Talk of The Town

โบรกฯ “แนะเก็งกำไร” 6 หุ้น ได้ประโยชน์ หลังตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับปรุงหลักเกณฑ์ซื้อขาย HFT


10 มิถุนายน 2568

โบรกฯ “แนะเก็งกำไร” 6 หุ้น_S2T (เว็บ) copy_0.jpg

ตลท. ปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับผู้ลงทุนกลุ่ม High-Frequency Trading (HFT) ให้ซื้อหลักทรัพย์ได้เฉพาะหลักทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่และมีสภาพคล่องสูง มีผลตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป โบรกฯมองไม่ผลต่อดัชนี ชี้หุ้นนอก SET100 ยังลงทุนผ่าน ETF ได้ แถมไม่ลงทุนหุ้นสภาพคล่องอยู่แล้ว จึงไม่อาจลดความผันผวนหุ้นกลาง-เล็ก

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้มุมมองว่า ตลท.ได้กำหนดให้ High-Frequency Trading (HFT) ซื้อหลักทรัพย์ได้เฉพาะหลักทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่และมีสภาพคล่องสูงใน SET100 เพื่อลดความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ขนาดกลางและเล็กที่อาจไม่มีสภาพคล่องในการซื้อขายอย่างเพียงพอ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 ก.ค. 2568 

โดยมองเป็นกลางต่อประเด็นนี้ และคาดไม่มีผลต่อดัชนีตลาดหุ้นไทย เพราะยังยกเว้น DW, Single Stock Futures, ETF ทำให้หุ้นนอก SET100 ที่มีการลงทุนผ่าน ETF ให้สามารถใช้ HFT ได้เหมือนเกณฑ์ Short Sell (ซึ่งปรากฎว่ามีกว่า 316 หลักทรัพย์ที่ให้ Short Sell ได้ เพราะฉะนั้น HFT จึงทำได้เหมือนกัน) 

ขณะเดียวกัน HFT ไม่ลงทุนในหุ้นที่สภาพคล่องต่ำอยู่แล้ว จึงยิ่งไม่มีผลในการช่วยลดความผันผวนในหุ้นกลาง-เล็ก และดัชนีตลาดหุ้นไทยถูกกดดันจากปัจจัยการเมืองในประเทศและเศรษฐกิจชะลอตัวเป็นหลัก หาก 2 เงื่อนไขนี้ยังไม่มีพัฒนาการเชิงบวกอัพไซด์การฟื้นตัวยังคงอยู่ในกรอบจำกัด

ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ให้มุมมองว่า วันนี้มีประเด็นที่ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ประกาศ ปรับเกณฑ์ให้ HIGH-FREQUENCY TRADING (HFT) สามารถซื้อได้เฉพาะหุ้นใน SET100 ตั้งแต่ 7 ก.ค. เป็นต้นไป ประเด็นนี้หนุนให้หุ้นขนาดเล็ก อย่าง SSET หรือ mai ที่ UNDERPERFORM มาตลอด มีโอกาสกลับมาคึกคักขึ้น 

ดังนั้นฝ่ายวิจัยจึงทำการค้นหาหุ้นนอก SET100 ที่มักมี PROGRAM TRADE เข้ามาซื้อขายคึกคัก และบางครั้งก็กดดันราคาในปีนี้ ทั้งหมด 97 บริษัท เชื่อว่าหุ้นดังกล่าวมีโอกาสฟื้นขึ้นมาได้ แนะนำ “เก็งกำไร” หุ้น CPAXT, STECON, PTG, PSL, THCOM, TKN เป็นต้น