กน้อย แต่ยังอ่อนตัวหากเทียบ y-y

2Q68 แนวโน้มกำไรสูงขึ้น q-q แต่ยังอ่อนตัวหากเทียบ y-y

แนวโน้ม 2Q68 รายได้โอนสูงขึ้น q-q จากโอนโครงการในส่วนของ ORI มากขึ้น มีคอนโดครบกำหนดโอนเข้ามา 3 โครงการ โดยแบ่งเป็น ORI 2 โครงการ Origin Plug & Play E22 Station มูลค่า 2,580ลบ. ขายแล้ว 88% (มีโอน big lots ราว 600 ลบ.), The Hampton Suites Rayong มูลค่า 1,300 ลบ. ขายแล้ว 58% และ Origin Plug & Play Srinakarin(JV) มูลค่า 1,830 ลบ. ขายแล้ว 57%

มี GPM ฟื้นตัวดีขึ้น q-q จากคอนโดครบกำหนดโอนมี GPM สูง และมีสัดส่วนโอนแนวสูงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสินค้าแนวสูงมี GPM ที่สูงกว่าแนวราบจากตลาดบ้านมีแข่งขันที่รุนแรงในปัจจุบัน และอาจเห็นกำไรพิเศษจาก JV คอนโด 2 โครงการ รวมมูลค่า 80 ลบ.(ก่อนภาษี) ทำให้มีกำไรฟื้นตัวดีขึ้น q-q แต่ยังอ่อนตัวหากเทียบ y-y แนวโน้ม 3Q68 มีแผนการขายโรงแรมและคลังสินค้าเข้า REIT จะมีกำไรพิเศษขั้นต่ำราว 470 ลบ. ช่วยเสริมให้กำไรปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง

แผ่นดินไหว ยังไม่เห็นการยกเลิกอย่างมีนัย

เหตุการณ์แผ่นดินไหว เห็นลูกค้าส่วนใหญ่ ชะลอการตัดสินใจแต่ยังไม่มีการยกเลิกอย่างมีนัย ปัจจุบันมี rejected rate อยู่ระดับ 15% ทำให้กระทบต่อด้านผลประกอบการไม่มาก และมี Backlog รอโอนอยู่ ทางบริษัทฯได้เข้าไปซ่อมแซมห้องและส่วนกลางคาดว่าเสร็จภายใน 2Q68 ค่าใช้จ่ายยังอยู่ในวงเงินประกัน

ราคาพื้นฐาน 1.98 บาท/หุ้น อิงวิธี SOTP

ทางฝ่ายฯมีปรับ GPM คอนโดครบกำหนดโอนเพิ่มขึ้น ปรับกำไรปี 68 ขึ้น 6.6% อยู่ที่ 1,371 ลบ. +30.4%y-y ปรับราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 1.98 บาท คงคำแนะนำ ”ซื้อ”

เสี่ยปู่-ลดสัดส่วนถือครอง-5-หุ้น.jpg